-
ตารางออมเงินเป็นเครื่องมือสร้างวินัยการออมที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กหรือใหญ่ ทุกคนเริ่มต้นได้ตามกำลังความสามารถ
-
การออมเงินในบัญชีเงินฝากอาจไม่เพียงพอสำหรับเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว เนื่องจากดอกเบี้ยที่ได้รับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทำให้อำนาจซื้อของเงินลดลงเรื่อยๆ ตามเวลา
-
การลงทุนผ่านบริการ Wealth PLUS ช่วยต่อยอดเงินออมให้เติบโตมากขึ้น ด้วยระบบที่ง่ายต่อการใช้งาน มีตัวช่วยจัดพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ และมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมในบัญชีเงินฝาก
เมื่อพูดถึงความมั่นคงทางการเงิน "การออม" คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่หลายคนมองข้าม แม้หลายคนจะตั้งเป้าเก็บเงิน แต่มักทำไม่สำเร็จ ตารางออมเงินจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างวินัยทางการเงินและทำให้การออมเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ในสภาวะที่เงินเฟ้อยังคงสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก การออมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อเป้าหมายทางการเงินระยะยาว
K WEALTH มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวจากผู้ออมไปสู่นักลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนในอนาคต
รู้จักกับการออมเงินอย่างมีระบบ
การออมเงินอย่างมีระบบไม่ได้เป็นเพียงการเก็บเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่เป็นการวางแผนเก็บเงินอย่างมีเป้าหมายและทำอย่างสม่ำเสมอตามตารางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้รู้ว่าต้องเก็บเงินเท่าไร เมื่อไร และจะทำให้มีเงินก้อนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้เมื่อใด
คนไทยนิยมใช้การออมแบบมีแผนหรือตารางออมเงิน เพราะเป็นวิธีที่ช่วยให้เห็นความก้าวหน้าในการออมได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ หรือแต่ละเดือน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเห็นความก้าวหน้าจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ออมอย่างต่อเนื่อง
การออมอย่างมีระบบมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางการเงินหลายอย่าง ได้แก่
-
สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะมีเงินออมไว้ใช้โดยไม่กระทบต่อรายจ่ายประจำ
-
สร้างวินัยการใช้จ่าย เมื่อต้องออมเงินตามตาราง จะมีวินัยในการใช้จ่ายมากขึ้น
-
บรรลุเป้าหมายการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของชิ้นใหญ่ การท่องเที่ยว หรือการมีเงินก้อนเพื่อลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในยุคที่อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก การออมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การเรียนรู้ที่จะนำเงินออมไปต่อยอดผ่านการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ การออมยังคงเป็นพื้นฐานที่ดีเพื่อก้าวสู่การลงทุนอย่างมั่นใจในอนาคต
ตารางออมเงินคืออะไร
ตารางออมเงิน คือ เครื่องมือช่วยวางแผนการออมอย่างเป็นระบบซึ่งกำหนดจำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละช่วงเวลาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ช่วยให้ผู้ออมสามารถติดตามความก้าวหน้าในการออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของตารางออมเงินในชีวิตประจำวันมีมากมาย ได้แก่
-
สร้างวินัยทางการเงิน กำหนดให้ต้องออมเงินตามตารางที่วางแผนไว้ สร้างความรับผิดชอบทางการเงิน
-
จัดสรรค่าใช้จ่ายได้เหมาะสม เมื่อรู้ว่าต้องออมเท่าไรในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้วางแผนการใช้จ่ายส่วนที่เหลือได้ดียิ่งขึ้น
-
เห็นความก้าวหน้าชัดเจน ทราบว่าได้ออมเงินไปแล้วเท่าไรและเหลืออีกเท่าไรจึงจะบรรลุเป้าหมาย ทำให้รู้สึกมีแรงจูงใจในการออมมากขึ้น
-
บรรลุเป้าหมายการเงินได้เร็วขึ้น การออมอย่างมีแบบแผนทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเงินได้เร็วกว่าการออมตามใจตัวเอง
ตารางออมเงินยอดฮิตที่คนไทยนิยมใช้
