มลพิษทางอากาศยังน่ากังวล เพิ่มความคุ้มครองให้มั่นคง

มลพิษทางอากาศจากสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงและอันตรายมากกว่าที่คิด แต่เรายังต้องดำเนินชีวิตต่อไป แล้วจะจัดการความเสี่ยงนี้ได้อย่างไร ติดตามได้จากบทความนี้

สถานการณ์มลพิษทางอากาศที่น่าเป็นห่วง

ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม 67 – มีนาคม 68 เนื่องจากสภาพอากาศนิ่ง ทำให้เกิดการสะสมของมลพิษในชั้นบรรยากาศ ประกอบกับการเผาในที่โล่งและมลพิษจากการจราจรที่หนาแน่น ยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งร้อนจัดและหนาวจัดสลับกันในระยะเวลาสั้นๆ ยังส่งผลให้มีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ

ผลกระทบต่อสุขภาพที่ต้องระวัง

การสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงได้หลายอย่าง ได้แก่

• โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด นำไปสู่โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
• โรคหัวใจและหลอดเลือด อนุภาคฝุ่นที่เล็กมากสามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง
• มะเร็งปอด การสัมผัสฝุ่นละอองที่มีสารก่อมะเร็งเป็นระยะเวลานาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด แม้ในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
• ภูมิแพ้และโรคผิวหนัง ฝุ่นละอองกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ น้ำมูกไหล ไอ จาม และระคายเคืองผิวหนัง บางรายอาจเกิดผื่นแพ้หรือโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
  

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่

• เด็กเล็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
• ผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ
• หญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

ทำไมต้องมีประกันสุขภาพในยุคที่สภาพอากาศไม่แน่นอน

การทำประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยง เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีทั้งค่ายา เวชภัณฑ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง เช่น ค่ารักษามะเร็งปอดในปัจจุบัน

โรค	เทคนิค 3 มิติ	เทคนิค IMRT/VMAT
มะเร็งปอด	35 ครั้ง รวม 141,100 บาท	35 ครั้ง รวม 197,600 บาท

ประกอบกับความไม่แน่นอนของความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศที่อาจแสดงอาการในระยะยาวหรือต้องการการรักษาเร่งด่วน การมีประกันสุขภาพจึงช่วยให้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพในโรงพยาบาลชั้นนำได้อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ความคุ้มครองที่สูงและครอบคลุมทั้งกรณีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ยิ่งทำให้การทำประกันสุขภาพเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่สภาพแวดล้อมมีความเสี่ยงสูงเช่นนี้

Elite Health Plus และ D Health Plus ทางเลือกที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

K WEALTH ขอแนะนำประกันสุขภาพเหมาจ่าย Elite Health Plus และ D Health Plus ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมและตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน

Elite Health Plus

ความคุ้มครองหลัก ได้แก่

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 20-100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมค่ารักษาทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงการผ่าตัดและหัตถการต่างๆ
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ค่าห้อง 10,000-25,000 บาทต่อวัน หรือห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก สำหรับแผน 40 ล้านบาทขึ้นไป
• เหมาจ่ายตามจริง ทั้งค่าล้างไต ค่ารักษามะเร็งแบบตรงจุด Targeted Therapy
• ครอบคลุมการรักษาทั้งในและต่างประเทศ เลือกรับการรักษาได้ในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก รวมถึงการรักษาเฉพาะทางที่อาจไม่มีในประเทศไทย(1)
• ไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญากว่าทั่วประเทศ
• คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องในวัยสูงอายุ(2)
  

หมายเหตุ : (1) ขึ้นอยู่กับอาณาเขตความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อ (2) ระยะเวลาความคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์หลักที่สัญญาเพิ่มเติมแนบท้ายอยู่

D Health Plus

ความคุ้มครองหลัก ได้แก่

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายสูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง ทั้งเจ็บป่วย โรคร้าย อุบัติเหตและโรคระบาด
• นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล
• ไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาทั่วประเทศ
• มีให้เลือกถึง 3 แผน ทั้งแผนที่มีความรับผิดชอบส่วนแรกที่คุ้มครองค่าใช้จ่าย เฉพาะส่วนที่เกิน 100,000 บาท หรือ 30,000 บาท (ค่าใช้จ่ายส่วนแรก อาจเลือกเบิกจากสวัสดิการที่มี หรือเลือกชำระเอง) หรือเลือกแผนที่มีความคุ้มครองตั้งแต่บาทแรก
• เมื่อเกษียณสามารถปรับเพิ่มความคุ้มครองได้ เช่น จากแบบที่มีความรับผิดชอบส่วนแรก 30,000 บาท เป็นแบบที่มีความคุ้มครองตั้งแต่บาทแรก โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่
• คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องในวัยสูงอายุ(1)
• แนะนำความซื้อคุ้มครอง Care Plus ประกันคุ้มครองค่ารักษามะเร็ง และไตวายเรื้อรัง ควบคู่คุ้มครองทั้งแบบ ผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) การตรวจวินิจฉัยขั้นสูงทั้ง MRI, CT Scan, PET และ Gait Scan เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ทันสมัย และช่วยเพิ่มโอกาสการรักษา เช่น ยามุ่งเป้า Targeted Therapy ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือ การปลูกถ่าย Stem Cell

หมายเหตุ : (1) ระยะเวลาความคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์หลักที่สัญญาเพิ่มเติมแนบท้ายอยู่

เริ่มทำประกันก่อน ได้รับความคุ้มครองก่อน

K WEALTH แนะนำให้ผู้ที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ พิจารณาทำประกันสุขภาพ เพื่อได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม เป็นหลักประกันให้กับตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะในยุคที่สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมมีความเสี่ยงสูง การมีประกันสุขภาพที่ดีจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาที่ดี มีคุณภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับเงื่อนไข Copayment ที่มีผลบังคับใช้ 20 มีนาคม 2568 นี้ ผู้เอาประกันอาจต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วน (30% หรือ 50% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข) ทั้งนี้ Copayment ไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด หากมีความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขของ Copayment ก็สามารถพิจารณาทำประกันสุขภาพได้เมื่อมีความพร้อม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

• เมืองไทยประกันชีวิต

•Chula Cancer รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา

.