ประเด็นร้อน : ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงดอกเบี้ย-ไม่ขยายกรอบบอนด์ยีลด์

ประเด็นร้อน : ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงดอกเบี้ย-ไม่ขยายกรอบบอนด์ยีลด์


"


● ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5%


● แนะนำถือลงทุนต่อในกองทุนหุ้นญี่ปุ่น เช่น กองทุน K-JP, K-JPX


"


อัปเดตสถานการณ์ญี่ปุ่น


วันที่ 18 ม.ค. 66 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา แต่สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ อาจยกเลิกการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้นเหมือนรอบก่อนหน้า

ในการประชุมครั้งนี้ BOJ ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2565 ขึ้นสู่ระดับ 3% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ 2% ของ BOJ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3% ในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% และคาดว่าดัชนี Core CPI ในปีงบประมาณ 2566 จะเพิ่มขึ้น 1.6% และจากนั้นจะเพิ่มขึ้น 1.8% ในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%


ผลกระทบที่เกิดขึ้น


หลังจากที่ BOJ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่น ส่งผลให้ดัชนี NIKKEI ปรับตัวพุ่งขึ้นแรง โดยวันที่ 18 ม.ค. 66 ดัชนี NIKKEI 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.50% เทียบกับวันก่อนหน้า คาดว่าจะส่งผลให้ราคากองทุนหุ้นญี่ปุ่นอย่างกองทุน K-JP และ K-JPX ณ 18 ม.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

ในขณะที่เงินเยน ณ 18 ม.ค. 66 อ่อนค่าลง 2.2% มาอยู่ที่ 131.2 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีที่เคลื่อนไหวเหนือ 0.5% ติดต่อกัน 3 วัน ก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 0.42%

ทั้งนี้ ตลาดให้ความสนใจกับการประชุม BOJ ครั้งต่อไปในเดือนมี.ค. 2566 ซึ่งประธาน BOJ นาย Haruhiko Kuroda จะเป็นประธานการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่นาย Kuroda จะออกจากตำแหน่งในเดือนเม.ย. ปี 2566


คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นญี่ปุ่น เช่น K-JP, K-JPX แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ลงทุนใหม่หรือต้องการลงทุนเพิ่ม แนะนำให้รอประเมินสถานการณ์

สำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทน รับความเสี่ยงได้ หรือมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุน แนะนำกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA ที่ราคากองทุนปรับขึ้นมาตั้งแต่เดือนพ.ย. 65

สำหรับผู้ที่กังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แต่ยังคงรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A) ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, Ryt9, Infoquest

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®
Back to top