Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​​        ผ่านมาแล้ว 2 ปีกว่ากับ COVID-19 หลายสายพันธุ์ พฤติกรรมพวกเราถูกบังคับให้มีการปรับเปลี่ยนและคุ้นชินกับภาวะโรคระบาด เช่น การ Work From Home การซื้อของออนไลน์ การสวมหน้ากากอนามัยและพกแอลกอฮอล์เมื่อออกจากบ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวเร่งให้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทไปโดยอัตโนมัติ และเมื่อก้าวเข้าสู่ “ปีเสือ 2022” ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมาข้างนั้นแล้วนั้น ด้านการลงทุนจะมีกระแสอะไรให้เราจับตาเพื่อต้อนรับการเดินทางครั้งใหม่ในปีนี้กันบ้าง ​​



เงินเฟ้อสหรัฐฯ ลากยาวกว่​าที่คิด

        เมื่อเงินเฟ้อสหรัฐฯอยู่ระดับสูงและลากยาวกว่าที่คิด โดยเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายน 2021 ยังคงอยู่ระดับสูงที่ 6.8% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นระดับเงินเฟ้อสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 และ สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ทางการวางไว้ที่ 2% ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น หรือกล่าวคือ จะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วกว่ากำหนด เพื่อสกัดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจอาจลดความร้อนแรงลงในระยะถัดไป และ จะไม่ส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นมากนัก


ลดมาตรการกระตุ้น เมื่อเ​ศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะปกติ

        ฉากจบของ COVID-19 นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้าจะเติบโตในอัตราชะลอตัวลง เพราะผู้คนหันมาบริโภคสินค้าหรือบริการจนกลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มกำลังซื้อเริ่มทยอยหมดไป ซึ่งในประเทศไทยมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ก็อาจต้องยุติลง ไม่ว่าจะเป็น โครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ และ เราเที่ยวด้วยกัน ทำให้เศรษฐกิจมาถึงจุดที่จะต้องพบกับความท้าท้ายมากขึ้นและส่งผลต่อการเลือกลงทุนในปี 2022



เศรษฐกิจโลกถูกขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและเทคโนโลยี

        ในช่วงเวลานี้กระแสดิจิทัลต่าง ๆ กำลังมาแรงและเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก ทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี ตลาดที่เปิดซื้อขาย 24 ชั่วโมง ราคาปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและผันผวน ดึงดูดให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้าไปเปิดบัญชีจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนหลาย ๆ ท่านอาจจะมองว่าการลงทุนในคริปโตเคอเรนซีไม่น่าเชื่อถือ แต่หลังจากนี้มุมมองต่อการลงทุนนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไป จากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ บริษัทเริ่มเข้ามามีส่วนร่วม อาทิ มาสเตอร์การ์ด Tesla เดอะมอลล์
        นอกจากนี้กระแสดิจิทัลยังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายธุรกิจ สานต่อเป็นเทรนด์ใหม่ ๆ แม้ว่า COVID-19 จะจบไปแล้วก็ตาม ตัวอย่างเช่น กระแส Metaverse หรือ โลกเสมือนที่ “มนุษย์” เข้าไปอยู่ใน “ชุมชนออนไลน์” ผ่านตัวตนแบบดิจิทัลด้วยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สุดล้ำ อย่าง VR Headset หรือกล้องสวมใส่บนศรีษะคล้ายกับแว่นตา พาผู้สวมใส่เข้าสู่โลกเสมือนจริง ซึ่งปัจจุบัน Facebook ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มุ่งสู่อาณาจักร Metaverse หวังขยายธุรกิจในระยะยาวอย่างเต็มตัว ซึ่งจะเปลี่ยนโลกทั้งในแง่ของการปฏิสัมพันธ์ การทำงาน ความบันเทิง และ การจับจ่ายใช้สอย เป็นต้น


ธุรกิจหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอ​ย่างยั่งยืน

        อีกกระแสที่สำคัญ เมื่อผู้นำหลาย ๆ ประเทศเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงการรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อย่างล่าสุดเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2021 ที่ผู้นำถึง 177 ประเทศ มาประชุม COP26 (การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) เพื่อหารือเรื่องการลดโลกร้อน จากการที่ทั่วโลกมีการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น โดยการประชุมนี้มีเป้าหมายให้ปี 2050 มีก๊าซคาร์บอนเหลือ 0 ให้ได้
         ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับสังคม สิ่งแวดล้อมโดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน คือการที่ผู้นำรถยนต์ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และ ญี่ปุ่นต่างก็มาทุ่มเทในการคิดค้น และ ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มากขึ้นโดยมีการสนับสนุนจากภาครัฐ



        จะเห็นได้ว่าเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไปหลัง COVID-19 ทำให้เกิดนวัตกรรม และ การขับเคลื่อนที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้นักลงทุนต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะด้านการลงทุน ซึ่งสามารถทำได้โดยการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ให้เหมาะกับความเสี่ยงของผู้ลงทุน และ เลือกลงทุนในกิจการที่ได้ประโยชน์จากกระแสการลงทุนในอนาคต เช่น กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนระยะยาวได้มากขึ้น

K-Expert วันวิสาข์ อรุมชูตี AFPT™
ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า

กองทุนแนะนำ
กองทุนเปิดเค แพลน 2
(K-PLAN2)
กองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และกระจายลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30% ของพอร์ตลงทุน

​อ่านรายละเอียดกองทุน
​ซื้อกองทุนง่าย ๆ ผ่าน KPLUS
​K-PLAN2

​​

ทำไมต้องเค แพลน 2
    • ​​ความท้าทายของการลงทุนในปี 2022 ท่ามกลางแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น สร้างความท้าทายต่อการเลือกลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง กองทุนนี้มีการกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์และมีผู้เชี่ยวชาญช่วยปรับพอร์ตตามสภาวะตลาด

เหมาะสำหรับใคร
    • ผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากหรือตราสารหนี้ แต่ก็ไม่อยากลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงอย่างเดียว
    • ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
    • แนะนำควรถือครองกองทุนตั้งแต่ 3 - 5 ปี เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และ ลดโอกาสขาดทุนในระยะสั้น ๆ
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่เต็มจำนวนของเงินลงทุนในต่างประเทศ


กลับ