รวมมิตรเครื่องมือการลดหย่อนภาษี 2566 วางแผนดี มีเงินเหลือ

กองทุน SSF และ RMF มีบทบาทสำคัญเป็นอีกเครื่องมือช่วยลดหย่อนภาษี มีเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมีอีกบทบาทในแง่เป็นการลงทุนระยะยาว สำหรับมือใหม่ก็ควรเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แนะนำให้ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เน้นลงทุนสินทรัพย์ในประเทศไทยเป็นหลัก เ

รวมมิตรเครื่องมือการลดหย่อนภาษี 2566 วางแผนดี มีเงินเหลือ

• กองทุน SSF และ RMF มีบทบาทสำคัญเป็นอีกเครื่องมือช่วยลดหย่อนภาษี มีเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมีอีกบทบาทในแง่เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อครบกำหนดตามกฎหมายหลายคนอาจได้นำเงินส่วนนี้ไปใช้ยามเกษียณหรือเป็นเงินทุนสร้างธุรกิจก็ได้


• กองทุน SSF และ RMF สำหรับมือใหม่ก็ควรเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แนะนำให้ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เน้นลงทุนสินทรัพย์ในประเทศไทยเป็นหลัก เช่น K-SF-SSF หรือ K-SF-RMF ถ้าเป็นมือใหม่หัดลดหย่อนภาษีด้วยเครื่องมือประเภทประกันชีวิต ก็มีประกัน One Plus 10/1 ชำระเบี้ยครั้งเดียว ณ ต้นปีกรมธรรม์ ระยะเวลาเอาประกัน 10 ปี ได้เงินคืน 2% ทุก 2 ปี ที่สำคัญลดหย่อนภาษีได้




เข้าใจเกณฑ์ภาษีแบบขั้นบันได

ประเทศไทยเก็บภาษีเงินได้แบบขั้นบันได แปลว่ายิ่งรายได้มากยิ่งเสียภาษีในอัตราที่มากตามไปด้วย มีหลักการคำนวณโดยนำรายได้ทั้งหมดหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษี แล้วค่อยเอาเงินที่เหลือที่เรียกว่า เงินได้สุทธิ มาคำนวณภาษี


เช่น ถ้าเงินเดือน 50,000 บาท จะมีรายได้ 600,000 บาทต่อปี ถ้าหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนตามกฎหมาย โดยไม่ได้ซื้อกองทุนภาษี SSF และ RMF เพื่อให้มีค่าลดหย่อนเพิ่มเติม เหลือรายได้สุทธิ 433,700 บาท ที่เอาไปคิดภาษี จะเสียภาษีทั้งปีเท่ากับ 20,870 บาท



ซื้อกองทุน SSF และ RMF ช่วยลดลดหย่อนภาษีได้แค่ไหน

ถ้าหากซื้อกองทุน SSF และ RMF เต็มจำนวนตามกฎหมาย ด้วยเงินจำนวน 130,110 บาท จะเหลือรายได้สุทธิ 173,480 บาท ที่เอาไปคิดภาษี จะเสียภาษีทั้งปี 1,174 บาท ช่วยลดหย่อนภาษีไปได้ถึง 19,696 บาท แล้วยิ่งรายได้สูงยิ่งช่วยลดได้เยอะขึ้นไปอีก มากกว่านั้นถ้าซื้อกองทุน SSF/RMF ทุกปี ยอดเงินที่ช่วยลดหย่อนภาษีก็ได้เป็นก้อนไม่น้อยเลยทีเดียว


ดังนั้นกองทุน SSF และ RMF จึงมีบทบาทสำคัญเป็นอีกเครื่องมือช่วยลดหย่อนภาษี มีเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมีอีกบทบาทในแง่เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อครบกำหนดตามกฎหมายหลายคนอาจได้นำเงินส่วนนี้ไปใช้ยามเกษียณหรือเป็นเงินทุนสร้างธุรกิจก็ได้



เกณฑ์การลงทุนกองทุน SSF และ RMF

กองทุน SSF มีระยะเวลาลงทุน 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อ โดยไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี มีกองทุนให้เลือกทุกสินทรัพย์ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาฯ


