นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีที่แล้ว ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงจนถึงปลายปี จากนั้นกลับฟื้นตัวขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เชื่อว่านักลงทุนต่างมีคำถามว่าตลาดหุ้นเวียดนามยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ ทิศทางต่อจากนี้เป็นอย่างไร ก่อนอื่นขอเริ่มด้วยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามเผชิญแรงกดดันอะไรมาบ้าง?
ตลาดอสังหาฯ สะดุด กระทบถึงภาคธนาคาร
ปี 2022 ตลาดอสังหาฯ เวียดนามร้อนแรงมาก ราคาในเมืองโฮจิมินห์เพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในปีเดียว ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเก็งกำไร ทางรัฐบาลเวียดนามเล็งเห็นว่าอาจเกิดปัญหาฟองสบู่ จึงเพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ส่งผลต่อทั้งผู้กู้และบริษัทพัฒนาอสังหาฯ
บริษัทอสังหาฯ จึงหันไปใช้วิธีออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนแทนการขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ แต่แล้วก็มีข่าวว่ามีบริษัทอสังหาฯ ใช้หุ้นกู้ผิดวัตถุประสงค์ ส่งผลให้มีมาตรการการออกหุ้นกู้ที่เข้มงวดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นการขาดสภาพคล่องในอุตสาหกรรมอสังหาฯ สร้างความกังวลการผิดชำระหนี้ไปถึงภาคธนาคารพาณิชย์
ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ลดอัตราดอกเบี้ยมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามออกกฎหมาย Decree 8/2023 ผ่อนปรนข้อจำกัดการชำระหนี้คืน ต่ออายุ ออกตราสารหนี้ใหม่ การปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2023 โดยยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 4 ปี 2022 เติบโตประมาณ 3% (QoQ) ส่วนไตรมาส 1 ปี 2023 เติบโตเพิ่มมาที่ประมาณ 9% (QoQ)
Source: KAsset
ส่วนอัตราส่วน NPL ไตรมาส 1 ปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 1.2% ต่ำกว่าระดับเป้าหมายธนาคารกลางเวียดนามที่ 3% นับเป็นสัญญาณที่ดีในแง่ของการควบคุมคุณภาพการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาฯ
Souce: KAsset
ขณะเดียวกันธนาคารกลางเวียดนามประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา จาก 6% มาที่ 4.5% ตอบรับนโยบายรัฐบาลซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโต GDP ปี 2023 ที่ 6.0% ขณะที่ไตรมาสแรกของปี GDP เติบโตเพียง 3.32% ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อลดลงกลับลงมาต่ำกว่าระดับเป้าหมาย ดังนั้นคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นเวียดนาม
ในระยะสั้นตลาดหุ้นเวียดนามยังคงผันผวนจากความกังวลปัญหาสภาพคล่องที่ต้องใช้เวลาแก้ไขอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเวียดนามได้รับปัจจัยหนุนจากการปัญหาสภาพคล่องที่ดีขึ้น และการลดอัตราดอกเบี้ย
ในแง่ระดับ Valuation อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 15.19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งอยู่ที่ 17.72 เท่า ขณะที่ EPS ปี 2023 ถูกคาดว่าจะเติบโตที่ 21.95% ดังนั้นจากปัจจัยที่มากระทบประกอบกับระดับ Valuation และการเติบโตของ EPS จึงมองได้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีความน่าสนใจ เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
กองทุนรวม K-VIETNAM คว้าโอกาสลงทุนตลาดหุ้นเวียดนามฟื้นตัว
กองทุน K-VIETNAM เปิดโอกาสลงทุนตลาดหุ้นเวียดนาม ด้วยการคัดเลือกหุ้นของบริษัทซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง คาดว่าจะเติบโตตามการเติบโตของประเทศ และมี Valuation ที่เหมาะสม โดยเป็นบริษัทที่อยู่ใน Core Investment Themes ประกอบด้วย เศรษฐกิจของประเทศเติบโตต่อเนื่อง รายได้ประชากรสูงขึ้น นโยบายภาครัฐเน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ และการเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออก
กองทุน K-VIETNAM ใช้นโยบายลงทุนโดยตรงในหุ้นบริษัทเวียดนาม ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถคัดเลือกหุ้นที่ตรงกับกรอบการลงทุน Core Investment Themes ได้เจาะจงและมีความยืดหยุ่นในการปรับสัดส่วนเพิ่มหรือลดการลงทุนในหุ้นแต่ละบริษัทกว่าการลงทุนผ่านกองทุน ETF