คนส่วนใหญ่มักหวั่นวิตกเมื่อพบว่ามีอาการ “ไอเป็นเลือด” เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติที่รุนแรงจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงได้ ในบทความนี้จึงจะพาไปรู้จักอาการไอเป็นเลือดให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถสังเกตลักษณะอาการไอของตนเอง และรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
ไอเป็นเลือด (Haemoptysis) คือ อาการไอที่พบเลือดปนออกมากับน้ำลาย เสมหะหรือเสลด เกิดขึ้นเมื่อทางเดินหายใจหรือปอดผิดปกติ โดยเลือดอาจออกมาจากช่องคอ ช่องท้อง หรือปอด ซึ่งแพทย์ต้องทำการตรวจวินิจฉัยต่อไปว่าส่วนใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดออก
เมื่อมีอาการไอเป็นเลือด ต้องดูว่าเป็นเลือดอย่างเดียวไม่มีเสมหะปน หรือมีเสมหะปนอยู่ด้วย เพราะอาการไอเป็นเลือดแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ไอเป็นเลือดสด และไอติดเลือด ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ไอเป็นเลือดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
เมื่อมาพบแพทย์ เบื้องต้นแพทย์จะทำการซักประวัติอาการ ลักษณะเลือดที่ออกมา ประวัติสุขภาพ ประวัติการการใช้ยา รวมทั้งประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวว่ามีใครป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลิ่มเลือดหรือไม่ นอกจากนี้อาจมีการตรวจเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้ เช่น
การวินิจฉัยอาการไอเป็นเลือดจะทำให้ทราบสาเหตุว่าเลือดออกมาจากส่วนใด และสามารถทำการวางแผนการรักษาต่อไปอย่างตรงจุด
วิธีแก้ไขเมื่อไอเป็นเลือดจะแตกต่างกันไปตามอาการและสาเหตุที่เกิด โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการรายบุคคล ดังนี้
แม้การไอเป็นเลือดส่วนใหญ่จะไม่ใช่อาการที่ร้ายแรง เป็นเพียงการไอรุนแรงจนเส้นเลือดฝอยแตกเท่านั้น แต่ในผู้ป่วยบางรายก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่เป็นอันตรายได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอดโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนมานักต่อนัก ดังนั้นเมื่อพบอาการไอเป็นเลือดจนน่าผิดสังเกต หรือเสมหะมีเลือดปนบ่อยครั้ง ให้รีบมาพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมทั้งป้องกันตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
นอกจากจะดูแลตัวเองให้สุขภาพดีแล้ว การวางแผนเรื่องสุขภาพก่อนเจ็บป่วยด้วยการทำประกันโรคร้ายแรงก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการซื้อประกันตั้งแต่ที่เรายังสุขภาพดี จะทำให้เราได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเมื่อเป็นโรคร้ายแรง อันจะนำพาเราไปสู่การใช้ชีวิตอย่างสบายใจมากขึ้น
รับคำอธิบายพร้อมปรึกษาแบบประกันที่ เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