จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมากกว่า 20,000 คนต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2565) ทั้งนี้เราก็ยังคงต้องเดินหน้าใช้ชีวิตกันต่อไป หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมีการปรับตัวในทุกด้าน ระมัดระวังเชื้อโรคที่กำลังแพร่ระบาด เว้นระยะห่าง รวมไปถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวที่สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่จะต้องเตรียมตัวให้ดี เที่ยวอย่างรัดกุมรอบคอบ และก่อนไปควรเช็กปลายทางหรือจังหวัดที่จะไปก่อนว่ามีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ หรือมีการควบคุมคัดกรองสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าหรือไม่ จึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเที่ยวช่วงเทศกาลท่องเที่ยวนี้กัน
Checklist เพื่อให้พร้อม ก่อนออกเที่ยว
1) คำนวณค่าใช้จ่ายหลักในการเดินทาง
ค่าเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับต้นๆ ยิ่งช่วงนี้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเทียบจากปีที่แล้วมากกว่าเดิมถึง 50% (อ้างอิงจากราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ณ วันที่ 24/3/65 ลิตรละ 39.95 บาท กับ ราคา ณ วันที่ 24/3/64 ลิตรละ 26.55 บาท) ทำให้หลายๆ คน เลือกตัวเลือกในการเดินทางที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เช่น การเดินทางด้วยเครื่องบินที่จ่ายแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน โดยสายการบินในประเทศราคาแต่ละเส้นทางเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 1,500 บาท หรือหากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวต้องคำนวณค่าน้ำมันรถกับระยะทางไปกลับและอัตราการเผาผลาญน้ำมันของรถที่ใช้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่จะร่วมเดินทางด้วย เพราะถ้าเดินทางอย่างน้อย 3-4 คนขึ้นไป การเดินทางด้วยรถส่วนตัวอาจจะประหยัดได้มากกว่าการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ
2) เช็กสิทธิตัวช่วยที่จะช่วยลดค่าใช้จ่าย
2.1 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน : เป็นโครงการที่รัฐบาลออกมากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว โดยผู้ใช้สิทธิจะได้รับส่วนลดค่าที่พักเป็นเงินสนับสนุน 40% ของราคาที่พัก คูปองอาหาร 600 บาทต่อห้องต่อคืน ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว และเงินสนับสนุน 40% ของค่าตั๋วเครื่องบิน หากเราวางแผนที่จะไปเที่ยวก็ไม่ควรพลาดสิทธิประโยชน์เหล่านี้ คนที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันจะต้องลงทะเบียนก่อน ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1/2/65 และจะได้รับสิทธิเมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ส่วนคนที่เคยลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันในเฟส 1-3 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ จะได้รับสิทธิในเฟส 4 ทันที ซึ่งสามารถใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศภายใน 31 พฤษภาคม 2565 ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ (โครงการเราเที่ยวด้วยกัน >>>> https://www.xn--12c1bik6bbd8ab6hd1b5jc6jta.com/)
2.2 โครงการคนละครึ่งเฟส 4 : เป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยออกเงินให้ 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 1,200 บาท ใช้ได้ถึงวันที่ 30/4/65 ซึ่งมีประโยชน์กับคนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนเมษายนนี้มากๆ เพราะสามารถนำไปเป็นส่วนลดในการซื้อของกิน ของใช้ได้ ฯลฯ ซึ่งตอนนี้จำนวนสิทธิสำหรับผู้สมัครได้ครบแล้ว ไม่สามารถสมัครเพิ่มได้ ดังนั้นใครที่สมัครทันก็อย่าลืมใช้ให้เป็นประโยชน์ (โครงการคนละครึ่งเฟส 4 >>>
https://www.xn--42caj4e6bk1f5b1j.com/ )
2.3 โปรโมชันจากบัตรเครดิต : แนะนำลองเช็กดูบัตรเครดิตหรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีอยู่ว่ามีโปรโมชันอะไรบ้างที่ใช้เป็นส่วนลดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายได้ เช่น ได้รับเงินคืน 100 บาท/บัตร หากเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. แล้วจ่ายเงินด้วยบัตร PTT Blue Credit Card หรือ จ่ายเงินค่าน้ำมันรถด้วยแอปพลิเคชัน Blue Connect ถือเป็นอีกสิทธิประโยชน์ที่ต้องบริหารใช้ร่วมกันไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวนี้
