จัดการเงินร้านไม่ยุ่งยากด้วย K PLUS shop

รวมตัวช่วยเด็ดสำหรับขายของออนไลน์ที่พ่อค้าแม่ค้าต้องมีติดตัวไว้ เพิ่มโอกาสการขาย แถมจัดการเงินง่าย ขายของได้คล่องไม่มีสะดุด

● ปัจจุบันเป็นสังคมไร้เงินสด เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นตัวช่วยพ่อค้าแม่ค้าในการขายของก็มีแอปพลิเคชั่นออกมาเยอะแยะมากมายซึ่งหนึ่งในนั้นคือ K PLUS และ K PLUS shop ที่ช่วยในเรื่องของการ โอน เติม จ่าย บริหารจัดการเงินร้านค้า ที่สะดวกทั้งฝั่งคนซื้อและคนขาย

● K PLUS shop เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยมีประโยชน์มากมาย เช่น รู้ยอดเงินเข้าออกแบบ Real Time มีเสียงพูดแบบระบุยอดเงิน รับบัตรเครดิตแบบไม่ต้องใช้เครื่องรูด เพิ่มสิทธิ์พนักงานหรือแอดมินในการดูแล รับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตและเดบิต


สำหรับการทำธุรกิจในประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์หรือออฟไลน์ นอกจากการขายของแล้วยังต้องคอยตอบคำถามลูกค้า จดลิสต์รายการ เขียนบิล เรียกได้ว่าทำทุกอย่างที่ต้องลงทุนลงแรงเยอะพอสมควร ยิ่งถ้าเปิดร้านลำพังต้องทำทุกอย่างเองคนเดียว วันไหนที่ออเดอร์เยอะ แชทลูกค้าเด้งรัวๆ ก็อาจจะมีหลุดหลงลืมเก็บยอดไม่ครบเงินไม่ตรงกันบ้าง อาจทำให้เกิดปัญหาตอนสรุปยอดรายวัน ซึ่งปัจจุบันตัวช่วยที่นอกเหนือจากคนจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยผ่อนแรงพ่อค้าแม่ค้าที่ เช่น ถ้าอยากจัดการสต๊อกสินค้าก็มีแอปพลิเคชั่น My Store หรือ Shopkeeper แต่ถ้าอยากได้ตัวช่วยเกี่ยวกับการบริหารจัดการรับเงิน เข้า-ออก ที่ใช้ได้ทั้งคนมีหน้าร้านและไม่มีหน้าร้านแนะนำ K PLUS shop ที่ตอนนี้มีฟีเจอร์เด็ดมาเป็นตัวช่วยขายของออนไลน์ให้ ทุกร้านค้าพร้อมแข่งขันได้แม้ในยุคธุรกิจฝืดเคือง

ทำไมต้อง K PLUS shop

นอกจากเงินสดที่ใช้ซื้อของแลกเปลี่ยนสินค้าบริการแล้วนั้น ในยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็จะชำระหรือรับชำระค่าสินค้าบริการผ่านแอปพลิเคชั่น เช่น KPlus ผ่าน QR Code สะดวกรวดเร็ว ตรวจสอบ Slip ได้ สะดวกทั้งฝั่งคนขายและลูกค้า แต่ K PLUS shop จะช่วยได้มากกว่านั้นคือ
(1) มีเสียงยอดเงินเข้าเมื่อมีการชำระเงินจะรู้ยอดเงินเข้าออกแบบ Real Time จากเสียงพูดทำให้ตรวจสอบยอดเงินที่เข้าได้
(2) เพิ่มลดสิทธิ์พนักงานหรือแอดมินในการดูแล ยิ่งถ้าเจ้าของไม่อยู่ร้านแอดมินก็สามารถรับการแจ้งเตือน คอยช่วยดูร้านได้
(3) รับสแกนรับเงินของลูกค้าได้จาก Mobile Banking ทุกธนาคาร และ E-Wallet ที่รองรับ เช่น Alipay WeChat (เพิ่มช่องทางในการรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวจีน) ซึ่งเมื่อมีคนจ่ายเงินให้ ก็จะได้รับการแจ้งเตือนเงินเข้าแบบเรียลไทม์ ดูยอดขายได้ทันที
(4) สรุปปิดยอด โอนเงินเข้าบัญชี ด้วยตัวเจ้าของเอง โดยสามารถเลือกดูยอดขายได้ทั้งแบบรายชั่วโมง รายวัน หรือรายเดือน เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ ไม่ต้องมานับรวมยอดขายจิ้มเครื่องคิดเลขเองให้เสียเวลา
(5) ทำโปรโมชั่นด้วยตนเองผ่าน K PLUS shop ได้ เช่น การทำบัตรสะสมแต้มถ้าทำผ่าน K PLUS shop จะเป็นรูปแบบออนไลน์ไม่ต้องมีบัตร ข้อมูลการสะสมแต้มของลูกค้าจะอยู่ในแอปพลิเคชั่น

