สกุลเงินดิจิทัลกำลังเป็นที่จับตา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปี 2020 ที่ผ่านมาเป็นปีที่เงินสกุลดิจิทัลได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก สังเกตได้จากราคาของสินทรัพย์ ในหลายๆประเภทโดยเฉพาะสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin ราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ จากการที่นักลงทุนทั้งรายบุคคลและสถาบันให้ความสนใจและเชื่อว่าราคาจะสามารถปรับขึ้นได้อีกในอนาคต อีกทั้งการแพร่กระจายของ COVID-19 ตลอดในช่วงปีกว่าที่ผ่านมา ทำให้การพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน ตอบสนองความต้องการผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือแม้แต่กระทั่งการผลักดันสังคมสู่ Cashless Society เพื่อลดการสัมผัส สร้างระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ทำให้ผู้บริโภคต่างยอมรับการใช้จ่ายผ่านการโอนเงินมากขึ้น พร้อมทั้งหันมาสนใจการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทำไมถึงยังไม่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
การใช้งานจริงเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือการใช้ชำระค่าสินค้า ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการยอมรับจากธนาคารกลางทั่วโลก แม้จะมีความเชื่อของราคา Bitcoin ที่จะปรับสูงขึ้นแล้วก็ตาม โดยมีสาเหตุที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1. ความผันผวนทางด้านราคาที่สูงมาก ทำให้อาจทำให้เกิดความเสียหายได้หากชำระค่าสินค้าล่าช้า และ
2. มีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่สามารถตรวจสอบรายการเชื่อมโยงกับตัวบุคคลได้
เทคโนโลยีที่ทั่วโลกจับตามอง เบื้องหลังสำคัญของสกุลเงินดิจิทัล
แม้ว่าในปัจจุบันสกุลเงินดิจิทัลจะยังไม่ได้รับการยอมรับจากธนาคารกลางทั่วโลก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นเบื้องหลังอันสำคัญซึ่งถูกนานาประเทศจับตามอง นั่นคือ
เทคโนโลยี Block Chain ซึ่งการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นจะทำให้ระบบการเงินการธนาคารของแต่ละประเทศมีต้นทุนที่ลดลง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน รวมไปถึงสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของการเคลื่อนย้ายเงินผ่านการกำกับดูแลของธนาคารกลางของประเทศได้
จีน ผู้นำบัลลังก์เทคโนโลยีเงินดิจิทัล
จีนเป็นหนึ่งในผู้นำโลกที่มีการนำเทคโนโลยี Block chain มาใช้ในเงินดิจิทัลอย่าง
“หยวนดิจิทัล” ซึ่งมีข้อแตกต่างจาก Bitcoin คือ มีการผูกสกุลเงินหยวนที่แน่นอน ทำให้การเกิดขึ้นของ 1 สกุลเงินหยวนดิจิทัลจะถูกสนับสนุนด้วย 1 เงินหยวนที่มีการฝากไว้ที่ธนาคารกลาง ดังนั้นจึงมีความน่าเชื่อถือสูงและความผันผวนของราคาต่ำ
นอกจากนี้ประเทศจีนเองยังได้มุ่งพัฒนาการใช้หยวนดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงได้มีการทดลองใช้ภายในประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทำให้การพัฒนาหยวนดิจิทัลของจีนนี้กำลังเป็นที่จับตามองจากหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงคู่แข่งตลอดกาลอย่างสหรัฐฯ อีกด้วย เพราะ หากประเทศจีนผลักดันหยวนดิจิทัลได้สำเร็จจะกลายเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำสกุลเงินดิจิทัล เป็นการสร้างผลกระทบอย่างก้าวกระโดด และ กระจายอิทธิพลสู่ระดับโลก
โอกาสการลงทุน ที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจจีน
จากสาเหตุข้างต้นอาจกล่าวได้ว่าการเลือกลงทุนประเทศจีน ที่มีความพร้อมในเรื่องของศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี จะส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้บนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน อีกทั้งประเทศจีนยังมีการจัดการการแพร่กระจายของ COVID-19 ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ธุรกิจหลายภาคส่วนรวมไปถึงอุตสาหกรรม และ การบริโภคภายในประเทศฟื้นกลับมาได้อย่างเร็วเร็ว ดังนั้นการเลือกลงทุนในประเทศจีนจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และ มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนอย่างในปัจจุบัน
K-Expert กฤษณ์ ประพฤทธิ์วงศ์ AFPT™
ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า
กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน K-CHINA-A(D) เน้นลงทุนในหุ้นจีนทุกชนิด (All china) ที่เติบโต คุณภาพสูง และ อยู่ในกลุ่มธุรกิจใหม่ เช่น หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และ กลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพ
|
ซื้อกองทุนง่าย ๆ ผ่าน K PLUS
|
|
หรืออ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่หลักทรัพย์กสิกรไทย คลิก |
ความน่าสนใจในการลงทุนกองทุนหุ้นประเทศจีน
- สร้างโอกาสการลงทุนเพื่อการเติบโตผ่านบริษัทที่มีเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศจีน
- ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมในการลงทุน
- โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจประเทศจีนที่พึ่งพิงการบริโภคผ่านประชากรที่มีจำนวนมากทำให้ประเทศจีนสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
- มีสภาพคล่องสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ
เหมาะกับใคร? - ผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจจีน และต้องการรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นจีน
- ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
- ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะยาวตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป
|