จากวันที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ มีพนักงานไม่ถึง 9 คน ผ่านมา 3 ปี กับจำนวนพนักงานที่มีมากกว่า 30,000 คน เป็นการสะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Flash Express พร้อมทั้งกลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าในตลาดโลจิสติกส์เมืองไทย ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้
คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทย และ e-Commerce แบบครบวงจร ได้มาถ่ายทอดเคล็ดลับให้รู้ ในงานสัมมนา Live Concern : เพลย์ลิสต์ พลิกเกมธุรกิจ ที่ธนาคารกสิกรไทยจัดขึ้น ในหัวข้อ “หัวใจลัดฟ้า
: สร้างธุรกิจติดเทรนด์ ด้วยแนวคิดติดปีก”
อยากแจ้งเกิด...ต้องแตกต่าง
ย้อนกลับไป ณ วันเริ่มต้นธุรกิจ Flash Express เป็นเพียง Startup หน้าใหม่ที่เห็นโอกาสในตลาด e-Commerce โดยคมสันต์พยายามจะมองหาธุรกิจที่ใช่สำหรับตัวเอง เพราะถ้าจะให้ทำ e-Commerce เชื่อว่าไม่สามารถแข่งขันได้ จึงมองว่ายังมีโอกาสอะไรอีกบ้างที่จะเติบโตไปตามเทรนด์การค้าออนไลน์นี้ได้
และพบว่า สิ่งที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมากที่สุดของ e-Commerce นั่นก็คือ ธุรกิจโลจิสติกส์
“ในการทำธุรกิจสิ่งที่ต้องมองให้เห็นคือ โอกาสการเติบโต ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตค่อนข้างเล็ก อาจทำให้เราขยายตัวได้ยาก เพราะถ้าเราจะขยายตัว เท่ากับคนอื่นต้องหดตัว ดังนั้น การจะตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใดก็ตาม ต้องแน่ใจว่า
ตลาดนั้นมีการเติบโตที่มากพอ”
แม้โลจิสติกส์จะเป็นตลาดที่มีโอกาส แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการรายเดิมที่อยู่ในตลาดมาก่อน ในฐานะน้องใหม่ การจะสร้างตัวตนให้เกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ชัดเจน
กลยุทธ์แรกที่ Flash Express ใช้สร้างความต่างคือ การมองไปที่ผู้ให้บริการรายเดิม อะไรที่เป็นจุดแข็งของเขา เราต้องทำให้ได้ในมาตรฐานเดียวกัน และอะไรที่เป็นจุดอ่อน เราต้องเข้าไปเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดอยู่ ยกตัวอย่าง บริการที่สร้างความต่างให้กับ
Flash Express เช่น
การเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการจัดส่งแบบ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ด้วยรูปแบบการให้บริการขนส่งในเวลานั้นมักจะหยุดช่วงเสาร์-อาทิตย์ เป็นเพราะจำนวนพัสดุในช่วงเวลาดังกล่าวมีไม่มาก แต่เราเข้าใจดีว่าธุรกิจ e-Commerce ไม่มีวันหยุด ดังนั้นบริการของ
Flash Express ก็ต้องไม่มีวันหยุดเช่นกัน แม้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม
หรือการเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการรับสินค้าฟรีถึงหน้าบ้าน จากเดิมการให้บริการจะเป็นรูปแบบเปิดสาขา ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แต่ Flash Express เลือกที่จะเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย ที่ใช้บริการรับสินค้าถึงหน้าบ้าน
“โตให้ไว ใหญ่ให้มากที่สุด” เทคนิคสำเร็จแบบ Startup
“ถ้าวันนี้เราไม่ขยายตัวให้เร็วพอ หรือใหญ่ได้มากพอ พรุ่งนี้จะมีคนที่เร็วกว่าเกิดขึ้น และทำให้เราหายไปจากตลาด” นี่คือ กฎของธุรกิจ Startup ที่คมสันต์ใช้การสเกลอัพธุรกิจ โดยโจทย์ของ Flash Express คือ ต้องโตให้เร็วที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด
ภายในเวลาอันสั้นที่สุด ปัจจุบัน Flash Express เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องหลังของการเติบโตนี้มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปริมาณสินค้า และประสิทธิภาพ
ในแง่ปริมาณสินค้า การมีปริมาณที่มากพอ จะนำไปสู่ต้นทุนที่ลดลง เช่น รถ 1 คันสามารถขนส่งสินค้าได้ 1,000 ชิ้น แต่ถ้ามีสินค้าแค่ 500 ชิ้น เท่ากับต้นทุนจะสูงกว่าคู่แข่งหนึ่งเท่าตัว โดยสิ่งที่จะทำให้เกิดปริมาณมาก ได้มาจาก
- การมีบริการเสริมที่มากกว่าคนอื่น เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เลือกใช้บริการมากขึ้น
- ยอมขาดทุนก่อน เพื่อดึงดูดลูกค้า แต่เมื่อได้ปริมาณสินค้ามากพอ ก็จะทำให้ต้นทุนกับรายได้บาลานซ์กันมากขึ้น
ส่วนด้านประสิทธิภาพ Flash Express ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เรียกว่า “ประสิทธิภาพนำทาง” กล่าวคือ ทุกอย่างที่ทำต้องอยู่บนคำว่า ประสิทธิภาพ ซึ่งทุกคนในองค์กรจะมองเห็นเป้าหมายเดียวกัน และนำมาซึ่งความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
เรียกได้ว่า หากเลือกธุรกิจที่ใช่ สร้างความแตกต่างได้ชัดเจน เท่านี้ธุรกิจของคุณก็พร้อมติดปีกโตได้อย่างรวดเร็วแล้ว