นอกจากประโยชน์ในข้างต้นแล้วก็ยังมีฟังชันก์อื่นที่น่าสนใจให้เลือกใช้เพื่อช่วยให้การจัดการเงินร้านไม่ยุ่งยาก คือ มี QR รับบัตรเครดิต และ ร้านค้าสามารถรับจ่ายด้วยวงเงิน K Pay Later เป็นต้น



ตัวช่วยอื่นๆจัดการเรื่องเงิน

หากร้านค้ามีการขยับขยายเติบโตขึ้น อีกตัวช่วยที่ขาดไม่ได้คือเครื่องรูดบัตรที่รับชำระเงินได้เหมือนกันคือเครื่อง Mini EDC และ EDC เป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายของพ่อค้าแม่ค้า แต่จะแตกต่างกันในเรื่องไหน ร้านค้าเราเหมาะกับตัวช่วยใด ลองดูจากตารางเปรียบเทียบด้านล่าง

รายการ/
K PLUS Shop
Mini EDC
EDC
จุดเด่น
รับชำระด้วย QR Code
แทนเงินสด



ขนาดเล็กพกพาง่าย



เชื่อมต่อระบบร้านค้าทาง LAN, 3G, Dial Up
เหมาะกับ
ร้านค้าขนาดเล็ก /
ร้านค้าออนไลน์
( มีหรือไม่มีหน้าร้าน )
ร้านค้าขนาดเล็ก - กลาง
( ออกบูท หรือมีหน้าร้าน )

ร้านค้าขนาดกลาง - ใหญ่
( มีหน้าร้าน )

รับชำระด้วยบัตรเดบิตและเครดิต
ทำได้
ทำได้
ทำได้
ยอดชำระสูงสุดต่อรายการ
50,000 บาทต่อรายการไม่จำกัดจำนวน
20,000 บาทต่อรายการหรือ 300,000 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเริ่มต้นขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าและขอเพิ่มได้)
20,000 บาทต่อรายการหรือ 300,000 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเริ่มต้นขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าและขอเพิ่มได้)
รายงานสรุปยอดขาย
มี
มี
มี
หลักฐานการชำระเงิน
E-Slip
E-Slip
เซลล์สลิป
สร้าง QR Code แบบระบุและไม่ระบุยอดเงิน
ทำได้
-
-
ส่งเรียกเก็บเงินทาง Social Media
ทำได้
-
-
วิธีการสมัคร
บุคคลธรรมดา
K PLUS
ติดต่อสาขาหรือทีมขาย
นิติบุคคล
ติดต่อสาขาหรือทีมขาย

จากตารางก็พอจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าตัดสินใจได้ว่าร้านค้าเรานั้นเหมาะที่จะใช้ตัวช่วยจัดการเงินแบบไหน เบื้องต้นควรศึกษาทำความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อช่วยในเรื่องของการใช้ที่คล่องแคล่วขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสทางการขาย เช่น ร้านค้าออนไลน์ถึงแม้ยังไม่มี K PLUS shop แนะนำให้ลองโหลดมาศึกษาเกี่ยวกับตัวช่วย ฟีเจอร์ พยายามเชื่อมโยงธุรกิจหรือกลุ่มลูกค้าของเราว่าเหมาะกับฟีเจอร์ไหน เริ่มจากจุดเล็กๆก่อนแล้วค่อยทำให้ครบทุกฟีเจอร์รับรองว่าผลลัพธ์ดีเกินคาด จนอาจจะรู้สึกได้ว่า “รู้งี้โหลดนานแล้ว”