o กรณีเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูง แนะนำสับเปลี่ยนจากกองทุนหุ้นจีนส่วนที่เกิน 10% ไปลงทุนในกองทุนหุ้น K-VIETNAM หรือ K-HIT-A(A) หรือ K-GHEALTH
o กรณีเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ แนะนำสับเปลี่ยนจากกองทุนหุ้นจีนส่วนที่เกิน 10% ไปไว้ในกองทุนตราสารหนี้ K-FIXEDPLUS-A หรือ K-GB-C(A)
Country Garden ยืดเวลาคืนเงินหุ้นกู้ในประเทศสำเร็จ
จากที่ K WEALTH ได้ติดตามสถานการณ์ Country Garden มีหุ้นกู้ในประเทศ (Onshore) ครบกำหนดชำระหนี้ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.ย. 66 พร้อมมุมมองและคำแนะนำการลงทุนกองทุนหุ้นจีนไปในวันที่ 29 ส.ค. 66
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Country Garden สามารถตกลงกับกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ในประเทศ (Onshore) มูลค่า 535 ล้านดอลลาร์ ให้เลื่อนการชำระคืนเงินต้นได้สำเร็จ โดยได้รับการเลื่อนชำระคืนเงินต้นไปจนถึงปี 2569
ล่าสุด Country Garden จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศทันกำหนด
นอกจากนี้เมื่อต้นเดือน ส.ค. 66 Country Garden ไม่ได้ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศ (Offshore) มูลค่า 22.5 ล้านดอลลาร์ แต่มีระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน (Grace Period) ซึ่งครบกำหนดแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ซึ่งรายงานล่าสุดพบว่า Country Garden สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศได้สำเร็จทันกำหนดการเลื่อนชำระดังกล่าว ช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้ Country Garden ผิดนัดชำระหนี้ (Default)
Country Garden ยังมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้รวมแล้วอีกประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความเปราะบางในภาคอสังหาฯ จีน ทำให้นักลงทุนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ของ Country Garden
อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทอสังหาฯ เกิดการล้มละลาย ก็ยังส่งผลกระทบอย่างจำกัดต่อภาคสถาบันการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้การซื้ออสังหาฯ ในจีนนั้น ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์ประมาณ 70-80% ทำให้มูลค่าหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินไม่สูงนัก แต่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากชาวจีนมีการสะสมความมั่งคั่งไว้กับการลงทุนอสังหาฯ กว่า 70% ของความมั่งคั่งครัวเรือนทั้งประเทศ ดังนั้นหากราคาอสังหาฯ ปรับตัวลงแรง ย่อมส่งผลต่อความมั่งคั่งของประชาชนโดยรวมลดลง
K WEALTH แนะนำให้ผู้ลงทุนกองทุนหุ้นจีนและกองทุนหุ้นเอเชียที่มีการลงทุนหุ้นจีนในสัดส่วนที่สูง ติดตามสถานการณ์การชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยหุ้นกู้ Country Garden ในช่วงเวลาต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่ง K WEALTH จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มุมมองและคำแนะนำการลงทุนกองทุนหุ้นจีนอย่างเหมาะสม
ทางการจีนลดอัตราส่วนเงินดาวน์หวังพยุงตลาดอสังหาฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จีนประกาศว่าลดเงินดาวน์ขั้นต่ำทั่วประเทศลงมาที่ 20% สำหรับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก และ 30% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่สอง ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเมืองขนาดใหญ่จะผ่อนคลายกฎระเบียบด้านสินเชื่อเพื่อการจำนองสำหรับผู้ซื้อบ้านบางราย ซึ่งมีรายงานว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายอดการโอนอสังหาฯ ในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซียงไฮ้เพิ่มขึ้น 100% และ 200% จากสัปดาห์ก่อนหน้าตามลำดับ
นับเป็นสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนทยอยออกมาตรการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการลดภาษีอากรแสตมป์ซื้อขายหุ้นอีก 50%
ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-4 ก.ย. 66 ดัชนี Hang Seng Mainland Properties Index ปรับตัวขึ้นมา 4.86% ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index ปรับตัวขึ้น 1.33% และดัชนี China A50 Index ปรับตัวขึ้น 1.81%
จะเห็นว่ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแม้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อยรับข่าวการกระตุ้น แต่กระแสข่าวและสถานการณ์ในภาคอสังหาฯ ยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นจีน K WEALTH มองว่าอย่างน้อยภายในสิ้นปีนี้รัฐบาลจีนจำเป็นต้องมีมาตรการที่เห็นผลในวงกว้างและชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะมาตรการการคลัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจ
มุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นจีน
ตลาดหุ้นจีนในช่วงที่ผ่านมาโดนกดดันจากความไม่แน่นอนในภาคอสังหาฯ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดทุนที่ยังน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวัง ส่วนสถานการณ์ Country Garden ยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากยังมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในปีนี้อีก 2,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามด้วยระดับ Valuation ของตลาดหุ้นจีนที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเทียบกับในอดีต รวมถึงรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นต่อเนื่องทำให้เริ่มเห็นความตั้งใจในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เราจึงมีมุมมองว่านักลงทุนที่ถือกองทุนจีนอยู่สามารถถือต่อได้ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนในหุ้นจีนแนะนำทยอยหาโอกาสลงทุนโดยแนะนำสัดส่วนไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และทาง K WEALTH จะมีการอัพเดตสถานการณ์พร้อมมุมมองและคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
คำแนะนำ
• สำหรับผู้ที่ยังไม่มีการลงทุนกองทุนหุ้นจีน (เช่น K-CHINA K-CHX K-CCTV) หรือมีการลงทุนในสัดส่วนที่น้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (เช่น หุ้น กองทุนหุ้น ทองคำ กองทุนทองคำ กองทุนน้ำมัน REITs ฯลฯ) แนะนำหาโอกาสทยอยลงทุน หลังสถานการณ์ Country Garden ลดความตึงเครียดลง ซึ่ง K WEALTH จะติดตามและอัปเดตสถานการณ์ พร้อมมุมองและคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
• สำหรับผู้ที่มีการลงทุนกองทุนหุ้นจีน ในสัดส่วนที่สูง หรือมากกว่า 30% ของเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
o หากมีความกังวลกับความผันผวนของตลาดจีนมาก และกองทุนหุ้นจีนที่ถือขาดทุนในจำนวนที่สูง แนะนำให้ลดสัดส่วนกองทุนหุ้นจีนลง แนะนำสัดส่วนจีนมีไม่เกิน 10% ของเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดย
กรณีเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูง แนะนำสับเปลี่ยนจากกองทุนหุ้นจีนส่วนที่เกิน 10% ไปลงทุนในกองทุนหุ้น K-VIETNAM หรือ K-HIT-A(A) หรือ K-GHEALTH ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่จะได้รับผลตอบแทนนอกเหนือจากกองทุนหุ้นจีน
กรณีเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ แนะนำสับเปลี่ยนจากกองทุนหุ้นจีนส่วนที่เกิน 10% ไปไว้ในกองทุนตราสารหนี้ K-FIXEDPLUS-A หรือ K-GB-C(A) เพื่อลดความเสี่ยงและรอดูสถานการณ์ ในช่วงปีนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนอีกครั้ง
o หากกองทุนหุ้นจีนที่ถือมีกำไร แนะนำให้ติดตามสถานการณ์หุ้นจีน และคำแนะนำจาก K WEALTH ช่วงต้นสัปดาห์หน้า ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”