ประเด็นร้อน : อิรัก-รัสเซีย ลดการผลิตน้ำมัน ดันราคากองทุน K-OIL บวก

"

• การส่งออกน้ำมันโลกที่ลดลง และสถานการณ์ภาคการเงินสหรัฐฯ ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ราคากองทุน K-OIL ณ 27 มี.ค. 66 ปรับตัวขึ้น


• ผู้ที่ถือกองทุน K-OIL อยู่ แนะนำให้ถือเพื่อรอประเมินสถานการณ์ โดยในระยะสั้นแนะนำให้ติดตามสต็อกน้ำมันสหรัฐฯ และการประชุม OPEC+ ในวันที่ 29 มี.ค. และ 3 เม.ย. ตามลำดับ


• ผู้ที่กังวลกับความผันผวน แต่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเน้นลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-PLAN2, K-PLAN3 เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องติดตามตลาดบ่อยนัก

"



วันที่ 27 มี.ค. 66 ในวันเดียว ราคากองทุน K-OIL ปรับตัวขึ้น +4.41%เทียบกับวันก่อนหน้า โดยราคากองทุน K-OIL มีการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 63 ไปทำราคาสูงสุดช่วงกลาง มิ.ย. 65 ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่ต้นปี 58 ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลง โดยราคากองทุน K-OIL ณ ปัจจุบัน อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับราคาเมื่อ ม.ค. 65 ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคากองทุนเกือบตลอดช่วงกลางปี 58 - กลางปี 64



ทำไมกองทุน K-OIL ถึงปรับตัวขึ้น


กองทุน K-OIL ในวันที่ 27 มี.ค. มีการปรับตัวขึ้น จาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่

(1) ปริมาณการส่งออกน้ำมันลดลง

โดยตุรกีได้มีการหยุดสูบน้ำมันดิบจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรัก ซึ่งมีปริมาณ 450,000 บาร์เรล/วัน คิดป็น 0.5%ของการผลิตและส่งออกน้ำมันทั่วโลก หลังจากที่อนุญาโตตุลาการยืนยันว่าการส่งออกน้ำมันส่วนนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิรักก่อน ประกอบกับที่รัสเซียเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมถึงกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) ยังมีแนวโน้มที่จะคงนโยบายลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นปี 2566 ทำให้นักลงทุนมองว่าการที่ปริมาณการผลิตหรือส่งออกน้ำมันที่ลดลง ภายใต้ความต้องการใช้พลังงานที่ไม่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นได้

(2) ความวิตกภาคการเงินลดลง

หลังจากที่ ธนาคารเฟิร์สต์ซิติเซ็นส์ ตกลงจะเข้าซื้อเงินฝากและสินเชื่อทั้งหมดของธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ (SVB) ที่ล้มละลายและถูกสั่งปิดกิจการไปเมื่อต้น มี.ค. ส่งผลให้สาขาของ SVB ทั้งหมด 17 แห่ง กลับมาเปิดทำการในฐานะสาขาของธนาคารเฟิร์สต์ซิติเซ็นส์ได้อีกครั้ง ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคการเงินของสหรัฐฯ ลง สะท้อนได้จาก ณ 27 มี.ค. ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.16%เทียบกับวันก่อนหน้า รวมถึงราคากองทุน K-USA ปรับตัวขึ้น +1.62%เทียบกับวันก่อนหน้า หลังจากที่เพิ่งปรับตัวลงแรง -3.09% ไปเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มี.ค. ทำให้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์ภาคการเงินของสหรัฐฯ อาจไม่ลุกลามจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตลอดจนความต้องการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน


คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุน K-OIL
oสามารถถือต่อได้ โดยรอประเมินสถานการณ์ โดยสิ่งที่ควรติดตามในระยะสั้น ได้แก่ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์สหรัฐฯ ที่จะประกาศคืนวันที่ 29 มี.ค. และการประชุม OPEC+ ในวันที่ 3 เม.ย. นี้
oแต่หากเงินที่ลงทุนในกองทุน K-OIL มีสัดส่วนที่สูง และมีผลตอบแทนที่เป็นกำไร (เช่น ลงทุนก่อนกลางปี 64) อาจพิจารณาสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยัง K-CASH หรือ K-SF-A เพื่อพักเงินและหาจังหวะเข้าลงทุนในกองทุนอื่น อีกครั้ง

สำหรับผู้ที่กังวลกับความผันผวน ของกองทุนน้ำมันและตลาดหุ้น แต่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-PLAN2, K-PLAN3 ที่มีการกระจายการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และหรือเงินฝาก ซึ่งเน้นลงทุนในประเทศเป็นหลัก โดยแนะนำให้ทยอยลงทุนหลายครั้ง (เช่น 3-5 ครั้งจากเงินลงทุนที่ตั้งใจ) เพื่อลดความเสี่ยงลง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
•Ryt9

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”




คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH TRAINER ราชันย์ ตันติจินดา CFP®
Back to top