กองทุน RMF มีระยะเวลาลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อและต้องถือจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี เว้นวรรคได้ไม่เกิน 1 ปี มีกองทุนให้เลือกทุกสินทรัพย์ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาฯ


เงื่อนไขการซื้อกองทุน SSF ลงทุนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้รวมทั้งปี (ก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนตามกฎหมาย) และไม่เกิน 200,000 บาท ส่วนกองทุน RMF ลงทุนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้รวมทั้งปี (ก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนตามกฎหมาย) และไม่เกิน 500,000 บาท


โดยทั้งกองทุน SSF และ RMF เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.), ประกันชีวิตแบบบำนาญ


จากตัวอย่างข้างต้นถ้าซื้อกองทุน SSF อย่างเดียวเต็มที่ก็ได้สูงสุดไม่เกิน 180,000 บาท หรือกองทุน RMF อย่างเดียวเต็มที่สูงสุดไม่เกิน 180,000 บาท แต่ว่ากันตามตรงถ้าซื้อกันเต็มจำนวนอาจเป็นวิธีสุดโต่งไปหน่อย ถ้าใครมีเงินสดไม่เพียงพอก็อาจใช้วิธีซื้อบางส่วนเพื่อลดฐานภาษีลงได้ เช่น เงินเดือน 50,000 บาท อยู่ที่ฐานภาษี 10% ซื้อกองทุน SSF และ RMF บางส่วนให้ลดลงมาที่ฐาน 5% ก็ช่วยลดหย่อนภาษีไปได้ไม่น้อยเลย



เครื่องมือสำหรับมือใหม่ลดหย่อนภาษี 2566

เริ่มจากกองทุน SSF และ RMF สำหรับมือใหม่ก็ควรเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อให้คุ้นเคยกับกองทุนลดหย่อนภาษีและการลงทุนมากขึ้น แนะนำให้ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เน้นลงทุนสินทรัพย์ในประเทศไทยเป็นหลัก เช่น K-SF-SSF หรือ K-SF-RMF กองทุนประเภทนี้มีความผันผวนต่ำกว่ากองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกว่า เช่น ตราสารหนี้ระยะยาว, หุ้นในประเทศ, หุ้นต่างประเทศ เป็นต้น


แต่ถ้าเป็นมือใหม่ลดหย่อนภาษีที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นเตรียมพบกับกองทุนลดหย่อนภาษีตระกูล Wealthplus ประกอบด้วย WealthPLUS Balanced RMF (WPBALANCEDRMF) สำหรับนักลงทุนทางสายกลาง ไม่เสี่ยงน้อยและมากเกินไป และ WealthPLUS Ultimate RMF (WPULTIMATERMF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ซึ่งทั้ง 2 กองทุนลดหย่อนภาษีนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาปรับสัดส่วนการลงทุนเอง โดยจะมีผู้จัดการกองทุนบริหารความเหมาะสมในการลงทุนให้ สำหรับใครที่สนใจรอติดตามกันได้ กำลังจะ IPO ปลายเดือน พ.ย. นี้


ที่สำคัญถ้าใครที่กังวลความผันผวนหรือต้องการคว้าโอกาสลงทุนที่อาจเข้ามาทันที กองทุนลดหย่อนกลุ่ม SSF และ RMF ตอบโจทย์นี้เหมือนกัน โดยสามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมขาเข้า


ลดหย่อนภาษี 2566 ด้วยเครื่องมือประเภทประกันชีวิต


แต่ถ้าเป็นมือใหม่หัดลดหย่อนภาษีด้วยเครื่องมือประเภทประกันชีวิต ก็มีประกัน One Plus 10/1 ชำระเบี้ยครั้งเดียว ณ ต้นปีกรมธรรม์ ระยะเวลาเอาประกัน 10 ปี ได้เงินคืน 2% ทุก 2 ปี ที่สำคัญลดหย่อนภาษีได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก:

• Finvest, KAsset


คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer วีรพล บางแวก
Back to top