19/4/2564

เจาะกลยุทธ์ความสำเร็จ 5 แบรนด์ดัง แม้เจอวิกฤตยังขายดี

“ทำธุรกิจยุคนี้ นอกจากจะต้องปรับตัวให้เร็วแล้ว ยังต้องรู้จักใช้กลยุทธ์เด็ดๆ มาช่วยหยุดลูกค้าด้วย เช่นเดียวกับ 5 แบรนด์นี้ ที่อาศัยกระแสไวรัล และตัวช่วยต่างๆ บนโลกโซเชียล จนทำให้แบรนด์ดังและเป็นที่นิยม ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน และการเผชิญกับ COVID-19”

James Boulangerie ครัวซองต์ที่คิวยาวที่สุด

พลังของการรีวิวบนออนไลน์ กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จุดแบรนด์ให้ติดตลาดในเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับ James Boulangerie ที่ครัวซองต์ของร้านนี้กลายเป็นของดีที่ถูกบอกต่อความอร่อย จนลูกค้ายอมมาต่อคิวรออยู่หน้าร้าน เมื่อกระแสดีและต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID-19 ทางร้านจึงเพิ่มช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้าสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องมาออกันหน้าร้าน แต่จำกัดสิทธิ์ซื้อได้แค่คนละ 6 ชิ้น เพราะทางร้านจะทำครัวซองต์เพียงแค่ 1,000 ชิ้นต่อวันเท่านั้น จุดนี้นับเป็นอีกกลยุทธ์ชั้นดีที่ช่วยกระตุ้นคนให้อยากมาลองชิมของที่มีจำนวนจำกัดแบบนี้ดูสักครั้ง

รู้หรือไม่?

พีกสุดเคยมีลูกค้ารอหน้าร้านนานที่สุดถึง 8 ชั่วโมง และคนสั่งออนไลน์
รอนานสุด 3 เดือนมาแล้ว

ย่างเนย ไปที่ไหนใครก็ย่าง

เพียงแค่ 5 ปี ธุรกิจที่เริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยฝีมือเด็กหนุ่มวัย 23 ปี อย่าง ย่างเนย ร้านบุฟเฟต์โคขุนกระทะร้อน สามารถขึ้นแท่นร้านดังที่คนรอต่อคิว พร้อมมีสาขา 70 แห่งทั่วประเทศ เป็นเพราะการชูจุดแข็งเรื่องการใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ในราคาต่อหัวเพียง 199 บาท ไม่จำกัดเวลา ที่สำคัญกินเหลือก็ไม่ถูกปรับ ยิ่งทำให้เกิดการบอกต่อ กลายเป็นไวรัลที่คนแชร์บนออนไลน์อย่างล้นหลาม จุดกระแสให้คนอยากตามไปกิน อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์ออนไลน์ควบคู่ไปด้วย โดยใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักสร้าง Brand Awareness ซึ่งแม้ช่วงนี้ยังต้องนั่งโต๊ะห่าง 1.5 เมตร และจำกัดคนเข้าในไลน์อาหาร 8 คนต่อรอบก็ตาม แต่ลูกค้าก็ยังพร้อมใจรออุดหนุน

รู้หรือไม่?

ร้านย่างเนย เป็นร้านบุฟเฟต์ที่มีพนักงาน ทั้งประจำและพาร์ตไทม์
รวมกันมากกว่า 1,800 คน

RAVIPA กระหึ่มอีกครั้งบนความศรัทธา

RAVIPA เป็นแบรนด์ที่เริ่มขายออนไลน์ตั้งแต่ไทยมี Instagram ช่วงแรกๆ ส่วน Facebook ยังไม่มีการทำโฆษณาใดๆ จนวันนี้กลายเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้าที่ต้องการเครื่องประดับแทนใจคู่รัก จนมาช่วง COVID-19 ทาง RAVIPA สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้ง โดยปัดฝุ่นงานออกแบบสร้อยข้อมือศักดิ์สิทธิ์ที่เคยทำไว้ในปี พ.ศ.2562 ออกมาขายดีถล่มทลายจน Sold Out เบื้องหลังความสำเร็จนี้ นอกจากแบรนด์จะลุยโปรโมตยิงโฆษณาใน Facebook จนขยายฐานลูกค้าในวงกว้างได้แล้ว การที่มีดาราคนดังแห่ใส่คอลเลกชันนี้ รวมถึงมีคนพูดถึงบน Twitter และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ยิ่งทำให้ Hero Product ชุดนี้อยู่ในกระแสมาได้อย่างต่อเนื่อง

รู้หรือไม่?

คนไทยกว่า 52 ล้านคน มีความเชื่อเรื่องโชคลาง จึงไม่น่าแปลกใจที่สินค้าสายมู
จะได้รับความนิยม

H I D E. ร้านลับที่โลก (ออนไลน์) รู้

H I D E. ร้านเสื้อผ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยอารีย์ 5 พลิกเกมจากสัปดาห์แรกของการเปิดให้บริการที่มีลูกค้าเพียงแค่ 3 คน เพราะทำเลเข้าถึงยาก กลายเป็นร้านลับที่ลูกค้าอยากมา โดยอาศัยโซเชียลมีเดียเป็นกระบอกเสียง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Instagram ทำคลิป Styling จับเสื้อแบรนด์นั้น แมตช์กับกางเกงแบรนด์นี้ แล้วถ่ายลง Story ให้คนเห็นว่าใส่จริงแล้วเป็นอย่างไร หรือลูกค้าสนใจสินค้าชิ้นไหน สอบถามเรื่องอะไรมากที่สุด จะนำมาเป็นธีมทำคลิปลง IGTV รวมถึงมีการส่งข้อมูลผ่าน SMS ให้ลูกค้ารู้จักได้มากขึ้น ทั้งยังปรับมาขายออนไลน์เต็มตัวในยุค COVID-19 ด้วยการทำเว็บไซต์ และใช้ระบบการจองคิวล่วงหน้าในการมาใช้บริการหน้าร้าน ซึ่งจำกัดวันละ 7 รอบ รอบละ 6 คนต่อ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

รู้หรือไม่?

ทำไมกลยุทธ์ SMS ยังใช้ได้ผล เพราะมีอัตราการเปิด (Open Rate)
อยู่ที่ 98% ซึ่งสูงกว่าช่องทางดิจิทัลอื่นๆ

ละมุน เบบี้ ยุคไหนก็ละมุน

ละมุน เบบี้ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับแม่และเด็ก ที่นอกจากคุณภาพจะยืนหนึ่งแล้ว ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของแบรนด์นี้ยังมาจากการใช้กลยุทธ์เก็บ Data จากช่องทางขายออนไลน์อย่างเว็บไซต์และ LINE เพื่อให้รู้ถึงพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และนำไปสู่การต่อยอดพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมา ที่สำคัญในยุคที่คนชอปผ่านหน้าจอเช่นนี้ ทางแบรนด์จึงทำการขยายช่องทางขายสินค้าผ่านการ Live สด พร้อมเพิ่มบริการจัดส่งถึงบ้านในช่วงวิกฤตอีกด้วย

รู้หรือไม่?

สินค้าแม่และเด็ก เติบโตขึ้นกว่า 96% ในโลกออนไลน์ แม้ COVID-19 จะมา
แต่แม่ก็ยังซื้อเพื่อลูก