ประเด็นร้อน: FED ส่งสัญญาณจบดอกเบี้ยขาขึ้น ลุ้นลดดอกเบี้ยปีหน้า

• FED มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด จากเงินเฟ้อปี 66 ที่ชะลอลงต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวก


• K WEALTH มีมุมองกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เป็นกลาง แนะนำถือเพื่อรอดูสถานการณ์





FED มีมติ “คงดอกเบี้ย” ในการประชุมเมื่อวันที่ xxx

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ย เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากขึ้นติดต่อกันมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 65 โดยดอกเบี้ยนโยบาย ณ ปัจจุบัน ของ FED อยู่ที่ 5.25-5.50% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดในช่วง 22 ปี


โดยแถลงข่าวส่วนหนึ่งหลังการประชุมนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ได้กล่าวว่า "FED มีความเต็มใจที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2567 โดยหากเศรษฐกิจส่งสัญญาณว่ากำลังกลับสู่ภาวะปกติ FED ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินอีกต่อไป"


ซึ่งถ้อยคำแบบนี้ ไม่เคยมีในการแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ตลาดคาดว่า FED ไม่น่ามีการขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกแล้ว อีกทั้งในการแถลงข่าวยังกล่าวว่า การลดดอกเบี้ยนั้นไม่จำเป็นจะต้องเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เสมอไป หากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะปกติจนมั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินตึงตัว อย่างเช่นในปัจจุบัน


อีกทั้งการเปิดเผยข้อมูล Dot Plot หรือมุมมองดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ชี้ว่าปี 2567 อาจลดดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง เพิ่มจากการเปิดเผยครั้งก่อนที่ชี้ว่าอาจลดเพียง 2 ครั้ง


และอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 4 ครั้งในปี 2568 (ครั้งละ 0.25% รวม 1.00%) และปรับลงต่ออีก 3 ครั้ง ในปี 2569 (ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%) ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของ FED ลดลงสู่ช่วง 2%-2.25% ใกล้กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ 2.50%



FED มองเศรษฐกิจปีหน้า ยังแข็งแกร่ง

FED มองเศรษฐกิจปี 2566 แข็งแกร่งขึ้น และเงินเฟ้อชะลอลงต่อเนื่อง โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สู่ 2.6% (จากเดิมคาดการณ์ที่ 2.1%) และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.4%, 1.8% และ 1.9% ในปี 2567-2569 ตามลำดับ โดยอัตราการขยายตัวในระยะยาวอยู่ที่ 1.8%


ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ว่าปี 2566 จะอยู่ที่ 3.2% (ลดลงจากเดิม ที่คาดการณ์ 3.7%) และค่อยๆ ลดลงเป็น 2.4%, 2,2% และ 2.0% ในปี 2567-2569 ตามลำดับ สำหรับอัตราว่างงานปี 2566 คาดการณ์ที่ 3.8% และอยู่ที่ 4.1% ในปี 2567 - 2569 ซึ่งเท่ากับอัตราว่างงานระยะยาว



คำแนะนำการลงทุน

ทีมงาน K WEALTH ยังคงมีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-US500X , K-USA, K-USXNDQ ฯลฯ โดยมีคำแนะนำดังนี้


• สำหรับผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ อยู่ ไม่แนะนำให้ลงทุนเพิ่ม โดยแนะนำให้ถือเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน

• สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม ยังไม่แนะนำให้รีบร้อนลงทุนกองทุนหุ้นสหรัฐฯ โดย

o กองทุนกลุ่มนี้ที่มีความเสี่ยงและผันผวนสูง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกองทุนกลุ่มนี้ K WEALTH แนะนำให้มีได้ไม่เกิน 30% ของเงินลงทุน เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว

o หรือพิจารณากองทุนหุ้นอื่นที่มีระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน โดยมีมุมมองน่าลงทุนมากกว่า เช่น กองทุน K-HIT ซึ่งลงทุนในหุ้นที่หลากหลายทั้งธีมและอุตสาหกรรมทั่วโลก หรือกองทุน K-VIETNAM ที่เน้นลงทุนหุ้นประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ยังมีโอกาสเติบโตได้สูง


อย่างไรก็ตาม นอกจากการเลือกลงทุนกองทุนหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นในแต่ละช่วงเวลาแล้ว แนะนำให้มีการจัดสรรเงินลงทุนหลักประมาณ 80% ลงทุนในกองทุนผสม ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแล ติดตามและกระจายเงินลงทุนให้หลากหลาย เพื่อสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว เช่น กองทุน WP-LIGHT กองทุน WP-BALANCED กองทุน WP-ULTIMATE ฯลฯ ส่วนอีกไม่เกิน 20% ของเงินลงทุน สามารถเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นหรือกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ ที่มีความน่าสนใจในแต่ละช่วงเวลา


Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”




ผู้เขียน

K WEALTH Trainer ราชันย์ ตันติจินดา CFP®
Back to top