มาถึงฤดูกาลแห่งการลดหย่อนภาษี คำถามยอดฮิต คงหนีไม่พ้น ปีนี้จะลดหย่อนภาษีด้วย SSF RMF อย่างไรให้โดนใจ แล้วยิ่ง SSF จะลดหย่อนได้ถึงปี 2567 เป็นปีสุดท้าย ที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ (สมมติว่าภาครัฐยังไม่มีมติต่ออายุหรือเสนอทางเลือกในการลดหย่อนภาษีเป็นอย่างอื่น) แล้วจะลดหย่อนภาษีด้วย SSF RMF ให้โดนใจ บทความนี้จะสรุปมาให้ดังนี้
เลือกแผนลดภาษีเป็นหลัก แผนลงทุนเป็นรอง
วัตถุประสงค์ในการเลือก SSF กับ RMF โดยเลือกแผนลดภาษีเป็นหลัก แผนลงทุนเป็นรอง หรือแปลง่ายๆ คือ ไม่อยากจะขังเงินไว้นานเกินความจำเป็น พิจารณาที่่ระยะเวลาลงทุนสั้นสุดที่เป็นไปได้ ในการช่วยตัดสินใจเลือกกองทุน SSF หรือ RMF
กรณีอายุไม่ถึง 45 ปี ควรเลือกลดหย่อนด้วย SSF ก่อน RMF ยกตัวอย่างเช่น อายุ 35 ปี มีแผนจะลดหย่อนภาษีด้วย เงินลงทุน 100,000 บาท (คำนวณแล้วไม่เกินสิทธิซื้อ SSF สูงสุด) จะต้องซื้อ SSF ในปีนี้ และถือไปอีก 10 ปี (นับวันชนวัน) หรือ ประมาณอายุ 45 ปี ในขณะที่เงินจำนวนเดียวกัน ไปซื้อ RMF ในปีนี้ จะต้องถือเงินก้อนนี้ไปจนกระทั่งอายุ 55 ปี (อีก 20 ปีเป็นอย่างน้อย) แปลว่า คนอายุน้อย (น้อยกว่า 45 ปี) ควรเลือกลงทุนใน SSF ก่อน RMF
กรณีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ควรเลือกลดหย่อนด้วย RMF ก่อน SSF ยกตัวอย่างเช่น อายุ 47 ปี มีแผนจะลดหย่อนภาษีด้วยเงินลงทุน 200,000 บาท (คำนวณแล้วไม่เกินสิทธิซื้อ SSF สูงสุด) จะต้องซื้อ RMF ในปีนี้ และถือไปจนกระทั่งอายุ 55 ปี (อีก 8 ปีเป็นอย่างน้อย) ในขณะที่เงินก้อนเดียวกัน หากไปซื้อ SSF ในปีนี้ จะต้องถือไปอีก 10 ปี (นับวันชนวัน) ก็ต้องอายุ 57 ปี ดังนั้น คนอายุมาก (ตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป) ควรเลือกลงทุน RMF ก่อน SSF
สำหรับคนอายุ 46-50 ปี ให้พิจารณา เลือก SSF หรือ RMF จากปีที่ตั้งใจเกษียณ อีกครั้ง หากตั้งใจเกษียณเร็ว เช่น 55 ก็ให้เลือก RMF หากตั้งใจเกษียณช้าเช่น 60 ให้เลือก SSF ต่อได้
หลังจากเลือกได้ว่ากองทุน SSF หรือ RMF เหมาะกับเราแล้ว ค่อยพิจารณานโยบายการลงทุนในกองทุน SSF หรือ RMF ที่เลือก ว่าเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการลงทุน สามารถทยอยลงทุนก่อนจะช่วงสิ้นปี
Tips อย่าลืมว่า กองทุน SSF ไม่เหมือนกับกองทุน LTF ถึงแม้จะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้เลือก แต่ SSF จะมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่า กองทุน LTF ที่เน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลักเท่านั้น
เลือกแผนลงทุนเป็นหลัก ได้ภาษีคืนเป็นเรื่องรอง
หากให้ความสำคัญกับแผนการลงทุนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคยลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีมาก่อน อายุเยอะแล้ว (เกิน 50 โดยเฉพาะ 55 ปี) ให้มีสินทรัพย์เสี่ยงน้อยๆ แนะนำ กองทุน RMF ความเสี่ยงน้อย เช่น กรณีอายุเกิน 55 ปี และเลือกกองทุน RMF แนะนำให้ลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น K-SF-SSF, K-FIXEDPLUS-SSF, KGBRMF, KSFRMF, KFIRMF เพื่อเตรียมพร้อมนำเงินออกมาใช้ยามเกษียณ
กรณีไม่เคยลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีมาก่อน
กรณีอายุไม่ถึง 55 ปี ไม่ว่าจะเลือกกองทุน SSF หรือ RMF กับ กรณีอายุเกิน 55 ปี และเลือกลงทุนได้ระยะยาวในกองทุน SSF แนะนำให้เลือกตามระดับความเสี่ยงเช่นกัน กรณีรับความเสี่ยงน้อย แนะนำ กองทุนตราสารหนี้ เช่น K-SF-SSF, K-FIXEDPLUS-SSF, KGBRMF, KSFRMF, KFIRMF กรณีรับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำ กองทุนผสม เช่น K-GINCOME-SSF, KGINCOMERMF กรณีรับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ กองทุนหุ้นไทย เช่น K-STAR-SSF, KSTARRMF
กรณีเคยลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีมาก่อน
ควรพิจารณาจากสัดส่วนการลงทุนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนทั่วไป และกองทุนลดหย่อนภาษี (SSF และ RMF) ที่มีความเสี่ยง (ระดับความเสี่ยง 6-8) ไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด หรือ เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แต่สัดส่วนรายกองทุน ไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด กล่าวคือ ไม่มีการกระจุกในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง หรือ กระจุกในกองทุนใดกองทุนหนึ่งมากเกินไป ให้ใช้คำแนะนำตามระดับความเสี่ยงได้
ในทางตรงข้าม หากมีสัดส่วนการลงทุนในกองทุนทั่วไป และลดหย่อนภาษี (SSF และ RMF) เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด และมีสัดส่วนรายกองทุนบางกอง เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมดด้วย เช่น ในอดีต ลงทุนกอง LTF มาตลอด ไม่เคยลงทุนกองทุนอื่นๆเลย จะทำให้สัดส่วนพอร์ตเน้นลงทุนในหุ้นและกระจุกในกองทุน LTF ดังนั้น ควรลดสัดส่วนหุ้นลง หรือ เพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ให้มากขึ้น เพื่อให้สัดส่วนภาพรวมมีกองทุนเสี่ยง ไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำให้ลงทุนใน กองทุนหุ้นที่มีสัดส่วนน้อยกว่า 30% หรือ กองทุนผสม ที่มีหุ้นน้อยกว่า 30% หากไม่มี จึงค่อยเลือกกองทุนตราสารหนี้เพื่อลดสัดส่วนภาพรวมไม่ให้มีหุ้นมากเกินไป
นอกจากการลดหย่อนภาษี การเลือกลงทุนตามสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยง เป็นปัจจัยที่ควรใช้เลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีอย่างกองทุน SSF หรือ RMF ที่สำคัญ อย่าลืม ทยอยเริ่มต้นลงทุนก่อนจะมีระยะเวลาจัดการได้น้อยลงเรื่อยๆ จนถึงวันทำการสุดท้ายของปี จะตัดบัญชีอัตโนมัติ หรือ ลงทุนเองหลายๆไม้ ก็จะเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษี มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้เหมาะกับผู้ลงทุนได้
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”