​​​​        การมาของ COVID-19 นั่น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่ง เพราะ หากต้องการจะสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ คุณจะต้อง ตอบสนองความต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคให้ได้ ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาดูข้อมูลเจาะเทรนด์โลก ที่มาจาก Creative Thailand ว่าผู้คนในแต่ละช่วงวัย หรือ GEN ต่าง ๆ นั้น มีแนวโน้มพฤติกรรมอย่างไรในปี 2022 ที่กำลังจะก้าวเข้ามา

​

BABY BOOMER (1946 – 1964)

กลุ่มวัน 57 – 75 ปี เป็นรุ่นที่เกิดหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดต้องการแรงงานคน ทำให้คนในยุคสมัยนั้นนิยมที่จะมีลูกกันค่อนข้างเยอะ จึงกลายเป็นที่มาของ Baby Boomer

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Baby Boomer

• กังวลเรื่องการแพร่ระบาด : ทำให้การท่องเที่ยว และ การกินข้าวนอกบ้านน้อยกว่ากลุ่มอื่น
• ทำงานนานขึ้น : เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้บางคนในกลุ่มนี้ เลื่อนการเกษียณอายุออกไป
• ลงทุนกับของใช้ในบ้าน : เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก หรือ โฮมออฟฟิศ
• บรรลุผลงานได้ดีขณะ WFH มากกว่าวัยอื่น ๆ
• Lifestyle หลายอย่างยังเหมือนเดิม : เช่น เน้นสุขภาพ และ ให้ความสำคัญกับการอยู่บ้าน หรือ การใช้เวลากับครอบครัว
• โหยหาการท่องเที่ยว (บางกลุ่ม) : แต่เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ
• ท่องโซเชียลสูงขึ้น : ชื่นชอบการแชร์ข้อมูล เพื่อลดความโดดเดี่ยว
• เปิดใจซื้อของออนไลน์มากขึ้น : เพราะจากการแพร่ระบาด และ เกิดการรับรู้เรื่องความสะดวกสบาย

​จากเทรนด์ปี 2022 จึงเป็นโอกาสของร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะแบรนด์สุขภาพกับแฟชั่น ในการขยายฐานเป้าหมายไปยังผู้สูงวัย เพราะ เป็นวัยที่มีกำลังในการจับจ่ายมากกว่า Gen อื่น ๆ ประกอบกับพฤติกรรมที่เข้าถึงช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน​

Gen X (1965 - 1980)

กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 41 - 56 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคแห่งความมั่งคั่งกำลังขยายไปทั่วโลก มีการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจสูง และ อัตราการเกิดลดลงเพราะคนไม่นิยมมีลูกมาก

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen X

• มีความกังวลมากกว่า Gen อื่น ๆ : เพราะ เป็นกำลังหลักของครอบครัว ทำให้มีความกังวลต่อเจนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การดูแลผู้สูงอายุ (Baby Boomer) หรือ การดูแลลูกหลาน (Gen Z) 
• สานสัมพันธ์ต่าง Gen ได้ดี : เพราะ เป็น Gen ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพ่อแม่ และ ลูกหลาน
• ใช้ Facebook และ Youtube เป็นหลัก : เพราะ Gen นี้ส่วนมากชอบค้นหาข้อมูลจากช่อง YouTube และ ตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาจาก Facebook 
• ของสมนาคุณ การ์ดสะสมคะแนน Gen นี้ไม่มีพลาด
• สมาชิกพรีเมียมของแบรนด์ : เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์ที่ใช้มายาวนาน (Brand Loyalty) 
• มักจะเขียนรีวิวสินค้าบนสื่อ : ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของแบรนด์ Skincare และ เครื่องสำอาง
• สนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากขึ้น : ตั้งแต่ช่วง COVID-19 เริ่มระบาด Gen X ต่างมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มมากขึ้น ทั้งเพื่อต้านโรค บำรุงร่างกาย รวมไปถึงการดูแลรูปร่าง

​เป็นโอกาสของแบรนด์สายสุขภาพ อาหารเสริม วิตามิน สกินแคร์ และ เครื่องสำอาง เพราะเป็น Gen ที่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ใส่ใจดูแลตัวเอง และ คนรอบข้าง อีกทั้งหากแบรนด์ไหนมีการสะสมแต้ม ระบบ Membership จะยิ่งสามารถดึงดูดได้ดี นอกจากนี้ หากสินค้าไหนถูกใจ คน Gen นี้ก็มักจะชอบรีวิวสินค้านั้น ๆ ลงบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย​

​

Gen Y (1981 - 1996)

        กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 25 - 40 ปี สามารถเรียกได้ว่า Millennials และ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในยุคของการพัฒนาเทคโนโลยี เข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Y ปี