3) เช็กไอเทมจำเป็นต้องพกติดตัวช่วงโควิด
การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงโควิด-19 สิ่งที่สำคัญมากและขาดไม่ได้คือ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ ชุดตรวจ ATK เอกสารแสดงการได้รับวัคซีนของผู้เดินทาง ซึ่งสามารถดูได้จากแอปพลิเคชันหมอพร้อม และหากสถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวมีมาตรการพิเศษให้ผู้เดินทางตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก็ควรเตรียมใบรับรองตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย RT-PCR Test หรือ ATK ติดตัวไปด้วย เว้นแต่จะสามารถส่งผลตรวจทางรูปภาพได้ อาจจะดูจุกจิกไปบ้างกับสิ่งที่ต้องเตรียม แต่เพื่อความปลอดภัยก็ควรเตรียมพร้อมไว้ และปัจจุบันราคาของชุดตรวจ แอลกอฮอล์ทำความสะอาด ฯลฯ ก็จับต้องได้ ไม่สูงจนเกินไป
4) เช็กความคุ้มครองมีไว้ให้อุ่นใจ
4.1 คุ้มครองหากเกิดเหตุไม่คาดคิด : เพื่อความสบายใจตลอดการเดินทางที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน จนทำให้เกิดการสูญเสียได้นั้น แนะนำให้มีประกันอุบัติเหตุเพื่อป้องกันความเสี่ยง เช็กความคุ้มครองของประกันรถยนต์ รวมไปถึงการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย
(4.1.1) การป้องกันความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ ถ้าหากเดินทางด้วยเครื่องบิน ความคุ้มครองอุบัติเหตุมักจะพ่วงมากับตั๋วเครื่องบิน ทั้งในรูปแบบรวมในค่าโดยสาร ซื้อเพิ่มแบบแพ็คเกจขณะจองตั๋ว หรือซื้อเพิ่มแยกต่างหากเพื่อรับความคุ้มครองสูงสุด ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายการบิน หากเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ควรมีติดตัวไว้เช่นกัน แนะนำ “ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล” ที่ให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินสูงถึง 3,000,000 บาท ทั้งการเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูญเสียอวัยวะ และบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทั่วโลกทุกเวลา อีกทั้งยังมีเงินค่าชดเชยรายได้กรณีต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกด้วย
(4.1.2) ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก่อนออกเดินทางอย่าลืมเช็กว่าประกันรถยนต์ที่มีใกล้หมดอายุหรือยัง ถ้าหมดก็ควรต่ออายุให้ทันความคุ้มครองในช่วงที่จะออกเดินทาง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย ประกันรถยนต์จะช่วยในเรื่องของการแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมรถ หรือหากเกิดอุบัติเหตุเราสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น แนะนำ “ประกันรถยนต์ประเภท 1” ที่แม้เกิดอุบัติเหตุรถเข้าอู่ประกันบางแห่ง ผู้ทำประกันยังได้รับเงินค่าเดินทางระหว่างรอรถซ่อมอีกด้วย
4.2 หากเจ็บไข้ได้ป่วยช่วงไปเที่ยว : แน่นอนว่าการเดินทางไปเที่ยวในช่วงที่โควิด-19 ยังระบาดแบบนี้ไม่ควรนิ่งนอนใจถึงแม้เราจะไปเที่ยว ป้องกันดูแลตัวเองดีแค่ไหนก็อาจเกิดเจ็บป่วยได้ เพื่อความอุ่นใจควรมีประกันสุขภาพติดตัวไว้อย่างน้อยหนึ่งกรมธรรม์ หากเกิดเหตุฉุกเฉินเจ็บป่วยไม่สบาย อย่างน้อยก็มีประกันสุขภาพคอยดูแล แนะนำ “ประกันสุขภาพป่วยมีจ่าย” ที่สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามที่เราต้องการ คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก) ค่าห้องค่ารักษาจ่ายตามจริง เป็นต้น เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าการเจ็บป่วยขึ้นมาในแต่ละครั้งนั้น อาการจะหนักถึงขั้นไหน ดังนั้นการมีประกันสุขภาพจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้
เตรียมพร้อมไปเที่ยวแล้ว ช่วงที่ไปเที่ยวก็ไม่ควรประมาทการ์ดอย่าตก คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เมื่อเดินทางท่องเที่ยว ควรระมัดระวังการเข้าไปในพื้นที่แออัดและการสัมผัสผู้อื่น และควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเป็นประจำทุกวันเพื่ออัปเดตข้อมูลข่าวสาร โดยสามารถดูได้จากเว็บไซต์กรมควบคุมโรค https://covid19.ddc.moph.go.th/
ขอบคุณข้อมูลจาก : KBANK,