- ตารางออมเงิน 365 วัน ออมเงินทุกวันตลอดทั้งปี โดยเพิ่มจำนวนเงินออมในแต่ละวัน หรือออมเท่ากันทุกวัน
-
ตารางออมเงิน 52 สัปดาห์ ออมเงินทุกสัปดาห์ โดยเพิ่มจำนวนเงินในแต่ละสัปดาห์
-
ตารางออมเงิน 10,000 บาท เป้าหมายการออมเพื่อให้มีจำนวนเงิน 10,000 บาท แบ่งออมเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์
-
ตารางออมเงิน 50,000 บาท และ 100,000 บาท เป้าหมายการออมที่มีมูลค่าสูงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายทางการเงินที่ใหญ่ขึ้น
ประเภทของตารางออมเงิน
การวางแผนออมเงินอย่างเป็นระบบเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงิน ตารางออมเงินจะช่วยให้มีเป้าหมายชัดเจนและสร้างวินัยในการออม K WEALTH ได้รวบรวมตารางออมเงินรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะกับแต่ละเป้าหมายการเงิน ดังนี้
ตารางออมเงิน 10,000 บาท: เริ่มต้นง่ายๆ สำหรับมือใหม่
ตารางออมเงิน 10,000 บาท เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มสร้างวินัยการออมหรือผู้มีรายได้จำกัด โดยสามารถออมให้ครบ 10,000 บาทได้ภายใน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการออมของแต่ละบุคคล
ตัวอย่าง เช่น ตารางออมเงิน 10,000 บาท ใน 4 เดือน

เทคนิคการออมเงิน 10,000 บาทสำหรับผู้มีรายได้น้อย
-
หยอดกระปุก เก็บเหรียญ 5 บาท 10 บาท ทุกวัน
- ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น งดซื้อกาแฟราคาแพง หรือลดมื้ออาหารนอกบ้าน
-
เก็บเงินทอน ปัดเศษเงินทอนจากการซื้อของทุกครั้งลงกระปุก
- ท้าทายตัวเอง ทำ No-Spend Challenge งดใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสัปดาห์ละ 1 วัน
ตารางออมเงิน 50,000 บาท: สร้างเงินก้อนสำหรับเป้าหมายชัดเจน
เงิน 50,000 บาท เป็นเป้าหมายที่เหมาะสำหรับการสร้างเงินสำรองฉุกเฉิน ทริปท่องเที่ยว หรือซื้อสิ่งของที่ต้องการ การออมเงินจำนวนนี้ต้องใช้ความพยายามและมีวินัยมากขึ้น
ตัวอย่าง เช่น ตารางออมเงิน 50,000 บาท ใน 6 เดือน
ตารางออมเงิน 100,000 บาท: ก้าวสู่เป้าหมายใหญ่
การออมเงิน 100,000 บาท เป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงินที่มากขึ้น เหมาะสำหรับเป้าหมายใหญ่อย่างเงินดาวน์บ้าน เงินดาวน์รถ หรือเงินลงทุนก้อนแรก การออมเงินจำนวนนี้ต้องมีการวางแผนระยะยาวและมีวินัยสูง
ตัวอย่าง เช่น ตารางออมเงิน 100,000 บาท ใน 12 เดือน
เคล็ดลับการออมเงิน 100,000 บาท
- ตั้งระบบออมเงินอัตโนมัติ โดยให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีหลักไปยังบัญชีออมทรัพย์ทันทีที่เงินเดือนเข้า
-
เพิ่มรายได้พิเศษ เช่น หางานพาร์ทไทม์ ขายของออนไลน์ หรือรับงานฟรีแลนซ์เพื่อเพิ่มเงินออม
-
ทบทวนค่าใช้จ่ายประจำ เช่น พิจารณายกเลิกบริการสมาชิกที่ไม่จำเป็น หรือค่าสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
-
วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า ทำงบประมาณรายเดือนเพื่อควบคุมรายจ่ายและเพิ่มเงินออม
ตารางออมเงิน 365 วัน: ออมทุกวัน สร้างนิสัยการเงินดีแบบอัตโนมัติ
ตารางออมเงิน 365 วันเป็นการสร้างวินัยการออมแบบวันต่อวัน เป็นวิธีที่ช่วยปลูกฝังนิสัยการออมอย่างสม่ำเสมอ โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสม
ตัวอย่าง เช่น ตารางออมเงิน 365 วัน แบบเพิ่มทีละบาท

เคล็ดลับทำให้สำเร็จจริง
-
ใช้ขวดหรือกระปุกออมสิน แยกเงินสำหรับออมทุกวันใส่ขวดหรือกระปุกที่มองเห็นความก้าวหน้าได้ชัด
- ตั้งโอนเงินล่วงหน้าสม่ำเสมอ ตั้งค่าการโอนเงินเพื่อการออมเอาไว้ล่วงหน้า
-
จัดเตรียมเงินล่วงหน้า เตรียมเหรียญหรือธนบัตรขนาดเล็กไว้ล่วงหน้าสำหรับแต่ละสัปดาห์
-
สร้างตารางติดตาม ทำตารางติดตามความก้าวหน้าและติดไว้ในที่มองเห็นได้ง่าย เช่น หน้าตู้เย็น
-
ชวนคนในครอบครัวร่วมกิจกรรม ทำเป็นกิจกรรมครอบครัวเพื่อสร้างแรงจูงใจและความสนุกสนาน
การเลือกตารางออมเงินที่เหมาะกับตัวเองควรคำนึงถึงรายได้ ค่าใช้จ่าย และเป้าหมายทางการเงิน ไม่ควรตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปจนทำให้รู้สึกกดดันหรือล้มเลิกกลางคัน ทั้งนี้ ควรปรับเปลี่ยนตารางออมเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเงินของตัวเองเสมอ เพราะตารางออมเงินที่ดีคือตารางที่ทำได้จริงและช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ในระยะยาว
