ประเด็นร้อน: สรุปการประชุม 2 สภา พร้อมการเดินหน้าของเศรษฐกิจจีน ปี 2024

ภาพรวมผลการประชุมมีประเด็นสรุปสาคัญดังนี้ 1.การตั้งเป้าหมายการขยายตัวของ GDP ที่ 5% สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 4.6% 2. การตั้งเป้าหมายการขาดดุลการคลัง (Fiscal Deficit) ที่ 3% ของ GDP โดยตลาดได้มีความหวังว่าจะสูงกว่านี้เล็กน้อย 3. รัฐบาลได้ประกาศออกพันธบัตรรัฐบา

• สรุป 4 ประเด็นหลังประชุมสองสภาจีน 1.รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ปี 67 ไว้ที่ 5.0% ในปีนี้ 2.ตั้งเป้าขาดดุลการคลังปี 67 ไว้ที่ 3% ของ GDP 3.ออกพันธบัตรระยะยาวพิเศษ 1 ล้านล้านหยวน 4. PBOC อาจลดอัตราส่วนกันเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม


• คำแนะนำ หากนักลงทุนต้องการลงทุนหุ้นจีน แนะนำให้รอติดตามสถานการณ์ ระหว่างรอสามารถลงทุนกองทุนแนะนำ


• K WEALTH มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากในระยะหลังเริ่มมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจังด้วยการลดดอกเบี้ยและ RRR ซึ่งตลาดหุ้นเริ่มตอบรับในเชิงบวก อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น




o สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย: K-SF-A, K-FIXED-A, WP-LIGHT

o สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงK-GB-A(D), WP-BALANCED, K-HIT-A(A), K-CHANGE-A(A) เป็นต้น



มุมมองต่อนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนเศรษฐกิจ

นโยบายการคลัง: แม้ตลาดจะผิดหวังเรื่องเป้าหมายการขาดดุลการคลังที่ 3% ของ GDP แต่หากวิเคราะห์ในภาพรวม (Augmented Fiscal Deficit) คาดว่าภาครัฐจะยังมีความสามารถในการสนับสนุนเศรษฐกิจ จากการออกพันบัตรรัฐบาล 1 ล้านล้านหยวน และ Sovereign Bond คงเหลือจากปีก่อน นโยบายการเงิน: ช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลด Reserve Requirement Ratio (RRR) และ การลด Loan Prime Rate (LPR) ประเภท 5 ปี อีกทั้งผู้ว่าฯ PBOC ยังระบุว่าพร้อมที่จะลด RRR ลงอีก อย่างไรก็ตาม เรามองว่า PBOC อาจมีความสามารถจำกัดในการดาเนินนโยบายการเงิน จากประสิทธิภาพการส่งผ่านนโยบายที่ลดลง และการคำนึงถึงผลได้ผลเสีย (Policy trade-off) ในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย


นอกจากนี้สาระการประชุมกล่าวถึง 3 หัวข้อหลักๆ เรื่อง 1.สิ่งแวดล้อม (Environment) โดยให้คำมั่นอย่างชัดเจนว่าจะลดการใช้พลังงานต่อหัวจากผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) ลงประมาณ 2.5% ในปี 67 2.เศรษฐกิจภาคการผลิต (Economic Focus on Manufacturing) จะมีการผลักดันการอัปเกรดอุปกรณ์การผลิตจะสร้างเม็ดเงินมากกว่า 5 ล้านล้านหยวน 3.โครงสร้างอำนาจภายในสภาประชาชนจีน (State Council Changes)



มุมมองต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน

ทาง K WEALTH มองว่า ในระยะสั้นภาครัฐเริ่มออกมาตรการกระตุ้นโดยส่งการกระตุ้นฝั่งตลาดทุนออกมาก่อน เริ่มมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงด้วยการลดดอกเบี้ยและ RRR ซึ่งตลาดหุ้นเริ่มตอบรับในเชิงบวก ในระยะยาวเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนยังมีความน่าสนใจในระยะยาว ด้วยแรงหนุนจากทั้งกำลังซื้อ เทคโนโลยี และการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมสู่ยุคใหม่แต่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการใช้นโยบายกระตุ้นและการควบคุมภาคธุรกิจ รวมไปถึงการแก้ปัญหาภาคอสังหาฯส่วนความเสี่ยงที่ต้องติดตามยังเป็นความขัดแย้งกับชาติมหาอำนาจฝั่งตะวันตก



คำแนะนำการลงทุน

• นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นกลุ่มหุ้นจีน เช่น กองทุน K-CHINA , K-CCTV, K-CHX ทีม K WEALTH ยังมีมุมมอง Neutral หรือมีมุมมองเป็นกลาง โดยสามารถถือลงทุนได้ แต่ไม่ควรมีสัดส่วนมากกว่า 30%ของเงินลงทุน หากมีสัดส่วนมากกว่า 30%ของเงินลงทุน

o กำไร/ขาดทุน มากกว่า 10% แนะนำขายทยอยลดสัดส่วน โดยนำเงินค่าขายคืนไปลงทุนในกองทุนแนะนำอื่น เช่น K-HIT-A(A) , K-CHANGE-A(A) , WEALTHPLUS FUND เป็นต้น


• นักลงทุนที่ยังไม่มีกองทุนหุ้นจีน แนะนำกระจายการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงในกองทุนแนะนำอื่น เช่น K-HIT-A(A) , K-CHANGE-A(A) หรือ WEALTHPLUS FUND ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


• นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย แนะนำให้เข้าลงทุนกองทุน K-SF-A, K-FIXED-A, WP-LIGHT เป็นต้น


Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer กานต์พิชชา แดงพิบูลย์สกุล
Back to top