ของขวัญให้คุณแม่ ที่มีคุณค่ายิ่งกว่าดอกไม้ คือสินทรัพย์ทางการเงิน

ในวันแม่ของทุกปี หลายครอบครัวก็มักจะเลือกหาของขวัญสำหรับคุณแม่ได้ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง แต่หากเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้คุณแม่แทน การเตรียมตัว เตรียมของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจ หรือเตรียม Surprise เพื่อให้คุณแม่ประทับใจ ก็จะมีเวลามากขึ้นมาหน่อย

• ประกันสุขภาพ เป็นหนึ่งในของขวัญที่ซื้อแล้วให้ความสบายใจ เพราะหากคุณแม่เจ็บป่วย ทางบริษัทประกันชีวิตก็จะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ตามแผนประกันที่เราซื้อ ไม่ต้องเสี่ยงค่าใช้จ่ายสูง จนกระทบความมั่งคั่งส่วนตัว


• ประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคลายความกังวลของลูกๆ ว่าใครจะเป็นคนดูแลคุณแม่ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ดังนั้นการมอบของขวัญจึงเป็นในลักษณะที่ลูกทำประกันชีวิต แล้วเลือกแม่ เป็นผู้รับผลประโยชน์


• เงินฝาก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ลูกหลายคนเลือกที่จะเก็บเงินให้แม่ไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น ซึ่งก็มีบัญชีเงินฝากหลายประเภทที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ปัจจุบัน (23 ส.ค. 66) ให้อยู่ที่ 0.3% ต่อปี



ในวันแม่ของทุกปี หลายครอบครัวก็มักจะเลือกหาของขวัญสำหรับคุณแม่ได้ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง แต่หากเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้คุณแม่แทน การเตรียมตัว เตรียมของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจ หรือเตรียม Surprise เพื่อให้คุณแม่ประทับใจ ก็จะมีเวลามากขึ้นมาหน่อย เช่นจองร้านอาหารที่คุณแม่ชอบไว้ล่วงหน้า เพื่อไปทานข้าวนอกบ้าน ซื้อของขวัญที่แม่น่าจะอยากได้ เช่น กระเป๋า เสื้อผ้า ขนม หรือแม้แต่คลินิกเสริมความงามก็ยังจัดโปรโมชัน เชิญชวนให้ลูกค้าพาแม่มาเสริมความงาม เช่น การฉีดโบท็อก ร้อยไหมดึงหน้า ยกกระชับผิว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลตัวคุณแม่เอง รวมถึงหลายครอบครัวก็เลือกที่จะมอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับคุณแม่ทั้งเพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย เพื่อสร้างโอกาสให้เงินงอกเงยมากกว่าเดิม หรือแม้แต่เพื่อเป็นตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ทั้งคุณแม่ และครอบครัว ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่จนกระทบกับความมั่งคั่ง





มอบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เป็นของขวัญให้คุณแม่


1.ประกันสุขภาพ เป็นหนึ่งในของขวัญที่ซื้อแล้วให้ความสบายใจ เพราะหากคุณแม่เจ็บป่วย ทางบริษัทประกันชีวิตก็จะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ตามแผนประกันที่เราซื้อ ไม่ต้องเสี่ยงค่าใช้จ่ายสูง จนกระทบความมั่งคั่งส่วนตัว เรียกได้ว่า ประกันสุขภาพมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าไม่มีเมื่อต้องใช้ โดยประกันสุขภาพของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ที่ขายผ่านช่องทางกสิกรไทย ก็มีให้เลือกหลายตัว เช่น


Elite Health Plus ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มีวงเงินสูงถึง 20-100 ล้านบาท


• อีกทางเลือกที่จ่ายค่าเบี้ยน้อยกว่าอย่าง D Health Plus ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท




2.ประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคลายความกังวลของลูกๆ ว่าใครจะเป็นคนดูแลคุณแม่ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ดังนั้นการมอบของขวัญจึงเป็นในลักษณะที่ลูกทำประกันชีวิต แล้วเลือกแม่ เป็นผู้รับผลประโยชน์ หรือในกรณีที่ลูกมีหนี้อยู่จำนวนมาก แล้วไม่อยากให้หนี้ก้อนนี้ตกเป็นภาระของคนข้างหลัง ก็สามารถเลือกทำประกันชีวิต ให้ทุนความคุ้มครองมีมูลค่าเท่ากับหนี้สินได้ ซึ่งประกันชีวิตก็มีหลากหลายรูปแบบ


ถ้าเน้นความคุ้มครองเบี้ยต่อทุนสูง ตัวอย่างเช่น ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพ 99/5 ที่จ่ายเบี้ย 5 ปี ปีละ 1 แสนบาท ก็ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 6.9 แสนบาท (กรณีอายุ 60 ปี)


ถ้าอยากได้ความคุ้มครองสูงกว่านี้ อาจเลือกประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพที่จ่ายเบี้ยยาวขึ้น เช่น 19 ปี ด้วยประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพ 99/19 ที่เบี้ยรายปีเท่าเดิม แต่ได้รับความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 2.1 ล้านบาท