หากเก็บเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว อย่าลืมพิจารณานำเงินไปต่อยอดผ่านการลงทุนในช่องทางที่เหมาะสม เช่น กองทุนรวม หุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อให้เงินออมเติบโตและเอาชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
ข้อจำกัดของการออมเงินแบบตาราง
การออมในบัญชีเงินฝากอาจไม่พอในยุคดอกเบี้ยต่ำ
ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ไทยอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.25% ต่อปี ขณะที่บัญชีฝากประจำให้ดอกเบี้ยประมาณ 1-1.5% ต่อปี ซึ่งยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน
ตัวอย่างการคำนวณ
เงินออม 100,000 บาท ฝากบัญชีออมทรัพย์ได้รับดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จะได้ดอกเบี้ย 250 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทุกปี
การออมในบัญชีเงินฝากแม้จะปลอดภัย แต่มีข้อจำกัดสำคัญคือ ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ทำให้อำนาจในการซื้อของเงินออมลดลงเรื่อยๆ ตามเวลา
ทำไมการออมอย่างเดียวอาจไม่พอสำหรับเป้าหมายระยะยาว
การเกษียณเป็นเป้าหมายทางการเงินระยะยาวที่ต้องการเงินจำนวนมาก ตามหลักการวางแผนเกษียณโดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจะอยู่ที่ประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ
ตัวอย่างการคำนวณเงินเกษียณ
หากมีค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ 50,000 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจะอยู่ที่ 35,000 บาทต่อเดือน (70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ) ถ้ามีชีวิตหลังเกษียณอีก 25 ปี จะต้องมีเงินเตรียมไว้ประมาณ 10,500,000 บาท (ไม่คำนึงถึงเงินเฟ้อ)
หากเริ่มออมตั้งแต่อายุ 30 ปี และเกษียณอายุ 60 ปี มีเวลาออม 30 ปี จะต้องออมเดือนละ 29,167 บาท แต่หากนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี จะออมเพียงเดือนละ 10,900 บาท
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า การลงทุนช่วยลดภาระการออมลงไปได้มาก และทำให้เป้าหมายเกษียณเป็นจริงได้มากขึ้น ดังนั้น การออมอย่างเดียวโดยไม่มีการลงทุนจึงไม่เพียงพอสำหรับเป้าหมายระยะยาวอย่างการเกษียณ
ก้าวจากผู้ออมสู่นักลงทุน
เมื่อมีวินัยในการออมและมีเงินก้อนพร้อมแล้ว การก้าวสู่โลกของการลงทุนจะช่วยให้เงินทำงานและสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า โดยเฉลี่ยแล้วการลงทุนในตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนประมาณ 7-10% ต่อปีในระยะยาว ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากที่ให้เพียง 0.25-1.5% ต่อปี
การเริ่มต้นลงทุนอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับมือใหม่ K WEALTH ขอแนะนำ บริการ Wealth PLUS เพื่อช่วยให้ก้าวจากการเป็นผู้ออมสู่การเป็นนักลงทุนได้อย่างมั่นใจ โดยเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เริ่มต้นลงทุน ซึ่งมีจุดเด่นที่สำคัญ ดังนี้
- ลงทุนเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยเงินเพียง 1,000 บาท ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ก็เริ่มต้นสร้างแผนลงทุนได้
-
ระบบ Robo-Advisor ที่ช่วยจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบจะแนะนำการลงทุนที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของคุณ
-
ลงทุนอัตโนมัติตามแผน DCA (Dollar-Cost Averaging) ตั้งระบบลงทุนสม่ำเสมอเช่นเดียวกับการออมตามตาราง แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า
-
ติดตามพอร์ตการลงทุนง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS ดูความก้าวหน้าของการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา
มาทำให้เงินออมของเราทำงานสร้างผลตอบแทนมากขึ้นด้วยการลงทุนผ่าน Wealth PLUS บน K PLUS เพื่ออนาคตที่มั่งคั่งและมั่นคงกว่าที่เคย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย