เที่ยวฮ่องกงในมุมมองใหม่ รวมทุกการพักผ่อน ท่องเที่ยว เรียนรู้ประสบการณ์ เติมเต็มทุกสีสันในชีวิตอย่างครบครัน
เมื่อพูดถึงฮ่องกงคนไทยหลายคนนึกถึงประเทศที่เราจะไปกินของอร่อยให้เต็มที่ ไปช้อปปิงให้เต็มกระเป๋าเพราะฮ่องกงอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย ฮ่องกงจึงเป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวแสนสะดวกที่คนไทยมักจะคิดถึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับทริปต่างประเทศที่อยู่ใกล้บ้านเรา
หากหลายท่านที่กำลังเคร่งเครียดกับงาน และ อยากปลีกตัวเองในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวชาร์ตแบตพลังงานชีวิต Ultimate Leisure ขอแนะนำการไปเที่ยวฮ่องกงในคอนเซ็ปต์ Fabulous Trip เที่ยวอย่างมีสไตล์ เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสนุก ตอบทุกโจทย์ความต้องการในการท่องเที่ยวและพักผ่อนในที่เดียวค่ะ
Trip Tips : ปัจจุบัน ทางการฮ่องกงได้ยกเลิกมาตรการเข้าเมืองเกี่ยวกับโควิด 19 ออกไปแล้ว ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นกว่าในช่วงก่อนเดือนเมษายนปีนี้เป็นอย่างมาก เพียงเลือกวันเดินทาง ซื้อตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก ก็พร้อมที่จะโบยบินไปฮ่องกงแล้วสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกทันใจไม่ต้องรอ คุณสามารถเข้าไปที่แอปพลิเคชัน Klooks หรือ เว็บไซต์ www.klook.com/th เพื่อสั่งจองซื้อซิมอินเทอร์เน็ตสำหรับฮ่องกง Octopus Card บัตรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเดินทางและใช้แทนเงินสด สามารถใช้ซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ เช่น สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ แพ็กเกจสปา จองโรงแรม ฯลฯ เมื่อเดินทางถึงฮ่องกง สามารถไปรับที่เคาน์เตอร์ได้อย่างแสนสะดวก ไม่ต้องรอคิวซื้อให้ยุ่งยาก
|
FABULOUS : สนุกไปกับการท่องเที่ยวในฮ่องกงอย่างมีสไตล์
Shopping Paradise ฮ่องกงเป็นสรวงสวรรค์ของคนรักการชอปปิงเสมอมา ทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยร้านค้า ทุกย่านมีห้างหรู ตั้งแต่สตรีทแฟชัน แฟชั่น ไปจนถึงไฮแบรนด์ต่าง ๆ มีให้ซื้อหากันอย่างหลากหลาย
K11MUSEA
ห้างที่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟ อยู่ใจกลางย่านจิมซาจุ่ย แม้ว่าจะเปิดตัวตั้งแต่ ค.ศ. 2019 แต่ด้วยสถานการณ์ภายในฮ่องกงในระยะ 3 - 4 ปีมานี้ อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศหลายคนยังไม่ได้เข้ามาทำความรู้จักกันสักเท่าไร
หลังจากฮ่องกงเปิดพรมแดนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว K11MUSEA จึงเป็นที่สนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างมาก มีร้านค้ามากมายตั้งแต่ระดับไฮแบรนด์สุดหรูไปจนถึงสินค้าทั่วไป ร้านอาหารอร่อยที่มีอยู่อย่างครบครัน ซึ่งนอกจากที่แห่งนี้ จะเป็นห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมงานศิลปะ มีพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับการจัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มาเที่ยวชมอีกด้วย
The Landmark
ห้างสุดหรูที่รวบรวมทั้งแบรนด์ร้านอาหารมิชลินสตาร์และแบรนด์นานาชาติกว่า 200 ร้านไว้ในห้างเดียว มี Flagship Store และร้านจากไฮแบรนด์ชื่อดังเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชันอย่าง Louis Vuitton , Diane von Furstenberg , Chanel , Dior , Alexander McQueen , Hermès ไปจนถึงแบรนด์เครื่องประดับอย่าง Chopard , Bvlgari , Tiffany & Co. และ Van Cleef & Arpels ซึ่งแทบจะครบจบทุกแบรนด์สำหรับสาวกไฮแบรนด์ที่ต้องการมาชอปกันอย่างจุใจ
Central Market
หลังจากปิดทำการปรับปรุงสถานที่ครั้งล่าสุดในปี 2017 เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ ในปี 2021 Central Market หรือ ตลาดกลางได้เปิดตัวใหม่อีกครั้งในการเป็นแหล่งชอปปิงร่วมสมัยทีให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาแบบยุคสมัยใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์ Playground for All ที่ต้องการทำให้ทุกคนสามารถรู้สึกมีส่วนร่วมกันได้ และความรู้สึกแบบ Nostalgia ไปกับร้านค้าอนุรักษ์ที่มีมาแต่เดิม รวมทั้งงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในซุ้มขายของและพื้นที่สาธารณะที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็น ฮ่องกงในศตวรรษที่ 20 อีกด้วย
11Skies
กำหนดการ : เปิดตัวในช่วงปี 2023 นี้ ก่อนจะเปิดบริการบางส่วนในปี 2024
หลังจากความสำเร็จของ K11 Musea และ K11 ArtMall กลุ่มบริษัท K11 ในเครือของ New World Development ก็ได้มีโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณติดกับสนามบินนานาชาติฮ่องกงให้เป็นแหล่งรวมธุรกิจ Retail และความบันเทิงแบบ indoor ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง โดยกำหนดเปิดไว้ที่ปลายปี 2023 ถึงต้นปี 2024 โดยจะรวบรวม Retail Shop กว่า 800 เจ้ามารวมไว้ในที่เดียว และมีแหล่งการเรียนรู้และบันเทิงระดับโลก เช่น KidZania , Paddington Play Experience และพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ร่วมมือกับนักนวัตกรรมทางด้านศิลปะดิจิตอลจากเกาหลีใต้
Travel by the Tram การเดินทางในฮ่องกงแบบคลาสสิคที่สุด คือ การโดยสารรถรางซึ่งมีมากว่าร้อยปีแล้วบนเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อชมบรรยากาศในเมืองฮ่องกง แต่สำหรับประสบการณ์ที่จะเพิ่มความประทับใจมากขึ้นไปอีก เราจะไปท่องเที่ยวกับรถรางฮ่องกงแบบพิเศษมากยิ่งขึ้น
Peak Tram และ วิวแบบ 360 องศาจาก Sky Terrace 428
Peak Tram
หลังจากปิดเพื่อปรับปรุงไปกว่า 1 ปี ก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เมื่อกลางปี 2022 โดยมีความทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุด้วย สามารถนั่งรถรางสุดคลาสสิคขึ้นไปยังจุดชมวิวของ Victoria Peak หรือ The Peak ภูเขาที่สูงที่สุดในเกาะฮ่องกง สูงกว่า 1,818 ฟุต โดยเส้นทางของ Peak Tram ในฮ่องกงนี้เป็นรถรางที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดเส้นทางหนึ่งของโลก โดยเมื่อขึ้นไปถึง The Peak แล้ว สามารถท่องเที่ยวต่อยังอาคาร The Peak Tower ซึ่งเป็นอาคารศูนย์การค้ารวมไปถึงการไปชมวิวที่ Sky Terrace 428 จุดชมวิวความสูง 428 เมตรที่ให้ทัศนียภาพของเกาะฮ่องกงแบบ 360 องศา
ราคาแพ็กเกจ Special Combo รวมตั๋วโดยสาร Peak Tram และ ค่าเข้า Sky Terrace 428- ราคาไป - กลับสำหรับผู้ใหญ่ HK$148 (ประมาณ 657 บาท)
- ราคาสำหรับเด็ก (3 - 11ปี) และ ราคาสำหรับผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป) ราคา HK$74 (ประมาณ 329 บาท)
|
Charter Your Party Tram
สำหรับท่านที่ไปเที่ยวกันแบบหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนสนิท การสังสรรค์ในกลุ่มคนที่เรารักบนรถรางชมเมืองรอบฮ่องกงก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเป็นพิเศษโดย HK Tramways โดยการเหมารถรางแบบส่วนตัวนี้ รถรางจะวิ่งวนรอบตั้งแต่สถานี Whitty Street ถึงสถานี Happy Valley ให้ได้ชมบรรยากาศเมือง พร้อมทั้งมีบริการ Catering อาหารว่างแบบฝรั่งเศสและเครื่องดื่มตั้งแต่เริ่มเดินทาง
โปรแกรม Charter Your Party Trams ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ชั่วโมงละ HK$ 1,300 - 3,500 (ประมาณ 5,700 - 15,300 บาท) ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม |
Cruising เรือสำเภาสีแดงที่ลอยหน้าอ่าววิคตอเรีย เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นฮ่องกงมาอย่างช้านาน ทริปเที่ยวฮ่องกงของคุณจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยการไปล่องเรือที่อ่าววิคตอเรีย จิบค็อกเทล ชิมติ่มซำ บนเรือสำเภาสไตล์ฮ่องกงสุดหรู The Aqua Luna
The Aqua Luna
สำหรับท่านที่ต้องการล่องเรือในเวลาช่วงกลางวัน อาจเลือก Dim Sum Cruise หรือ Afternoon Cruise ใช้เวลา 75 นาทีล่องเรือไปชมท่าเรือประมงอาร์เบอร์ดีนและหมู่บ้านประมงลียุนมุน อิ่มอร่อยกับติ่มซำหรือชุดน้ำชาสไตล์ฟิวชันจากร้านอาหารแนวคิดทันสมัยอย่าง Dim Sum Library
แต่ถ้าต้องการล่องเรือชมวิวยามค่ำคืนเพื่อชมสีสันจากแสงไฟของเกาะฮ่องกง แพ็กเกจ Symphony of Light Cruise & Dinner มีให้เลือกทั้งแบบ Sunset (เวลา 17.30 – 20.30 น.) และ Moonlight (เวลา 19.30 – 22.30 น.) โดยจะเป็นการล่องเรือพร้อมซิกเนเจอร์ดินเนอร์สุดหรูจากภัตตาคารอาหารจีนทางเหนือชื่อดังอย่าง Hutong
ค่าใช้จ่ายในการล่องเรือ The Aquatic Luna- แพ็กเกจ Dim Sum Cruise และ Afternoon Tea Cruise ราคา HK$399 (1,750 บาท)
- แพ็กเกจ Symphony of Light Cruise & Dinner ราคา HK$988 - 1098 (4,325 - 4,806 บาท)
|
Cultural District จากโครงการ West Kowloon Cultural District ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงกลาง 2010’s ฮ่องกงได้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลายแห่งเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในย่านเกาลูนตะวันตก อ่าววิคตอเรีย ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมเพื่อความเพลิดเพลินไปกับงานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจและเปิดโลกทัศน์ไปกับการได้รับความรู้ใหม่ ๆ รอบตัว
Hong Kong Palace Museum
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 18.00 น.
พิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา หนึ่งในโปรเจกต์ของการสร้างเขตวัฒนธรรมบริเวณอ่าววิคตอเรียของฮ่องกง ผู้ที่ชื่นชอบในศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุหายากจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังกรุงปักกิ่งกว่า 900 ชิ้น ซึ่งถือเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ที่สุดที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังกรุงปักกิ่งเคยมอบให้พิพิธภัณฑ์อื่นนอกจีนแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการแสดงผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีก 13 ชิ้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติอีกด้วย
- ตั๋วเข้าชมแบบ General Admission Ticket (Gallery 1 - 7) ราคาปกติ HK$50 (ประมาณ 222 บาท) และราคาสำหรับนักเรียนนักศึกษา , เด็กอายุ 7 - 11 ปี และ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป HK$25 (ประมาณ 110 บาท)
- ตั๋วเข้าชมแบบ Special Exhibition Ticket (Gallery 1 - 9) ราคาปกติ HK$120 (ประมาณ 533 บาท) และราคาสำหรับนักเรียนนักศึกษา , เด็กอายุ 7-11 ปี และ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป HK$60 (ประมาณ 267 บาท)
|
FUN แหล่งท่องเที่ยวสุดสนุก
บันเทิงเริงใจกับการเที่ยวเล่นในสวนสนุก ที่ฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งความสนุกของเอเชีย เพราะมีธีมพาร์คและฟันพาร์คขนาดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปใช้เวลาสนุกกันได้อย่างเต็มที่
Hong Kong Disneyland
ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ทุกคนสามารถปลดปล่อยหัวใจกลับไปสู่วัยเยาว์ได้อีกครั้งกับไปกับรูปแบบพาร์คและเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่สามารถใช้เวลาอย่างสนุกสนานไม่รู้เบื่อได้ทั้งวัน โดยท่านที่อยากอยู่ในสวนสนุกกันแบบจัดเต็ม ก็สามารถจองที่พักในโรงแรมภายในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ พร้อมซื้อแพ็กเกจเที่ยวแบบ 2 วัน สนุกกับดินแดนแห่งความฝันกันอย่างเต็มที่
ในปี 2023 ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์มีโปรเจกต์มากมายเพื่อต้อนรับวาระครบรอบ 100 ปีของมิคกี้เมาส์ในปีนี้ โดยจะเปิดโซนใหม่ World of Frozen จากการ์ตูนชื่อดังขวัญใจเด็ก ๆ ทั่วโลก รวมทั้งการสร้างรูปปั้นวอลต์ ดิสนีย์กับมิคกี้เมาส์ในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (ตามแผนการดำเนินงาน World of Frozen จะเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้)
ราคาบัตรเข้าสวนสนุก (ราคาปกติ)บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน ราคาปกติ ผู้ใหญ่ HK$639 เด็ก HK$475 Promotion ของสวนสนุก แพ็กเกจบัตรเข้าสวนสนุก 2 วัน ราคาพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายนนี้ - ราคาบัตรผู้ใหญ่ HK$789 (จากราคาปกติ HK$904)
- ราคาบัตรเด็ก HK$596 (จากราคาปกติ HK$679)
|
FAITH ไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเกาะฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นอีกที่หนึ่งที่สายมูจากเมืองไทยนิยมไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรให้สมหวังในเรื่องต่าง ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความรัก การเรียน สุขภาพ ฯลฯ ซึ่งนอกจากการไหว้พระขอพรแล้ว ยังสามารถท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมไปกับวัดวาอารามเก่าแก่ได้อีกด้วย
วัดโปหลิน
เวลาเปิดทำการ : 10.00 - 17.30 น.
วัดโปหลิน ตั้งอยู่ที่เกาะลันเตา เป็นอีกหนึ่งวัดพุทธที่มีชื่อเสียงอย่างมากของฮ่องกงในเรื่องของความเก่าแก่และความศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนยอดเขามุกเย่ (Muk Yue) ประดิษฐานพระพุทธรูปเทียนถาน พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 34 เมตร ที่ใช้เวลาในการสร้างกว่า 12 ปี และเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
การเดินทางขึ้นเขาไปยังวัดโปหลินนั้น สามารถขึ้นกระเช้า Ngong Ping 360 ชมวิวระหว่างทางกว่า 5.7 กิโลเมตรจากสถานี Tung Chung Cable Car Terminal ไปยังหมู่บ้านนองปิงที่มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว และถ้าต้องการขึ้นไปสักการะถึงองค์พระจะต้องขึ้นบันไดต่อไปอีกถึง 268 ขั้น ว่ากันว่าการไปขอพรพระเทียนถานวัดโปหลินนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ขอพรสิ่งใดก็จะได้สมปรารถนา
วัดซีซ่าน
เวลาเปิดทำการ : 9.00 – 17.30 น.
ที่วัดซีซ่าน ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก (สูงกว่า 76 เมตร) ตั้งอยู่บนยอดเขา หันหน้าออกสู่ทะเล วัดนี้เป็นวัดของเอกชน สร้างโดยเงินบริจาคกว่า HK$1,700 ของมหาเศรษฐีลีกาชิง บนพื้นที่ชานเมืองกว่า 29 ไร่ บรรยากาศสวยงามและเงียบสงบ เนื่องจากจำกัดผู้เข้าเยือนเพียงวันละ 500 ท่านเท่านั้น โดยผู้ที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมจะต้องทำการจองคิวก่อนล่วงหน้า 30 วัน
FEAST : อิ่มอร่อยสไตล์ฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นเสมือนแหล่งสวรรค์ของนักชิม ทุกคนที่ชอบกินของอร่อยล้วนเดินทางมาที่นี่ วัฒนธรรมทางด้านอาหารของฮ่องกงนั้นขึ้นชื่อทั้งในเรื่องของอาหารจีนกวางตุ้งซึ่งเป็นรูปแบบอาหารจีนที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และอาหารที่ผ่านการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมอาหารจีนกับตะวันตก ที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
Dim Sum & Wonton อาหารที่สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นฮ่องกงได้ดีที่สุด ไม่พ้นติ่มซำและเกี๊ยวแบบ Wonton (เกี๊ยวจีนสไตล์ดั้งเดิมที่ห่อด้วยแผ่นแป้งสีเหลือง ต่างจาก Dumpling ที่ห่อด้วยแผ่นแป้งสีขาวแบบเกี๊ยวซ่า) เรียกได้ว่า หากมาเที่ยวฮ่องกง ต้องได้กินติ่มซำและบะหมี่เกี๊ยวสไตล์ฮ่องกงแท้ ๆ จึงจะเรียกได้ว่ามาถึงฮ่องกงแล้วจริง ๆ
Dim Sum Library
ราคา : ช่วงราคา HK$400 ขึ้นไป (ประมาณ 1770 บาท+)
หนึ่งในสิบรายชื่อของ Best Dim Sum in Hong Kong 2023 จากเว็บไซต์ Timeout.com ที่โดดเด่นจากการนำเสนอติ่มซำที่ไม่เหมือนใคร เปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานติ่มซำที่นำเสนอวัตถุดิบแปลกใหม่กับกับแนวทางการทำอาหารตะวันตกเข้ามาผสมผสานกับเมนูติ่มซำแบบต้นตำรับให้เกิดการปฏิรูปแนวคิดเกี่ยวกับติ่มซำได้อย่างสนุกสนาน เช่น หม่าล่าเสี่ยวหลงเปา ฮะเก๋าเห็ดทรัฟเฟิลดำ ฯลฯ ซึ่งควรค่าแก่การไปลองลิ้มรส เปิดประสบการณ์ทางอาหารใหม่ ๆ แบบนี้ซักครั้ง
Ho Hung Kee
ราคา : ช่วงราคา HK$ 51 - 100 (ประมาณ 225 - 442 บาท)
ร้านบะหมี่เกี๊ยวฮ่องกงเจ้าเก่าที่การันตีความอร่อยและมาตรฐานของการทำอาหารด้วย 1 ดาวมิชลินสตาร์ เปิดร้านที่หว่านไจ๋มานานตั้งแต่ปี 1940 บ่งบอกถึงการเป็นต้นตำรับบะหมี่เกี๊ยวแบบกวางตุ้งของชาวฮ่องกงแท้ ๆ อย่างบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หรืออาหารจานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจานเส้น หรือโจ๊ก ก็ขึ้นชื่อไม่น้อย
Michelin Star in Hong Kong ฮ่องกงเป็นดินแดนที่มีร้านอาหารที่หลายหลาย อีกทั้งยังแตะระดับมิชลินสตาร์อยู่หลายแห่ง ในปี 2023 ที่ฮ่องกงมีร้านอาหารที่เป็นสุดยอดร้านอาหารที่ได้มิชลินสตาร์ถึง 78 ร้าน (ไม่รวมมาเก๊าอีก 17 ร้าน) โดย Ultimate Leisure คัดเลือกมา 3 ร้านเด่น คือ
Ta Vie : 3 MICHELIN Stars
เวลาให้บริการ : ให้บริการวันจันทร์ - วันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์
วันจันทร์ เวลา 19.00 – 21.30 น.
วันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 12.30 – 13.30 น. และ 19.00 - 21.30 น.
ราคา : ช่วงราคา HK$801 ขึ้นไป (ประมาณ 3,546 บาท+)
Ta Vie ได้รับการโปรโมทในฐานะร้าน 3 มิชลินสตาร์แห่งใหม่ในปี 2023 ภายใต้คำโปรยว่า เป็นครัวที่สุดวิเศษและคุ้มค่าแก่การค้นหา(Exceptional cuisine , worth a special journey)
ร้านเสิร์ฟอาหารแนว Innovation cuisine ภายใต้คอนเซ็ปต์ทางด้านอาหารที่ว่า ‘Pure , Simple and Seasonal’ นำเสนอวัตถุดิบในแต่ละจานออกมาอย่างโดดเด่นโดยมีรสชาติที่ดั้งเดิมจากการปรุงที่เรียบง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมนูปลาอาคามัตสึย่างถ่านกับแครกเกอร์ข้าวและซอสสาหร่ายอาโอโนริ ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาจากญี่ปุ่นโดยตรง
Rùn : 2 MICHELIN Stars
เวลาให้บริการ : ทุกวันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลา 12.00 – 14.30 น. และ 18.00 – 24.00 น.
ราคา : ช่วงราคา HK$401-800 (ประมาณ 1,775 - 3,542 บาท)
ได้รับการโปรโมทในฐานะร้าน 2 มิชลินสตาร์แห่งใหม่ในปี 2023 Rùn ตั้งอยู่ในโรงแรมเซนต์รีจิสต์ ฮ่องกง เป็นร้านอาหารจีนกวางตุ้ง แต่ละเมนูโดดเด่นจากการใช้เทคนิคการทำอาหารจีนโบราณชั้นสูงผสมผสานกับการนำเสนอที่เป็นสมัยใหม่ Char Siu หรือหมูแดงมีความโดดเด่น ถือเป็น Signature Dish และจานผัดก็ได้รับการยกย่องในความคิดสร้างสรรค์และเทคนิคการทำครัว เช่น ปูผัดกุ้งแห้ง ขิง ต้นหอม และ ฟองเต้าหู้
Dessert ของหวานฮ่องกงเป็นอีกสีสันทางรสชาติที่ต้องมาสัมผัสกันให้ได้ ทั้งขนมหวานแบบจีนหรือขนมหวานที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาให้ทันสมัยขึ้น เป็นความหวานอร่อยที่สร้างความสุขให้กับทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือ ผู้ใหญ่กก็ตาม
Kai Kai
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/kaikai.dessert.hongkong/
Map : Google Map https://goo.gl/maps/rseWRH2WdEqUX57XA
ราคา : ช่วงราคา HK$50 (ประมาณ 221 บาท)
ร้านขนมหวานแบบสตรีทฟู้ดที่ได้ 1 ดาวมิชลินสตาร์มาครอง มีชื่อเสียงมากกับเมนู Chinese Sweet Soup เช่น บัวลอยงาดำ มะละกอตุ๋นเห็ดหูหนู ซุปลูกบัว ซุปงาดำ ฯลฯ เรียกได้ว่าทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
Dang Wen Li by Dominique Ansel
ราคา : ช่วงราคา HK$51-100 (ประมาณ 227-445 บาท)
คาเฟ่ขนมหวานที่ตั้งชื่อเป็นภาษาจีนกวางตุ้งตามชื่อเชฟโดมินิคผู้เป็นเจ้าของร้าน เปิดในปี 2022 เชฟโดมินิคได้นำทักษะและสไตล์การทำขนมหวานแบบนิวยอร์คมาเสนอคาเฟ่ขนมหวานที่ให้กลิ่นอายความเป็นฮ่องกงสมัยใหม่ โดยในช่วงเข้าฤดูร้อนฮ่องกงนี้ ที่ Dang Wen Li นำเสนอเมนูคลายร้อน What-A-Melon Soft Serve (ราคา HK$68) และยังมีอีกหลายเมนูที่น่าสนใจอีกมากให้เลือก
FEEL : พักผ่อน - ผ่อนคลาย สบายไปกับสปาหรูระดับท็อป
เที่ยวกันจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าลองหาคอร์สสปาหรูระดับท็อปของฮ่องกงเพื่อให้การมาเที่ยวครั้งนี้ เป็นการพักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง
Bliss Spa / W Hong Kong
Bliss Spa ตั้งอยู่บนชั้นที่ 72 ของโรงแรม W ฮ่องกง ยืนอยู่ในแถวหน้าระดับเดียวกับ Wellness ระดับโลก จากคอร์สทรีตเมนต์ที่หลากหลายและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สวยงามหรูหรา แพ็กเกจที่น่าสนใจเช่น My Bliss My Way (ราคา HK$3,280) สำหรับ 120 นาทีในคอร์สทรีตเมนต์ต่าง ๆ จาก Blss Spa เช่น การนวดอโรมา การทรีตเมนต์ใบหน้าต่าง ๆ คอร์ส Detox ฯลฯ รวมกับการใช้บริการจากุซซี่ และ มื้ออาหาร
ราคา :- ทรีตเมนต์ทั่วไปเริ่มต้นที่ HK$1,450 ขึ้นไป (ประมาณ 6,407 บาท)
- ซิกเนเจอร์ทรีตเมนต์เริ่มต้นที่ HK$4,300 (ประมาณ 19,000 บาท)
|
The Oriental Spa / The Landmark Mandarin Oriental
ที่โรงแรม Landmark Mandarin Oriental ได้จัดแบ่งพื้นที่กว่า 25,000 ตารางฟุต 2 ชั้นไว้สำหรับ The Oriental Spa โดยเฉพาะเพื่อให้เป็นพื้นที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง มีการแบ่งการบริการสำหรับทุกความต้องการของผู้มาใช้บริการ มีทั้งบริการและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ และสั่งทำเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า มีทรีตเมนต์เก๋ ๆ อย่าง Digital Wellness Escape (ราคาเริ่มต้นที่ HK$2,180) สำหรับผู้ที่ต้องการทำ Digital Detox ด้วยการนวดเฉพาะจุด ศรีษะ ตา บ่า คอ ไหล่ มือ และเท้าเพื่อลดความเครียด ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
FESTIVE : เทศกาลและอีเวนต์ในเดือนมิถุนายน
ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ฮ่องกงจะจัดเทศกาล Hong Kong International Dragon Boat Races หรือเทศกาลแข่งเรือมังกรนานาชาติ แรกเริ่มเดิมทีเป็นประเพณีแข่งเรือแบบโบราณของท้องถิ่น ซึ่งได้เติบโตขึ้นมากลายเป็นการแข่งเรือนานาชาติ มีนักแข่งพายเรือจากทั้งในและนอกประเทศเข้าร่วมเป็นพัน ๆ คน เรียกได้ว่าเป็นงานรื่นเริงระดับยักษ์งานหนึ่งของฮ่องกงเลยทีเดียว
โดยในปี 2023 นี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่หยุดไป 4 ปีจากสถานการณ์ภายในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 24 - 25 มิถุนายนนี้ เส้นชัยอยู่ที่ทางเดินฝั่งตะวันออกของย่านจิมซาจุ่ย
และนี่คือสีสันการท่องเที่ยวใน Fabulous Trip ที่สนุก ใช้เวลาสั้น ๆ กับไลฟ์สไตล์สุดชิคแบบฮ่องกงที่ Ultmate Leisure เลือกสรรมานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านเป็นไกด์ไลน์สำหรับการจัดทริปไปเที่ยวให้สุดว้าวในแบบของคุณเองช่วงเดือนมิถุนายนนี้