- ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยปกป้องมูลค่าเงินลงทุนในช่วงวิกฤต เช่น ช่วงการระบาดของ COVID-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครนและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส วิกฤติการล่มสลายของตลาดหุ้น(Black Monday ในปี 1987) รวมถึงวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 ทำให้การลงทุนในทองคำจึงเหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยง ควรจัดสรรเงินลงทุนในทองคำเป็นสัดส่วน 5%-15% ของพอร์ตทั้งหมด เพื่อเสริมความมั่นคงและลดผลกระทบจากความผันผวนของสินทรัพย์อื่นๆ
- ซื้อขายทองคำง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS ทั้งทองคำโลก 99.99% และทองคำไทย 96.5% เปิดมิติใหม่ของการลงทุนทองคำที่สะดวกสบายและมั่นใจ ด้วยระบบซื้อขายราคา Real-time ให้คุณเลือกซื้อขายได้ทันที ไม่ต้องรอราคาปิดตอนสิ้นวัน อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ให้คุณถอนทองคำจริงได้แล้ววันนี้ ครบ จบในแอปเดียว
ทองคำ สินทรัพย์ที่ให้กำไรในช่วงสินทรัพย์อื่นขาดทุน
ทองคำ ถือเป็น "Safe Haven" หรือสินทรัพย์หลบภัยในยามวิฤตที่สินทรัพย์การลงทุนส่วนใหญ่ขาดทุน ตัวอย่างเช่น
- ช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยในวันที่ 23 มี.ค. 63 ซึ่งเป็นวันที่หุ้นโลก หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นไทย ติดลบสูงสุด 29% 28% และ 35%เทียบกับต้น ธ.ค. 62 ตามลำดับ แต่ในช่วงเดียวกันทองคำโลกกลับเป็นบวก 6.25%%
- ช่วง 1 เดือนแรก หลังวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่รัสเซียประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารกับประเทศยูเครน หุ้นโลก หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นไทย ติดลบสูงสุด 3.9% 2.8% และ 2.6%ตามลำดับ ในวันที่ 8 มี.ค. 65 แต่ในช่วง
- ในช่วงต้นของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ระหว่างวันที่ 11 ต.ค. ถึง 27 ต.ค. 66 ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั่วโลก ทำให้หุ้นโลก หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นไทยปรับตัวลดลงสูงสุดในอัตรา 5.4% 5.6% และ 3.7% ตามลำดับ ในขณะที่ราคาทองคำโลกกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 5.3%
- เหตุการณ์วิกฤติการล่มสลายของตลาดหุ้น (Black Monday 19 ธ.ค.1987) ส่งผลต่อตลาดการลงทุน โดยหุ้นสหรัฐและหุ้นไทยปรับตัวลง 20.46% และ 3.0% ตามลำดับ ในขณะที่ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น 3.72%
- ในช่วงวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในสหรัฐ (เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2008 ถึง 9 มี.ค. 2009) ตลาดหุ้นทั่วโลก หุ้นสหรัฐ และหุ้นไทยปรับตัวลดลงสูงสุดที่ 43.90%, 44.35% และ 31.29% ตามลำดับ ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.76% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทางเลือกเก็บและลงทุนทองคำ
นอกจากการซื้อหรือลงทุนทองคำ ผ่านร้านค้าทองและกองทุนรวมทองคำแล้ว ปัจจุบันสามารถลงทุนกับผู้ค้าทองผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารได้ด้วย เช่น K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย ที่เพียงคลิกที่เมนู “ธุรกรรม” >> “บริการอื่น” >>”ซื้อ-ขาย ทองคำ” ก็เป็นการเพิ่มความสะดวกและความมั่นใจในความปลอดภัยของระบบการลงทุนทองคำได้ ที่หากเปรียบเทียบกับการลงทุนกองทุนรวมทองคำและซื้อขายผ่านร้านค้าทองแล้ว พบว่าแต่ละทางเลือกมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน ดังนี้
รู้จักทางเลือกใหม่ การเก็บและลงทุนทองคำบน K PLUS
