ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากหลังจากมีรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง และมีการคาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันดิบของสหรัฐจะคงที่อยู่ที่วันละ 20.5 ล้านบาร์เรลในปีนี้และปี 2026 ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.52 ล้านบาร์เรล

ประเด็นร้อน: ราคาน้ำมันพุ่ง หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากหลังจากมีรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง และมีการคาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันดิบของสหรัฐจะคงที่อยู่ที่วันละ 20.5 ล้านบาร์เรลในปีนี้และปี 2026 ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.52 ล้านบาร์เรล

  • ราคาน้ำมันดิบขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากรายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลง ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี และคาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันดิบของสหรัฐจะคงอยู่ที่วันละ 20.5 ล้านบาร์เรลในปีนี้และปี 2026 ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.52 ล้านบาร์เรลในปี 2025
  • K WEALTH ยังคงมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในน้ำมัน แนะนำขายกองทุนน้ำมัน K-OIL โดยแนะนำให้พิจารณาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่นต่อความผันผวน เช่น Healthcare และ Infrastructure

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง

ในวันที่ 15 มกราคม 2568 ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 80.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.28% ราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน และราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ 82.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.64% ราคาทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน


สาเหตุหลักมาจากข้อมูลจากสำนักงานจัดการข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา (USEIA) ระบุว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่ปี 2022 และมีการคาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันดิบของสหรัฐจะคงที่อยู่ที่วันละ 20.5 ล้านบาร์เรลในปีนี้และปี 2026 ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.52 ล้านบาร์เรลในปี 2025 นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรน้ำมันดิบของ Gazprom Neft ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจพลังงานใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย และ Surgutneftegas กองเรือขนส่งน้ำมันดิบจำนวน 183 ลำของประเทศรัสเซีย


กองทุนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 กองทุน K-OIL ปรับขึ้น 3.28% จากปัจจัยดังกล่าว


มุมมองการลงทุน

K WEALTH ยังคงมีมุมมองที่เป็นกลางต่อการลงทุนในน้ำมัน โดยให้คำแนะนำดังนี้ นักลงทุนปัจจุบัน : ประเมินสัดส่วนการลงทุนในกองทุนน้ำมัน หากมีสัดส่วนเกิน 15% ของพอร์ต อาจพิจารณาปรับลดความเสี่ยง และหากมีสัดส่วนไม่เกิน 15% แนะนำคงสัดส่วนการลงทุนเดิม


นักนักลงทุนใหม่ : อาจพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงไปยังกองทุนประเภทอื่น เช่น Healthcare หรือ Infrastructure


  • ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
    • แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น MedTech, Biotechnology
    • แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
    • แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
  • สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน
    • หากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่
      • กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ
      • กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้
  • หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ
    • กองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน
    • กองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg


คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM และ K-GINFRA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top