ในปี 2564 สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aging Society) คือ การมีผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี จำนวนเท่ากับ หรือ สูงกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจากสถิติ พบว่า แหล่งรายได้หลังจากการเกษียณของคนไทยส่วนใหญ่มาจากลูกหลาน 53.7% เบี้ยยังชีพภาครัฐ 32.1% และ จากเงินออมส่วนตัวเพียง 3.8% (อ้างอิง คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2559) สิ่งที่เป็นกังวล และ น่าคิดสำหรับเราทุกคน คือ เราได้เตรียมเงินเอาไว้ใช้หลังเกษียณอย่างเพียงพอแล้วหรือยัง เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงบั้นปลายของชีวิต การวางแผนทางการเงินเป็นการวางแผนการออมเพื่อเก็บเงินไว้ใช้เมื่อเราเป็นผู้สูงอายุ หากวันหนึ่งเรากลายเป็นคนแก่ที่ไม่มีงานทำ สุขภาพเจ็บป่วยตามกาลเวลา จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน อีกทั้งส่งต่อเป็นมรดกให้พวกเขาได้อีกด้วย พูดง่าย ๆ เมื่อเราไม่อยู่บนโลกนี้ ลูกหลานยังคงระลึกถึงทำบุญให้กับเราตามโอกาส ไม่จุดธูปต่อว่า ว่าเราไม่จัดการอะไรไว้ให้เลย
นักลงทุนมีความคุ้นเคยกับการวางแผนทางการเงินด้วยวิธีจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยคาดหวังผลตอบแทนกี่เปอร์เซ็นต์ และ ปรับตามความเสี่ยงของแต่ละท่าน แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เงินลงทุนส่วนนั้นมีมูลค่าเพียงตามความจริง แต่“ประกันชีวิต” เป็นเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่งทำให้เป้าหมายทางการงินสำเร็จได้ โดยที่เบี้ยประกันที่เราจ่าย จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ “ค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองชีวิต” กับส่วนที่สอง คือ “เงินออมหรือเงินลงทุน” ผู้ลงทุนประกันชีวิตแบบดั้งเดิมจะได้รับความคุ้มครองชีวิต และ ได้รับผลประโยชน์คืนกลับชัดเจนตามสัญญา แต่พัฒนาการประกันชีวิตไม่หยุดที่ประกันแบบดั้งเดิมเท่านั้น ประกันชีวิตที่ควบการลงทุน หรือ Unit linked ผู้ลงทุนจะได้รับความคุ้มครองชีวิต และ สามารถออกแบบการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และ ความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันนี้จึงมีประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นลูกผสม จาก 2 สายพันธุ์ ทั้งแบบดั้งเดิม และ การลงทุนแบบ Unit link เรียกว่า Universal life (ขอเรียกสั้นๆว่า UL) ซึ่งเป็นประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Investment-Linked)
| ประกันชีวิตแบบดั้งเดิม
| Unit Link
| Universal Life
|
ความคุ้มครองชีวิต
| ได้รับเงินทุนประกันตามที่ระบุในกรมธรรม์
| ได้รับเงินทุนประกันตามที่ระบุในกรมธรรม์ ไม่ว่าผลตอบแทนในส่วนเงินการลงทุนจะเป็นเช่นไร
| ได้รับเงินทุนประกันตามที่ระบุในกรมธรรม์
|
นโยบายการลงทุน
| ผู้ลงทุนไม่สามารถเลือกแผนใดได้ บริษัทประกันจะเป็นผู้บริหารพอร์ตการลงทุน เน้นลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ
| ผู้ลงทุนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกลงทุนตามความเสี่ยง และ ผลตอบแทนที่คาดหวัง สามารถสับเปลี่ยนการลงทุนได้ ภายใต้กองทุนรวมที่บริษัทประกันคัดเลือกมาแล้ว ผู้ลงทุนต้องมีความเข้าใจ และ มีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุน
| บริษัทประกันจะเป็นผู้บริหารการลงทุน สินทรัพย์ที่ลงทุนหลากหลาย มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น โดยมีผู้จัดการกองทุนของบริษัทประกันเป็นผู้ดูแลและติดตามสถานการณ์ลงทุนให้
|
ผลตอบแทนและความเสี่ยง
| ได้รับผลตอบแทนคงที่ ตลอดระยะเวลาเอาประกัน บริษัทประกันรับความเสี่ยงทั้งหมด
| ในส่วนเงินลงทุนของ Unit Link ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับราคาตลาดของหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือก ซึ่งอาจจะกำไรหรือขาดทุนก็ได้ เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนพึงตัดสินใจ
| มีการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ ผู้เลือกลงทุน UL ทำให้ไม่มีความเสี่ยงที่จะขาดทุน แม้ว่าพอร์ตบริษัทประกันจะบริหารขาดทุนก็ตาม ความเสี่ยงนั้นบริษัทประกันรับความเสี่ยงเองทั้งหมด
|
ความยืดหยุ่น
| ผู้ลงทุนไม่สามารถเลือกได้เลย บริษัทประกันเป็นผู้กำหนดแผน ผลตอบแทน และ ความคุ้มครองให้กับผู้เอาประกัน
| ผู้ลงทุนสามารถออกแบบพอร์ตการลงทุนเองได้ และมีเวลาติดตามสถานการณ์ของพอร์ต หากชำระเบี้ยรายงวด สามารถปรับเพิ่ม/ลด ทุนประกัน ถอนเงิน หยุกพักชำระเบี้ยตามความเหมาะสมเองได้ แต่ถ้าเป็นแบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว จะไม่สามารถ ปรับลดเบี้ยประกันได้
| ผู้ลงทุน Universal Life มีวิธีชำระเบี้ย คล้ายแบบยูนิตลิงค์ แต่ไม่สามารถออกแบบพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเอง ผู้ลงทุนให้ความเชื่อมั่นในการบริหารพอร์ตการลงทุนของบริษัทประกัน
|
ผลประโยชน์ด้านภาษี
| สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ของสรรพากร
| ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะเบี้ยส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการทำประกันชีวิตเท่านั้น
| เบี้ยที่ชำระทั้งหมดสามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามเกณฑ์ของสรรพากร
|
Universal Life เหมาะกับใคร?
- ถ้าเป็นแบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายทำประกันเพื่อเน้นการออม ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูง ๆ และ ไม่สามารถบริหารการลงทุนเองได้เหมือนอย่างแบบยูนิตลิงค์ แต่ยังต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันแบบดั้งเดิม
- ถ้าเป็นแบบจ่ายเบี้ยรายงวด เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตสูง และ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันแบบดั้งเดิม
การออมเงินผ่านประกันแบบ Universal Life สามารถนำไปใช้วางแผนทางการเงินให้เหมาะในทุกช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เช่น คุณพ่อคุณแม่วางแผนคุ้มครองรายได้ในกรณีเสียชีวิต วางแผนการศึกษาบุตร วางแผนเรื่องสุขภาพ วางแผนเกษียณเพื่อรักษาระดับรายได้ให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตลอดชีวิตหลังเกษียณ รวมไปถึงวางแผนจัดการถ่ายโอนมรดกได้อีกด้วย แผนทางการเงินต่าง ๆ เหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนผ่านประกันชีวิต เพื่อนำท่านไปถึงเป้าหมายการลงทุนได้อย่างปลอดภัย การจัดการความไม่แน่นอนจะช่วยลดความเสี่ยง และ ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างน้อยควรทบทวนแผนการเงินปีละ 1 ครั้ง การใช้ Universal Life มาใช้เป็นตัวเลือกเพื่อตอบโจทย์แผนทางการเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำในแง่มีการันตีผลตอบแทนโดยบริษัทประกัน แต่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงหากบริษัทประกันบริหารล้มละลาย ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่รับประกันไว้เช่นกัน ผู้ออมควรพิจารณาบริษัทประกันที่มีความมั่นคง และ น่าเชื่อถือ
สำหรับท่านที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต และ สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนได้ในระดับต่ำถึงปานกลาง ประกันชีวิตแบบ Universal life ถือเป็นประกันที่น่าสนใจ เพราะนำจุดเด่นของ 2 สายพันธุ์เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งได้รับการันตีผลตอบแทน โดยมีความเสี่ยงต่ำ หากผู้ลงทุนไม่สามารถติดตามสภาวะการลงทุนได้ด้วยตัวเอง การนำประกันแบบ Universal Life ในการวางแผนทางการเงินเป็นตัวเลือกจึงมีความเหมาะสม หากต้องการผลตอบแทนสูงกว่าประกันแบบดั้งเดิมไม่พร้อมที่จะเสี่ยงสูง สุดท้ายนี้หากเราต้องการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดทุกช่วงเวลาของชีวิตเราควรบริหารการใช้เงินของตัวเอง และ ครอบครัวโดยไม่ประมาท เพื่อเตรียมความพร้อมในวันนี้เพื่อวันข้างหน้าต่อไป