-
ธุรกิจแบรนด์หรูไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินค้าแฟชั่น แต่ครอบคลุมธุรกิจที่สะท้อนไลฟ์สไตล์หรูหราแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย ธุรกิจการเงินระดับไฮเอนด์ โรงแรมหรูระดับโลก รถยนต์ซูเปอร์คาร์ และสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ
-
ในปี 2024 ธุรกิจแบรนด์หรูมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 366.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากปีก่อนหน้า 3.2% และคาดการณ์ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 3.7% ในช่วงปี 2022-2032
-
กองทุน KT-LUXURY-A เน้นลงทุนใน 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่ครองตลาดกลุ่ม Luxury ได้แก่ Adidas, Hermès, American Express, Visa, Hilton, Ferrari, Richemont, Marriott, EssilorLuxottica และ Apple จุดเด่นคือลงทุนครอบคลุมธุรกิจที่สะท้อนไลฟ์สไตล์หรูหราแบบครบวงจร และผลการดำเนินงานในอดีตที่ดีสะท้อนศักยภาพการเติบโตของธุรกิจสินค้าแบรนด์หรู และความสามารถของผู้จัดการกองทุน
โลกของแบรนด์หรูที่กว้างไกลกว่าที่คิด
เมื่อพูดถึงธุรกิจแบรนด์หรู หลายคนอาจนึกถึงเพียงกระเป๋าดีไซเนอร์ เสื้อผ้าแบรนด์ดัง หรือรองเท้าราคาแพง แต่ที่จริงแล้วขอบเขตของธุรกิจแบรนด์หรูนั้นกว้างขวางและหลากหลายกว่าที่เราคิดมาก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินค้าแฟชั่น แต่ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มอบทั้ง "ผลิตภัณฑ์" และ "ประสบการณ์" อันเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรูที่ให้บริการระดับพรีเมียม รถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่สะท้อนถึงสถานะและรสนิยมของเจ้าของ ธุรกิจการเงินที่บ่งบอกถึงความมั่นคงทางฐานะผ่านบัตรเครดิตระดับสูง ไปจนถึงสินค้าเทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความพิเศษและความเป็นเจ้าของที่เหนือชั้น
ในปี 2024 ตลาดธุรกิจแบรนด์หรูมีมูลค่า กว่า 366.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 3.2% จากปี 2023 และ market.us คาดการณ์ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 3.7% ในช่วงปี 2022-2032 อัตราการเติบโตนี้สะท้อนถึงความต้องการสินค้าแบรนด์หรูที่ยังคงแข็งแกร่ง ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ในระดับสูงที่มีอยู่เดิม แต่ยังขยายไปสู่กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลง เช่น กลุ่ม Millennials หรือ Gen Y ที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงมั่นคงทางการเงิน ให้ความสำคัญกับ "Luxury Goods" หรือสินค้าแบรนด์หรู เช่น นาฬิกา รถหรู รวมถึงสินค้าเทคโนโลยีล้ำสมัย
ขณะเดียวกัน Gen Z และกลุ่มครอบครัวระดับไฮเอนด์เริ่มให้ความสำคัญกับ "ประสบการณ์มากกว่าความคุ้มค่า" ทำให้ธุรกิจโรงแรมหรูและการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจับตามองคือ ราคาหุ้นกลุ่ม Luxury ที่ยังคง "laggard" หรือราคายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หนึ่งในเหตุผลหลักคือยังคงรอการฟื้นตัวจากกำลังซื้อของคนจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรมแบรนด์หรู ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทางการจีนได้มีความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคของคนจีน ผ่านมาตรการต่างๆ ทำให้นักลงทุนจับตาการลงทุนในกลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูอีกครั้งหนึ่ง
ทำความรู้จัก 10 แบรนด์หรูชั้นนำของโลก
-
Adidas AG – ผู้นำด้านอุปกรณ์กีฬาระดับโลก Adidas เป็นมากกว่าแบรนด์กีฬาทั่วไป เพราะสามารถผสานนวัตกรรมกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ารุ่นพิเศษที่ร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักกีฬา แบรนด์นี้ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่นักกีฬา ที่มองหาเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาแนวไลฟ์สไตล์
-
Hermès International SCA – แบรนด์หรูระดับตำนานจากฝรั่งเศส หนึ่งในแบรนด์หรูที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านแฟชั่นระดับพรีเมียม เช่น กระเป๋า Birkin และ Kelly ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา สินค้าแต่ละชิ้นทำด้วยมือจากช่างฝีมือผู้มีทักษะสูง ทำให้ Hermès กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหายากและคุณภาพที่เหนือกว่า นอกจากกระเป๋าแล้ว เครื่องประดับและน้ำหอมของ Hermès ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าระดับสูงที่มองหาความพิเศษในทุกๆ รายละเอียด
-
American Express Co – บัตรเครดิตระดับพรีเมียมที่สร้างมูลค่าให้ลูกค้า High Net Worth American Express (Amex) เป็นผู้นำด้านบัตรเครดิตสำหรับกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ซึ่งมอบสิทธิพิเศษ เช่น ห้องรับรองสนามบิน การเข้าถึงโรงแรมหรู และโปรแกรมสะสมคะแนนที่คุ้มค่า ความเชื่อมั่นของลูกค้าในบริการระดับสูงทำให้ Amex เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง
-
Visa Inc – เครือข่ายการชำระเงินที่ครอบคลุมทั่วโลก Visa เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการชำระเงิน ด้วยระบบเครือข่ายการชำระเงินที่ครอบคลุมทั่วโลก รองรับการใช้จ่ายทั้งในโลกออนไลน์และธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ด้วยการขยายตัวของการช็อปปิ้งออนไลน์และการชำระเงิน Visa จึงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่การชำระเงินออนไลน์และกระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก
-
Hilton Worldwide Holdings Inc – เครือโรงแรมหรูระดับโลกที่เติบโตต่อเนื่อง Hilton เป็นเครือโรงแรมที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ครอบคลุมตั้งแต่แบรนด์ระดับอัลตร้าลักชัวรีอย่าง Waldorf Astoria ไปจนถึงแบรนด์หรูระดับพรีเมียมอย่าง Conrad และ Hilton Hotels เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางระดับสูงทั่วโลก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทำให้ความต้องการที่พักหรูเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวระดับ Hi-End และกลุ่มนักธุรกิจ ส่งผลให้ Hilton มีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคง
-
Ferrari NV – สุดยอดรถสปอร์ตที่เป็นสัญลักษณ์ของความเร็วและความหรูหรา Ferrari เป็นมากกว่ารถยนต์ แต่เป็นตัวแทนของวิศวกรรมระดับโลกและสถานะทางสังคมที่เหนือระดับ ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทำให้ Ferrari เป็นที่ต้องการของทั้งนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต ความพิเศษของ Ferrari อยู่ที่การผลิตรถในจำนวนจำกัด โดยเฉพาะรุ่นพิเศษที่มักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา นอกจากนี้ ฐานลูกค้าของ Ferrari ยังมีความภักดีสูง ทำให้ความต้องการในตลาดยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
-
Compagnie Financière Richemont SA – ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเครื่องประดับและนาฬิกาหรู Richemont เป็นเจ้าของแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Cartier, Montblanc และ Piaget ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานฝีมือและดีไซน์เหนือระดับ นาฬิกาและเครื่องประดับจาก Richemont ไม่ใช่แค่สินค้าแฟชั่น แต่เป็นของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา ทำให้ได้รับความนิยมจากนักสะสมและกลุ่มลูกค้าระดับสูงทั่วโลก
-
Marriott International Inc – เครือโรงแรมระดับพรีเมียมที่เน้นการให้บริการสุดพิเศษ Marriott เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีแบรนด์หรูอย่าง The Ritz-Carlton และ St. Regis ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการบริการระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสุดหรู สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรือการดูแลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โรงแรมในเครือนี้มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักเดินทางระดับไฮเอนด์
-
EssilorLuxottica SA – ผู้นำด้านแว่นตาแบรนด์หรู EssilorLuxottica คือยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมแว่นตา เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Ray-Ban, Oakley และแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับหรูมากมาย นอกจากการเป็นเจ้าของแบรนด์แว่นตาชั้นนำแล้ว บริษัทยังเป็นผู้ผลิตเลนส์สายตาคุณภาพสูงที่ใช้กันทั่วโลก ทำให้ครองตลาดทั้งในกลุ่มแฟชั่นและสุขภาพสายตา
-
Apple Inc – ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม Apple ไม่เพียงเป็นบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป แต่ยังเป็นแบรนด์ที่ผสานดีไซน์ล้ำสมัยเข้ากับประสบการณ์ใช้งานอันยอดเยี่ยม ผลิตภัณฑ์ของ Apple เช่น iPhone, MacBook และ Apple Watch ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคทั่วโลก แบรนด์มีฐานลูกค้าที่ภักดีและพร้อมจ่ายเพื่อสินค้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ลงทุนแบรนด์หรูชั้นนำง่าย ๆ กับ KT-LUXURY-A
กองทุน KT-LUXURY-A ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินค้าแฟชั่น แต่ครอบคลุมธุรกิจที่สะท้อนไลฟ์สไตล์หรูหราแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย การเงินระดับไฮเอนด์ โรงแรมหรูระดับโลก รถยนต์ซูเปอร์คาร์ และสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ โดย 10 บริษัทแรกที่ลงทุน จะเป็นบริษัทที่ได้พูดไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน และมีศักยภาพเติบโตจากความต้องการทั่วโลก ทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในการถือกองทุนเพียงกองทุนเดียว
ผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.75%, 6 เดือนอยู่ที่ 10.00% และ 1 ปีอยู่ที่ 2.47% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025)
นักลงทุนสามารถซื้อขายกองทุน KT-LUXURY-A ได้สะดวกผ่านแอป K+ ที่ช่วยให้ติดตามพอร์ตการลงทุน ตรวจสอบผลตอบแทน และทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้การลงทุนในแบรนด์หรูระดับโลกเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: KBank, KAsset, KTAM