• Gen ที่ยืดหยุ่น : ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
• เลือดนักสู้ : เชื่อในความเปลี่ยนแปลง และ การขับเคลื่อนสังคม
• ชอบอัปเดตไลฟ์สไตล์ และ เทรนด์ในโลกออนไลน์ : เป็น Gen ที่ติดโซเชียล แต่รู้สึกโดดเดี่ยว จึงชอบใช้เวลากับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ตั้งแคมป์ ดำน้ำ รวมถึงคาเฟ่ เพื่ออัปเดตไลฟ์สไตล์หรูหราบนสื่อโซเชียล จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจร้านเครื่องดื่มต่าง ๆ
• สุขภาพจิต และ คุณภาพชีวิต คือ สิ่งสำคัญ : เพราะเป็น Gen ที่เครียดสะสมตลอดเวลา จึงมองหากิจกรรมสร้างความสมดุลให้ชีวิต อาทิ ASMR, เที่ยวพักผ่อน, ออกกำลังกาย หรือ รับประทานอาหารคลีน
• ความจริงใจ และ ความซื่อสัตย์ของแบรนด์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Gen นี้

​เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของร้านกาแฟ ชานม และ คาเฟ่ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอลคุมโทน อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็น Gen ที่เชื่อในการขับเคลื่อนสังคม ดังนั้นแบรนด์ที่จะจับกลุ่ม Gen Y นี้ จึงควรจะมีจุดยืนที่ชัดเจนด้านสังคม และ ควรทำอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน​

Gen Z (1997- 2012)

        กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 9 - 24 ปี เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีรุ่งเรือง ทำให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นดิจิทัล กลุ่มคนเหล่านี้จึงถนัดการดำเนินชีวิตในสังคมดิจิทัล

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Z ปี

• ข้อมูลออนไลน์ คือ ช่องทางหลัก : นิยมใช้ช่องทางโซเชียล เป็นช่องทางหลักในการหาข้อมูล รวมไปถึงการเสริมความรู้จากคอร์สระยะสั้น ออนไลน์อีกด้วย
• พร้อมที่จะแสดงความเห็น และ ลงมือทำ : เป็น Gen ที่ไม่ทำเพียงวิจารณ์ผ่านหน้าจอ แต่พร้อมที่จะลงมือทำจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสังคม
• ผู้สร้างเทรนด์โซเชียล : คอนเทนต์ไวรัล หรือ กระแสต่าง ๆ มักมาจาก Gen Z อีกทั้งยังกระจายคอนเทนต์ได้เร็ว และ เปิดรับสิ่งใหม่ได้มากกว่า Gen Y
• นิยม Content Online : ทั้งการทำคอนเทนต์ผ่านช่องทาง Youtube หรือ สื่อเฉพาะกลุ่มต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ รวมไปถึงการใช้เป็นช่องทางเพื่อความบันเทิงอย่างการรับชม Game Streaming
• Financial Influencer : เพราะ สามารถทำเงินได้จากการมีสปอนเซอร์ หรือ แฟนคลับได้อย่างรวดเร็ว
• ภาพลักษณ์ของแบรนด์ เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้า
• ขับเคลื่อนสินค้ากลุ่มอาหารได้ดี : เพราะ เป็น Gen ที่มักเปิดใจรับสินค้าใหม่ ๆ ทำให้เกิดการรีวิวขึ้น
• ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ เพื่อลงภาพบนโซเชียล : เช่น การแต่งห้องนอนให้สวย คุมโทน มินิมอล

​แม้จะดูคล้ายคลึงกับ Gen Y แต่ Gen Z นี้จะมีความเป็นครีเอเตอร์อยู่สูงกว่า และ สามารถสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ได้มากกว่า ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่แบรนด์จะสร้าง Brand Awareness ได้จาก Gen Z อีกทั้งความสนใจของ Gen Z นี้ยังเป็นโอกาสของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งห้องสไตล์มินิมอลเหมือน Gen Y นั่นเอง​

Gen Alpha (2010 - 2024)

        เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 11 ปีลง เติบโตมากับเทคโนโลยี เรียนรู้ได้อย่างว่องไว และ อาจจะเป็นเจนที่ฉลาดที่สุดเพราะการเติบโตมาบนโลกที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Alpha

• Youtube และ Streaming คือ สิ่งที่อยู่ในชีวิต
• เกิดความวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว : จากผลกระทบของ COVID-19 ทำให้บางคนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจัดการความกังวล
• Food Delivery : สิ่งปกติของ Gen นี้ และ เกิดเทรนด์ตัวเลือกอาหาร – ปริมาณสำหรับเด็ก
• กำเนิด “Alphluence” : การรวมคำของ Alpha และ Influencer ที่สามารถครองพื้นที่โซเชียลได้มากกว่า Gen อื่น ๆ จากการที่สามารถคิดคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว

​เป็นโอกาสของธุรกิจต่าง ๆ  โดยเฉพาะช่อง Youtube ที่ทำเนื้อหาสำหรับเด็ก รวมถึง ร้านอาหารที่ขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มเด็ก และถ้าอาหารเป็นอาหารออร์แกนิคด้วยก็จะยิ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ปกครอง (Gen X, Gen Y) ที่อยากดูแลสุขภาพของลูก

​ จะเห็นได้ว่า ในแต่ละ Gen ก็มีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ประกอบกับการได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละ Gen มีความต้องการ และอุปนิสัยโดยรวมที่แตกต่างกัน จึงเป็นโอกาสของแบรนด์แต่ละประเภทที่จะเข้าไปจับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง แล้วธุรกิจของคุณล่ะ วางกลุ่มเป้าหมายไว้เป็น Gen ไหน?​

​ที่มา : Content Shifu​

​​