โดนคู่แข่งตัดราคา จะแก้ปัญหานี้อย่างไร??

​​​​​​​​​ถ้าพูดถึงปัญหาที่น่าเอือมระอาอันดับต้น ๆ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย โดยเฉพาะการขายออนไลน์ คงหนีไม่พ้นเรื่องการ “ตัดราคา” ยิ่งถ้าขายของที่กำลังเป็นที่นิยมของตลาด เลี่ยงที่จะไม่เจอปัญหานี้ยาก วันนี้เรามีประสบการณ์จริงจากเจ้าของธุรกิจศูนย์บริการถ่ายน้ำมันเครื่อง Tire Monster คุณก้อง พีรเชษฐ์ โล่ห์สกุล ที่ปิดจุดอ่อนทำเลร้านไม่ดี มาขายสินค้าบน Shopee สร้างยอดขายเพิ่มถึง 4 เท่าตัว แต่ก็มาเจอปัญหาโดนคู่แข่งตัดราคาสินค้าบน Shopee ซึ่งคุณก้องมีวิธีแก้ปัญหาที่รับรองว่าถ้านำไปใช้ ช่วยแก้ปัญหาได้แน่นอน โดยสิ่งแรกที่ควรทำหลังเจอคู่แข่งตัดราคาคือตั้งสติ และรีบหาทางออก ซึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาการตัดราคานี้ได้ คือ การใช้ “Product Mix” หรือการผสมผสานของสินค้าหลายชนิดเข้าด้วยกัน ดังนี้​

จากในภาพ จะเห็นว่า กล่องสีแดง “ขายมาก กำไรน้อย” คือ สินค้าแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1-3 ในตลาด เป็นสินค้าขายดี มีจำนวนคนขายมาก แข่งขันสูง กล่องสีเหลือง “ขายน้อย กำไรมาก” คือ สินค้าแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 4-6 ในตลาด เป็นสินค้าที่คนขายน้อย ไม่แข่งขันกันมากจึงพอมีกำไร และ สุดท้ายในกล่องสีเขียว “ขายมาก กำไรมาก” คือ สินค้าที่เราได้สิทธิพิเศษ เป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าเดียวขายในช่องทางของตัวเอง คราวนี้เราดูรายละเอียดของแต่ละตัวเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น

1. ขายมาก กำไรน้อย เป็นการขายสินค้ายอดนิยม หรือสินค้า Mass ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี แต่กำไรไม่มาก สินค้าประเภทนี้จะช่วยดึงลูกค้าเข้าร้าน สำหรับธุรกิจขายน้ำมันเครื่องของคุณก้องนั้น สินค้าประเภทนี้ได้แก่ น้ำมันเครื่อง Shell PTT Valvoline เพราะขายได้ดี ขายได้ตลอดจัดเป็นสินค้ายอดนิยม
2. ขายน้อย กำไรมาก เป็นสินค้าหายาก หรือสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีจำนวนไม่มาก ไม่เป็นที่นิยม แต่กำไรต่อชิ้นมักสูงกว่าสินค้าทั่วไป สินค้าประเภทนี้ ช่วยให้เราสามารถเสนอขายสินค้าอื่นได้เพิ่มเติม เช่น น้ำมันเครื่องยี่ห้อ Eneos ที่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่ถ้าขายได้ก็กำไรดี
3. ขายมาก กำไรมาก โดยเฉพาะสินค้าที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง หรือเป็นตัวแทนขายสินค้านี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ สินค้าประเภทนี้มักจะขายได้มากและได้กำไรค่อนข้างดี ตัวอย่างสินค้าในร้านคุณก้อง คือ Wellex สเปรย์แอลกอฮอลที่คุณก้องได้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว

สำหรับ Product Mix คุณก้องแบ่งสัดส่วนสินค้าให้เหมาะกับธุรกิจ ดังนี้ ขายมาก กำไรน้อย 60% ขายน้อย กำไรมาก 30% และขายมาก กำไรมาก 10% โดยเป้าหมายก็คือกำไรสูงสุด โดยปกติร้านค้าทั่วไปจะมีสัดส่วนสินค้าขายมาก กำไรน้อย สูงที่สุด รองลงมาเป็นขายน้อย กำไรมาก และถัดมาเป็นขายมาก กำไรมาก แต่บางร้านอาจจะไม่มีสินค้าประเภทสุดท้ายเลยก็ได้ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ วันหนึ่งอาจต้องพบกับการขาดทุน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรวางสัดส่วนใหม่ โดยลดสินค้าประเภทแรกลง และเพิ่มสินค้าประเภทอื่นๆ เข้าไป เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างกำไรในระยะยาว

จะเห็นว่าการใช้ Product Mix หรือการผสมผสานสินค้าในร้านเข้าด้วยกัน จะเป็นตัวช่วยที่ดีและแก้ปัญหาการตัดราคาได้ และที่สำคัญจะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หาความรู้เพิ่มเติมในหัวข้อ “Location ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขายดีได้บน Shopee” ประสบการณ์จริงจาก คุณพีรเชษฐ์ โล่ห์สกุล เจ้าของธุรกิจ Tire Monster ได้ที่นี่ https://kbank.co/2QQu2HJ