12/5/2564

พฤกษา บิ๊กอสังหาฯ แนะไม้เด็ด SME ฝ่าวิกฤต

เห็นสัญญาณการฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ชี้ว่ายังเห็นสัญญาณของการฟื้นตัว โดย COVID-19 ระลอกล่าสุดเชื่อว่าจะกระทบเพียงระยะสั้น จึงคาดว่าปีนี้ภาคอสังหาฯ จะเติบโตได้ 10% และส่งผลบวกต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

“การเติบโตในครึ่งปีหลังนี้ขึ้นอยู่กับเรื่องของวัคซีนด้วย หากคนได้รับการฉีดมากขึ้น ดึงต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนได้มากขึ้น คาดว่าสถานการณ์ในไตรมาส 3 และ 4 น่าจะดีขึ้น ซึ่งถ้าอสังหาฯ ช่วงปลายปีขายดี บวกกับมีการลงทุนในโครงการก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐ จะช่วยส่งผลดีต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้ฟื้นตัวได้ในปีหน้าและปีถัดไป”


ตลาดกลางเป็นตัวขับเคลื่อนวงการ

COVID-19 ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนที่เป็นฐานพีระมิด หรือมีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งทำให้ Segment นี้ที่กินสัดส่วนกว่า 50% หายไป ในขณะที่กลุ่มตลาดกลาง หรือคนชนชั้นกลาง ซึ่งมีรายได้ 30,000-150,000 บาทต่อเดือน เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเป็นกำลังซื้อหลักในปัจจุบัน

“กำลังซื้อ Segment ล่างหายไป กลายเป็นชนชั้นกลางที่เข้ามาขับเคลื่อนตลาดแทน นอกจากนี้ Social Distancing ยังทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น ผู้บริโภคบางกลุ่มเปลี่ยนจากอยู่คอนโดมิเนียมไปเป็นการอยู่บ้านแทน เพราะต้องการพื้นที่มากขึ้น ดังนั้น การออกแบบบ้านต้องดีไซน์ให้มีพื้นที่ระดับหนึ่ง เพื่อรองรับการ Work from Home สามารถปรับพื้นที่ให้เป็นห้องทำงานได้ มี Smart Function และอากาศต้องถ่ายเทได้ดี”


จับตาเทรนด์มาแรงปี ’65

นอกจาก Smart Living หรือการเป็นที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ ที่มีเทคโนโลยีหรือการใช้แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน จะกลายเป็นเรื่องมาตรฐานที่ต้องมีแล้ว การผนวกเรื่องของสุขภาพกับการเป็น Senior Living ที่รองรับสังคมผู้สูงอายุยังเป็นเทรนด์ที่จะมาแรงในปีหน้า

“เรื่องของสุขภาพกับสังคมผู้สูงอายุเป็นประเด็นใหญ่ที่น่าจับตา การมาของ COVID-19 ยังทำให้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งพฤกษาและโรงพยาบาลวิมุตของเราเองก็จับเทรนด์นี้ ด้วยการเตรียมเปิดศูนย์บริการสุขภาพด้านหน้าโครงการที่อยู่อาศัย มีการออกแบบบ้านและบริการต่างๆ เพื่อผู้สูงอายุและผู้ที่พักอาศัยโดยเฉพาะ”

อีกทั้งอสังหาฯ แนวดิ่ง หรือคอนโดฯ จะมาแรง จากการแก้กฎหมายขยายเพดานให้ต่างชาติเข้าถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมได้มากขึ้น จากเดิมที่สูงสุด 49% โดยอาจจะขยายถึง 70-80% ด้วยกัน

รวมถึงเรื่องของ Digital Marketing เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะดิจิทัลช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกเวลาทุกสถานที่ อีกทั้งยังเห็นพฤติกรรมลูกค้าได้ดีกว่า ได้เห็นถึงการรับรู้และความสนใจ ทำให้ยิงแคมเปญโฆษณาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้ออนไลน์เป็นช่องทางในการเทสต์ดูว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบสินค้าของเราได้แบบง่ายๆ เรียกได้ว่ายุคนี้ใครที่ทำ Database ลูกค้าได้ดี นั่นเท่ากับชนะในธุรกิจ

เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ปิยะแนะนำว่า สิ่งแรกที่เอสเอ็มอีควรทำคือ การบริหารธุรกิจให้มี Financial Model ที่ดีคือ มีการบริหารสภาพคล่องและหมุนเงินให้ไว ต่อมาคือ การหา Blue Ocean หรือหาช่องว่างของตลาดให้เจอ เพื่อโอกาสของการขยายธุรกิจ และสุดท้ายคือ ต้องรู้จักความต้องการของลูกค้า หรือ Customer Value

“ธุรกิจต้องมีการหมุนเงินที่เร็ว หา Blue Ocean ของตัวเองให้เจอ และต้องรู้ความต้องการของลูกค้า เพื่อที่จะแก้ Pain Point หรือปัญหาในการใช้ชีวิตของลูกค้าได้ ซึ่งตรงนี้จะเกิดจากการที่เราต้องคุย ทำความรู้จัก และศึกษาลูกค้าให้ดี”

ทั้งนี้ ความต้องการของลูกค้า (Customer Value) มีอยู่ด้วยกัน 8 ด้าน ได้แก่

  • Location : ลูกค้าต้องการทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง เหมาะกับกำลังซื้อที่มี
  • Home Function : พื้นที่ใช้สอยในบ้านตรงกับความต้องการในการใช้งาน
  • Design : มีดีไซน์ตรงกับความชอบหรือไลฟ์สไตล์
  • Project Facilities : มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางในโครงการที่ตอบโจทย์
  • Living Environment : มีสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ดี
  • Security : มีความปลอดภัย โดยเน้นไปที่ Smart Security ที่สามารถเช็กจากมือถือได้
  • Service : มีการบริการที่ดี สามารถแก้ปัญหาได้ตามเวลาที่ลูกค้าพึงพอใจ
  • Brand : ควรทำให้ครบทั้ง 7 ข้อด้านบน เพื่อทำให้แบรนด์แข็งแกร่ง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและมีความน่าเชื่อถือ