3.เงินฝาก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ลูกหลายคนเลือกที่จะเก็บเงินให้แม่ไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น ซึ่งก็มีบัญชีเงินฝากหลายประเภทที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ปัจจุบัน (23 ส.ค. 66) ให้อยู่ที่ 0.3% ต่อปี ไล่เรียงตั้งแต่


• ฝากประจำปลอดภาษี ที่เหมาะกับคนที่ต้องการฝากเงินให้แม่ทุกเดือน อย่างเงินฝากทวีทรัพย์ 24 เดือน ดอกเบี้ย2.3% ต่อปี ฝากได้สูงสุด 25,000 บาท/เดือน


• หากลูกๆรู้สึกว่าอยากจะฝากให้คุณแม่มากกว่านี้ และอยากฝากแบบก้อนเดียวจบ แนะนำฝากประจำพิเศษ 10 เดือน โดยฝากตั้งแต่ 2 แสนบาท แต่ไม่ถึง 1 ล้านบาท รับดอกเบี้ย 1.9% ต่อปี แต่ถ้าหากฝากตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปรับดอกเบี้ย 2% ต่อปี


ฝากประจำซูเปอร์ ซีเนียร์ 30 เดือน ดอกเบี้ย 2% ต่อปี และได้ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุด 3 ล้านบาท เริ่มต้นฝากตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป โดยผู้ฝากต้องมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ทั้งนี้หากรู้สึกว่าความคุ้มครองน้อยไป ก็สามารถซื้อประกันชีวิต และสุขภาพตามที่แนะนำเพิ่มเติมได้




4.ผลิตภัณฑ์การลงทุน เป็นอีกทางเลือกที่สามารถทำให้เงินงอกเงยได้มากกว่าเงินฝากในระยะยาว ซึ่งถ้าไม่รู้จะลงทุนอะไรที่เหมาะสมกับคุณแม่ แนะนำลงทุนตามสูตร 5:2:2:1 แบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วน


ส่วนที่ 1 จำนวน 50% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว เช่น กองทุน K-PLAN1, K-FIXEDPLUS-A เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับเงินลงทุน


ส่วนที่ 2 จำนวน 20% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนผสม เช่น กองทุน K-PLAN2, K-PLAN3 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น


ส่วนที่ 3 จำนวน 20% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น กองทุน K-MONEY เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเงินลงทุน


ส่วนที่ 4 จำนวน 10% ของเงินลงทุน พักไว้ในบัญชีเงินฝาก e-Savings ดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป โดยให้กันเงินส่วนนี้ไว้สูงสุดเท่าที่ธนาคารกำหนดรับฝากหากทำได้ เพื่อให้ได้รับดอกเบี้ยสูงเต็มจำนวน


ผลการดำเนินงานกองทุนย้อนหลัง (ผลตอบแทนสะสม)
กองทุน
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
3 ปี
ต้นปีถึงปัจจุบัน
K-MONEY
0.11%
0.29%
0.50%
0.73%
0.94%
0.94%
K-PLAN1
0.07%
0.26%
0.71%
1.32%
3.03%
0.66%
K-FIXEDPLUS-A
-0.07%
0.03%
0.57%
1.46%
1.36%
0.47%
K-PLAN2
0.05%
0.19%
-0.58%
-0.28%
8.29%
-0.68%
K-PLAN3
0.05%
0.36%
-1.71%
-1.44%
8.29%
-1.86%

เอกสิทธิ์ The Wisdom เป็นอีกหนึ่งของขวัญที่คุณแม่จะได้รับเพิ่มเติม ในกรณีที่ลูกมอบของขวัญทางการเงินในข้อ 1 -4 แล้วเข้าเกณฑ์ถือครองสินทรัพย์ตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งเงินฝากประจำตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป กองทุนที่ธนาคารกำหนด รวมกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีประกันชีวิตที่ธนาคารกำหนดซึ่งจ่ายเบี้ยตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ห้องรับรอง ณ สนามบินภายในประเทศ, บริการเลขาส่วนตัวTHE WISDOM Personal Assistant, ส่วนลดโรงแรม และสปาชั้นนำ, ประกันภัยการเดินทางให้ความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 6 ล้านบาท เป็นต้น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมโดยคลิปที่รูปด้านล่าง




ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวคุณแม่เอง จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งแต่ละครอบครัวก็มีความจำเป็น ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมอบอย่างไรให้เป็นที่น่าจดจำสำหรับปีนี้ ทาง Kwealth ก็แนะนำว่า การมีเอกสิทธิ์พิเศษจาก The Wisdom ที่สามารถนำไปใช้ได้ตลอดทั้งปี เป็นตัวเสริมในการมอบของขวัญ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะยิ่งเรามอบให้เร็วมากเท่าไหร่ ทั้งการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคุณแม่ การใช้เวลาร่วมกันของครอบครัวผ่านเอกสิทธิ์ The Wisdom ก็จะเป็นการใช้เวลาได้คุ้มค่า เริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะเวลานับถอยหลัง ไม่เคยคอยใคร


ขอบคุณข้อมูลจาก : KAsset


คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer มนัสวี เด็ดอนันต์กุล AFPT
Back to top