ประเด็นร้อน: หุ้นเทคผันผวน ท่ามกลางศึกเลือกตั้ง

• ผู้ถือกองทุน K-GTECH ไม่ต้องกังวลใจ แม้ราคาติดลบกว่า 3% ในวันที่ 17 ก.ค. 67 แต่เงินลงทุนส่วนใหญ่ยังกำไร และ K WEALTH ยังแนะนำให้ถือต่อได้แม้ยังขาดทุน


• ผู้ถือกองทุนหลักของ K-AGRI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% ในวันที่ 22 ก.ค. 67 แนะนำให้ถือไม่เกิน 5%ของพอร์ตการลงทุน และแนะนำกองทุน K-GOLD เพื่อวัตถุประสงค์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตแทน




กองทุน K-GTECH ติดลบกว่า 3% ท่ามกลางศึกเลือกตั้งจาก 2 พรรคการเมืองสหรัฐฯ ทั้งท่าทางของรัฐบาลปัจจุบัน ที่อาจเข้มงวดกับบริษัทเทคโนโลยีที่เปิดโอกาสให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ และพรรคคู่แข่งที่มีท่าทีต่อไต้หวันที่ต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน จนส่งผลต่อหุ้น TECH เช่นกัน



ทำไม K-GTECH จึงผันผวน

17 ก.ค. 67 ราคากองทุน K-GTECH ปรับตัวลง -3.27%เทียบกับวันก่อนหน้า ตามภาพรวมหุ้นเทคโนโลยี และดัชนีหุ้นที่ปรับตัวลง NASDAQ -2.77% เช่นเดียวกัน


การปรับตัวลงดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่าสหรัฐกำลังประเมินว่าอาจมีการห้ามบริษัทต่างชาติขายสินค้าที่ผลิตโดยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ให้กับจีน เพื่อเป็นการจำกัดหรือป้องกันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้ โดยมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลต่อธุรกิจจีนที่ดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ ซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชิป หรือ Semiconductor ด้วย


ประกอบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคตรงข้าม ได้ให้สัมภาษณ์โดยมีส่วนหนึ่งกล่าวว่า “ไต้หวันควรจ่ายเงินให้กับสหรัฐเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปกป้องไต้หวัน” ทำให้นักลงทุนมีความกังวลและมีการเทขายหุ้นกลุ่ม Semiconductor ออกมาเช่นกัน


อีกทั้งในวันศุกร์ 19 ก.ค. 67 ที่ระบบของ Microsoft ล่ม จากปัญหาอัปเดตซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นข่าวดังและกระทบภาคธุรกิจหลายส่วน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หุ้นเทคโนโลยีได้รับผลกระทบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 67 ซึ่งประเทศไทยปิดทำการ แต่ตลาดหุ้น NASDAQ ซึ่งมักถูกใช้เป็นตัวแทนของหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ มีการปรับตัวขึ้น +1.58%เทียบกับวันก่อนหน้า หลังจากปรับตัวลงมา 3 วันติดต่อกับ นับตั้งแต่ 17 ก.ค. 67



ความเคลื่อนไหวอื่นๆ

ภาพรวมตลาดหุ้นและสินทรัพย์การลงทุนต่างๆ มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่เสมอ โดยผู้ลงทุนสามารถติดตามสรุปความเคลื่อนไหวตลาดจากทีม K WEALTH ได้ทุกต้นสัปดาห์ทาง Weekly Wealth Update ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสินทรัพย์หนึ่งที่ปรับตัวขึ้นแรงใน 1 วัน นั่นคือ สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเห็นได้จากกองทุนหลักของ K-AGRI (CT (Lux) Global Technology) ที่มีการปรับตัวขึ้น +3.13%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า ในวันที่ 22 ก.ค. 67 ประกอบกับผลการดำเนินงานของกองทุน K-AGRI ย้อนหลัง 6 เดือน ถึง 5 ปี เป็นบวกค่อนข้างสูง จนผู้ลงทุนอาจอยู่ระหว่างการตัดสินใจซื้อหรือขายกองทุนดังกล่าวอยู่



คำแนะนำของ K WEALTH

K WEALTH มีมุมมองการลงทุนเป็นกลาง ทั้งกองทุน K-GTECH และกองทุน K-AGRI



ผู้ที่ถือกองทุน K-GTECH

- หากพิจารณาจาก NAV ที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน คาดว่าผู้ลงทุนส่วนใหญ่มีกำไร สำหรับผู้ที่มีกำไรแนะนำให้ขายหรือทยอยขายเงินลงทุนส่วนที่กำไรออกมา และนำเงินไปลงทุนในกองทุนแนะนำอื่นของ K WEALTH เช่น K-GHEALTH K-VIETNAM

- แต่หากกองทุนที่ถืออยู่ยังขาดทุน ซึ่งคาดว่าเป็นเงินที่เพิ่งลงทุนมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะนำให้ถือกองทุนนี้ต่อได้



ผู้ที่ถือกองทุน K-AGRI

- เนื่องจากกองทุนหลักของ K-AGRI เน้นลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งมีความผันผวนสูง วัตถุประสงค์การลงทุนจึงควรเป็นการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน หรือผู้ลงทุนบางคนอาจลงทุนเพื่อเก็งกำไรได้ แต่ควรเป็นเงินลงทุนส่วนน้อยเท่านั้น

- สำหรับผู้ที่มีกำไรจากกองทุน K-AGRI แนะนำขายทำกำไร และนำเงินไปลงทุนใน

+ กองทุนหุ้นแนะนำของ K WEALTH เช่น K-GHEALTH K-VIETNAM เพื่อคาดหวังผลตอบแทนระยะยาว

+ หรือ หากต้องการถือเพื่อกระจายความเสี่ยง แนะนำให้เลือกกระจายความเสี่ยงในกองทุนทองคำ เช่น K-GOLD แทน +

- สำหรับผู้ที่ยังขาดทุนจากกองทุน K-AGRI แนะนำให้พิจารณาหาจังหวะปรับสัดส่วนไปกองทุนอื่น โดยแนะนำว่ากองทุน K-AGRI ไม่ควรมีมากกว่า 5%ของเงินลงทุน


Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”




คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer ราชันย์ ตันติจินดา CFP®
Back to top