- ซื้อขายทองคำด้วยราคา Real-time: ในการลงทุนทองคำผ่าน K Plus ออกแบบนักลงทุนสามารถทำการซื้อหรือขายทองคำได้ทุกวันในช่วงเวลาทำการ คือระหว่าง 07.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่จะหยุดทำการในวันหยุดที่สอดคล้องกับวันหยุดของตลาดทองคำโลก เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดพิเศษที่ตลาดทองคำระหว่างประเทศหยุดทำการ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้ในเวลาที่ตลาดทองคำยังเปิดทำการอยู่ และสามารถติดตามราคาทองคำได้ตามเวลาจริง
- ซิ้อ-ขายทองคำได้ทั้ง 99.99% และ 96.5%: นักลงทุนสามารถเลือกซื้อทองคำที่มีความบริสุทธิ์แตกต่างกันได้ โดยทองคำ 99.99% เป็นทองคำบริสุทธิ์สูงที่สุดและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ส่วน 96.5% เหมาะสำหรับการทำเครื่องประดับและเป็นที่นิยมในไทยซื้อง่ายขายคล่อง โดยนักลงทุนสามารถเลือกทองคำที่ตรงกับความต้องการได้อย่างสะดวก
- อัตราแลกเปลี่ยน มีผลต่อกำไร/ขาดทุน: การซื้อขายทองคำโลกผ่าน K PLUS เป็นการซื้อขายด้วยสกุลเงิน USD ผ่าน Foreign Currency Wallet (บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สกุลเงินตราต่างประเทศ) โดยต้องมีการฝาก/เติมเงินสกุล USD ใน Wallet ดังกล่าวก่อนถึงจะสามารถซื้อทองคำได้ และเมื่อขายทองคำ เงินที่ได้รับจากการขายจะถูกเติมใน Wallet ด้วยสกุลเงิน USD เช่นกัน เพื่อใช้ซื้อทองคำครั้งถัดไป หรือถอนออกมาเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ ตอนที่ถอนเป็นเงินบาท ดังนั้น
- หากเป็นการซื้อและขายทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้น และในช่วงเวลาเดียวกันเงินบาทมีการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ USD จะส่งผลให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำมากขึ้น
- หากเป็นการซื้อและขายทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลง และในช่วงเวลาเดียวกันเงินบาทมีการแข็งค่าเมื่อเทียบกับ USD จะส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนทองคำมากขึ้น
- หากเป็นการซื้อและขายทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า หรือการซื้อและขายทองคำในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า
- ส่งผลให้ผู้ลงทุนกำไรหรือขาดทุน น้อยลง
- หรือหากอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูง อาจมีผลตอบแทนที่ขาดทุนแม้ราคาทองคำขึ้น หรือมีกำไรทั้งที่ราคาทองคำปรับตัวลง
- ถอนทองคำได้ทุกวันในแอป K Plus: เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักลงทุน โดยสามารถถอนทองคำได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ถึง 23.57 น.
เงื่อนไขการถอนทอง คือ:
- ทองคำ 99.99% ขั้นต่ำในการถอนคือ 0.10 ออนซ์ (Oz.)
- ทองคำ 96.5% ขั้นต่ำในการถอนคือ 0.10 บาททอง (Bg.)
การส่งคำสั่งถอนสามารถทำได้ตลอดทั้งวัน และค่าบล็อคทอง (ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดเตรียมทองคำ) และค่าจัดส่ง จะถูกชำระในสกุลเงินบาท และหักผ่านบัญชี กสิกรไทย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินโดยไม่ต้องทำการโอนต่างธนาคาร
นักลงทุนสามารถเลือกรับทองคำได้ 2 ช่องทาง:
- รับที่สาขาร้านทองแม่ทองสุก: สามารถไปรับทองคำได้ที่ 8 สาขา ของร้านทองแม่ทองสุกทั่วประเทศ ทำให้สะดวกและรวดเร็ว
- บริการจัดส่งทางไปรษณีย์: ทองคำจะถูกจัดส่งไปยัง 77 จังหวัดทั่วไทย พร้อมการ ประกันสูญหายจากการจัดส่ง เพื่อความมั่นใจในการรับทองคำถึงมืออย่างปลอดภัย
ฟีเจอร์นี้ทำให้การลงทุนทองคำสะดวกและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องไปถึงร้านทองและสามารถจัดการกับทองคำที่ลงทุนได้ตามต้องการ พร้อมการจัดส่งที่มีความปลอดภัยและประกันภัย
สำหรับผู้ที่ต้องการ ซื้อ-ขาย ทองคำโลกผ่าน K PLUS สามารถเริ่มเปิดบัญชีซื้อขายทองคำและเปิดบัญชี Foreign Currency Wallet ที่เมนู “ ธุรกรรม” >> “บริการอื่น” >>”ซื้อ-ขาย ทองคำ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: KBank