เข้าสู่ปี 2024 อาจมีหลายท่านมองหาร้านอาหารอร่อยเพื่อเลี้ยงฉลองต้อนรับสิ่งใหม่เข้ามาในชีวิต แน่นอนว่าหลายท่านก็มองหา ‘ร้านใหม่ ๆ’ ที่จะมาเพิ่มประสบการณ์ความอร่อยด้วยเช่นกัน ไม่นานมานี้ Michelin Guide Thailand ประจำปี 2024 ได้ประกาศรายชื่อร้านอาหารแนะนำออกมา และในปีนี้ ก็ได้มีร้านอาหารชั้นเลิศหน้าใหม่เข้ามาติดดาวเกียรติยศแห่งความอร่อยระดับโลกนี้หลายร้าน The Explorer จึงอยากชวนท่านไปรู้จักกับ 5 ร้านมิชลินสตาร์น้องใหม่ที่จะมาสร้างประสบการณ์ของนักชิมทุกท่านไปด้วยกัน
*เครดิตภาพจาก Baan Tepa Culinary Space
Baan Tepa
Address : 561 ถนน รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Open : วันพุธ - วันอาทิตย์ 17.00 – 23.00 น. | Tel : 098-6969074
บ้านเทพา ร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิงที่เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วจาก 1 ดาวมิชลินในปีที่ผ่านมา เป็น 2 ดาวมิชลินในปีนี้ อย่างเต็มภาคภูมิ และ เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ เชฟเจ้าของร้านยังได้รับรางวัล Michelin Young Chef Award ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษของปีนี้อีกด้วย ซึ่งจะมอบให้เฉพาะกับเชฟรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถที่โดดเด่น สมศักดิ์ศรีของการเป็นเชฟคนแรกที่ชนะการแข่งขันรายการ Top Chef ประเทศไทย
Baan Tepa Culinary Space ตั้งอยู่ในบ้านหลังงามท่ามกลางสวนสวยซึ่งเป็นมรดกตกทอดของครอบครัวเทพาคำ ที่ดัดแปลงพื้นที่ส่วนหนึ่งมาเป็นร้านอาหาร นำเสนออาหารไทยร่วมสมัย เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้ความสำคัญกับหลักการ Farm to Table การเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลจากฟาร์ม เกษตรกร และสวนที่ทางร้านปลูกเองตามแนวคิดอาหารยั่งยืน รวมทั้งยังสนับสนุนและเน้นความสำคัญของวัตถุดิบระดับพรีเมียมภายในประเทศ ให้เป็นที่ยอมรับในวงการอาหารชั้นสูง
เมนูอาหารหลายอย่างของบ้านเทพา ใช้วัตถุดิบภายในประเทศไทย นำมารังสรรค์เป็นเมนูที่น่าประทับใจ ทั้งในด้านรสชาติและรูปลักษณ์ที่มีความแปลกใหม่ เช่น มูสตับไก่ ซิกเนเจอร์ของร้าน ราดด้วยเจลแจ่ว รับประทานคู่กับขนมปังซาวโดว์ข้าวเหนียวดำ ข้าวหมก หรือ บิรยานี เมนูอาหารไทย-มุสลิมภาคใต้ ข้าวหมกหอมสมุนไพรหลากหลายชนิด รับประทานคู่กับเนื้อวากิวริบอาย เมนูด๊องแด๊งหมึกดำ ซึ่งเป็นการนำเส้นขนมจีนแบบอุดรธานีมาทานคู่กับผัดหมึกดำแบบทางใต้ หรือจะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจอย่าง Umeshu Sour สูตรเฉพาะของบ้านเทพาที่ใช้ผลบ๊วยสดออร์แกนิคจากดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ที่จะมาสร้างประสบการณ์ทางอาหารไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจให้เหล่านักชิม
The Baan Tepa Dining Experience- 6 Courses ราคา 4,500 บาท ต่อท่าน
- 9 Courses ราคา 5,500 บาท ต่อท่าน
*ราคารวม Vat 7% และ Service Charge 10%
|
*เครดิตภาพจาก Gaa
Gaa
Address : 46 ซ. สุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
Open :
วันจันทร์ และ วัน พฤหัสบดี เวลา 17.30 – 00.00
วันพุธ และ วัน ศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น.
วันเสาร์ 12.00 – 15.00 และ 17.30 – 00.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 13.00 และ 17.30 – 21.00 น.
