ประเทศจีน ถือว่าเป็นประเทศแรกๆ ที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา แต่เป็นการฟื้นตัวแบบไม่ยั่งยืน เนื่องจากภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบธุรกิจต่างๆ เพื่อความรุ่งเรืองในระยะยาว กลายเป็นความผันผวนในระยะสั้น ประกอบกับสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่กลับมาระบาดใหม่อีกระลอก ทำให้ภาครัฐสั่งล็อกดาวน์ตามนโยบาย Zero Covid และทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ล่าสุด เพื่อให้เป้าหมายการเติบโตของจีนกลับมาเติบโตอีกครั้ง ที่ 5.5% ในช่วงปลายปี 2022 ดังนั้น ภาครัฐบาลของจีน จึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา 33 มาตรการ บทความนี้จะสรุปให้ว่ามีมาตรการอะไรบ้าง
สรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
มาตรการผ่อนปรนทางภาษีและนโยบายการลดค่าธรรมเนียม
เป็นการกระตุ้นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่เรียกว่า MSMEs ซึ่งเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงภาคเศรษฐกิจของจีน เกิน 50% ของ GDP ซึ่ง MSMEs จะมีคำจำกัดความในเรื่องประเภทธุรกิจ จำนวนแรงงาน ยอดขายต่อปีหรือสินทรัพย์รวม ไม่ว่าจะเป็นขยายระยะเวลาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), เลื่อนการจ่ายประกันสังคม เพื่อลดผลกระทบในกลุ่มร้านอาหาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว การบิน การขนส่ง (ทางบก ทางน้ำ ทางราง), เลื่อนการฝากหรือชำระคืนหนี้บ้าน (Housing Provident Fund) เฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเลื่อนการชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ จนถึงสิ้นปี 2022
เพิ่มการสนับสนุนธุรกิจตัวเล็ก
เพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างงานภาครัฐสำหรับธุรกิจ MSMEs ราว 30%-40% ของงานตลอดทั้งปี เพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจ MSMEs โดยจัดสรรเงิน 3,000 ล้านหยวน (449.4 ล้านดอลลาร์) เพื่อเพิ่มวงเงินสนับสนุนธุรกิจ MSMEs ของสถาบันการเงิน รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมในการการันตีด้วย เลื่อนการชำระค่าน้ำ ไฟ แก๊สหุงต้ม และลด/งดค่าเช่าอสังหาฯ ที่รัฐเป็นเจ้าของ รวมถึงภาษีอสังหาฯและภาษีการใช้ที่ดิน ออกไปจนถึงช่วงสิ้นปี 2022
มาตรการสร้างเสถียรภาพการลงทุน
- กระตุ้นการใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการออกพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ราวๆ 3.45 ล้านล้านหยวน (547 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2022 เช่น โครงการระบายน้ำจากเหนือลงใต้ เพื่อควบคุมระดับน้ำและลดโอกาสเกิดอุทกภัย รวมถึงโครงการปรับปรุงถนนใหม่ประมาณ 30,000 กิโลเมตร
- มาตรการส่งเสริมเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนโครงการการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น กลุ่มธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น การผลิตแบบใหม่ๆ นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี และการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ MSMEs
มาตรการสนับสนุนรายอุตสาหกรรม
กระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมการเดินอากาศ รวมถึงอุตสาหกรรมการขนส่งเพื่อกระตุ้นความต้องการให้กลับมาเป็นดังก่อนมาตรการล็อกดาวน์
มาตรการอื่นๆ
- เพิ่มการจ้างงาน เน้นสนับสนุนบริษัทที่จ้างงานเด็กจบใหม่ ให้การสนับสนุนครั้งเดียว ประมาณ 1,500 หยวนต่อคน (225 ดอลลาร์ต่อคน) จนถึงช่วงสิ้นปี 2022 เพื่อลดอัตราการว่างงานลง
- เพิ่มโควต้าถ่านหิน เพื่อให้มั่นใจว่ามีอุปสงค์ของพลังงานเพียงพอ รวมถึงสนันบสนุนการสร้างพลังงานใหม่ๆ
แล้วมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยให้เติบโตได้จริงหรือ
ข้อมูลจาก Credit Suisse มองว่า หุ้นจีนกลุ่มโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และอินเทอร์เน็ตบ้าน ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่สนับสนุนด้วย
ทางด้าน ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธรสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ได้ให้ความเห็นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยได้มาก แต่จะมากถึงขนาดทำให้ GDP ในปี 2022 เติบโตได้ตามเป้าหมาย 5.5% ต้องดูอีกหลายปัจจัย ข้อสังเกต คือ มาตรการทั้งหลายของรัฐบาลจีนจะมีการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว หากขาดหรือบกพร่องตรงไหนจะถูกปรับมาตรการได้เร็ว
ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ได้วิเคราะห์ไว้น่าสนใจว่า การสร้างตลาดเดี่ยวภายในประเทศ เป็นการประกาศนโยบายของรัฐบาลจีน เพื่อจะลดกฎเกณฑ์ในการกีดกันในแต่ละมณฑล และลดการแข่งขันระหว่างมณฑลลง เพื่อเป็นการให้ภาพรวมของประเทศได้ประโยชน์มากขึ้น ซึ่งต้องติดตามดูว่า จะมีการออกกฎเกณฑ์ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นตลาดเดี่ยวมากขึ้นหรือไม่ ยกตัวอย่าง เช่น มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ที่เดิมมีแต่บริษัทในเซี้ยงไฮ้ที่ได้ประโยชน์ เนื่องด้วยหลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดต่างๆ แต่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จำเป็นที่ต้องออกกฎเกณฑ์ที่ทำให้ประเทศได้ประโยชน์ในภาพรวม รวมไปถึงความพยายามนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ตามนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ซึ่งจะมีการต่ออายุการเป็นผู้นำของนายสี จิ้น ผิง ในช่วงปลายปี 65 นี้ด้วย
สำหรับคนที่ลงทุนในหุ้นจีนอยู่ หรือสนใจลงทุน ควรทำยังไง
• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน หรือ ลงทุนในหุ้นจีนบางส่วน เช่น กองทุน K-CHINA K-CCTV K-ASIAX และ K-ASIACV แนะนำให้ถือลงทุนต่อไปได้ เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
• สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนเพิ่มเติม แนะนำทยอยสะสม โดยแบ่งเป็น 3-5 ไม้ในการเข้าสะสม
• สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์การลงทุนในหุ้นจีน แนะนำให้พักเงินในกองทุน K-SF หรือ K-CASH
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
● https://www.cnbc.com/2022/06/06/china-tries-to-shake-off-the-worst-of-the-pandemic.html
● https://www.cnbc.com/video/2022/06/06/chinas-stimulus-measures-would-be-key-for-investors-credit-suisse.html
● https://www.bangkokbiznews.com/columnist/1000182
● คนชนข่าว TNN Online วันที่ 6 มิ.ย. >> https://www.youtube.com/watch?v=-6Jc4QUOEHI