Gaa ร้านอาหารอินเดียร่วมสมัย 1 ใน 2 ร้านอาหารอินเดียจากทั่วโลกที่ได้ครอบครอง 2 ดาวมิชลิน การันตีความเหนือชั้นและน่าดึงดูดใจที่เชฟการิมา อโรรา เชฟหลักของร้านได้สร้างสรรค์อาหารอินเดียไฟน์ไดน์นิงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดย Gaa ได้ดาวดวงแรกจากมิชลินมาตั้งแต่ และรางวัล Asia’s Best Female Chef มาในปี 2019 ทำให้การได้รับ 2 ดาวมิชลินในปี 2024 นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมายสำหรับร้านอาหารที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพเช่นนี้
จุดโดดเด่นของทางร้าน คือ การนำเสนออาหารอินเดียที่มาจากการผสมผสานศาสตร์การทำอาหารอินเดียดั้งเดิมให้เข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบสมัยใหม่ ใช้ทักษะและความประณีตในการปรุงและดีไซน์องค์ประกอบ เลือกใช้เครื่องเทศที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน ส่งผลให้อาหารในร้านมีรสชาติและรสสัมผัสที่แปลกใหม่ เข้ากับยุคสมัยมายิ่งขึ้น
อาหารอินเดียเมนูดั้งเดิมถูกนำมาปรับโฉมให้โมเดิร์นมากขึ้น ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย ลบภาพจำของอาหารอินเดียรูปแบบเดิม ๆ ที่หลายคนคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นเมนูใหม่ของร้านที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารสไตล์ Indo-Chinese ของเมืองกัลกัตตา เมนูสลัดหอยเชลล์คู่กับปลาทอดซอสมัสตาร์ด หอมดอง และ มะม่วงชัตนีย์ การนำเมนู Gobi Paratha ซึ่งเป็นแป้งผสมดอกกะหล่ำนำมาทอดแบบโรตี ที่ตีความใหม่ให้อยู่ในรูปแบบก้อนกลมรับประทานคู่กับครีม หรือ จะเป็นของหวานอย่าง Patole ที่เป็นเหมือนขนมแป้งข้าวจ้าวนึ่งในใบขมิ้น และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด คือ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง Passionate Pickle Sour ทำจากวอดก้า เสาวรส และ มะละกอดอง ให้ความรู้สึกสดชื่น เปิดประสบการณ์ทางรสชาติของอาหารอินเดียร่วมสมัยไม่เหมือนใคร
The Gaa Experience- ราคา 4,700 บาท++ ต่อท่าน
ยินดีต้อนรับเด็กอายุเกินกว่า 7 ขวบขึ้นไป ราคาเมนูสำหรับเด็ก 1,200 บาท++ ต่อท่าน
|
*เครดิตภาพจาก Nawa Thai Cuisine
Nawa Thai Cusine
Address : ชั้น 1 พาร์คเลน เอกมัย กรุงเทพฯ
Open : วันพฤหัสบดี - วันจันทร์ เวลา 18.00 – 22.30 น.
Nawa Thai Cusine หรือ ชื่อไทยว่า ‘นว’ ซึ่งมาจากคำว่า ‘นวัตกรรม’ เป็น 1 ใน 6 ร้านใหม่ที่ได้รับ 1 ดาวมิชลินในปี 2024 รวมทั้งยังได้ Special Awards ของมิชลิน รางวัล Opening of the Year ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษสำหรับบุคลากรและทีมงานที่ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านอาหารใหม่ปีที่ผ่านมา โดยมีแนวคิดที่โดดเด่นในการนำเสนออาหารอย่างสร้างสรรค์ โดย นว มีความโดดเด่นจากการรังสรรค์อาหารไทยที่มีความดั้งเดิมผ่านการตีความใหม่ที่มีความร่วมสมัยและดึงดูดใจ
นว เป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิงร่วมสมัยรสชาติต้นตำรับในรูปลักษณ์ของอาหารที่มีความทันสมัยและสวยงาม เสิร์ฟ Tasting Menu ที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล โดยคอร์สอาหารจะประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ก่อนจะตามด้วยอาหารจานหลัก ที่จะเสิร์ฟแบบสำรับ เพื่อรับประทานอาหารไทยภาคกลางแบบโบราณ แต่ว่าเมนูอาจจะเสิร์ฟไม่พร้อมกันเพื่อควบคุมคุณภาพของอาหารที่จะรับประทานในแต่ละรายการให้อยู่ในอุณหภูมิที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การเสิร์ฟสำรับไทยในรูปแบบเฉพาะของทางร้าน
เมนูส่วนใหญ่ของทางร้านจะไม่เน้นในเรื่องของความหวือหวาในการนำเสนอตัวอาหาร แต่จะให้ความสำคัญกับการทำอาหารไทยภาคกลางที่ค่อนข้างเรียบง่ายแต่มีความซับซ้อนของรสชาติ เทคนิคการทำอาหาร และ การวางองค์ประกอบให้เกิดความสมดุล โดยในช่วงเดือนมกราคมนี้ Tasting Menu ของทางร้านจะเป็น Winter Season Menu โดยทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีในช่วงฤดูหนาว เช่น สตรอว์เบอร์รีสดใหม่สำหรับเมนูม้าฮ่อ เนื้อไทยวากิวจากหนองคายสำหรับเมนูแกงเนื้อ กุ้งหลากชนิดสำหรับเมนูต่าง ๆ อย่างกุ้งแพทอดกรอบ กุ้งแม่น้ำย่าง ฯลฯ
Nawa Thai Cusine
เปิดให้บริการ 2 รอบ คือ 18.00 น. และ 20.00 น. รอบละ 24 ที่นั่ง
- Winter Season Menu ราคา 4,200 บาท++ ต่อท่าน
|
*เครดิตภาพจาก Resonance Restaurant
Resonance
Address : 108, 4 สุขุมวิท 65 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
Open : วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 18.00 – 21.00 น. และ วันเสาร์ เวลา 12.00 – 14.30, 18.00 – 21.00 น.
Resonance นำเสนออาหารไฟน์ไดน์นิงในคอนเซ็ปต์ของ Bondless Cuisine หรือ อาหารที่ไร้ขอบเขตจำกัด จากประสบการณ์การทำงานของเชฟ ชุนสุเกะ ชิโมมุระ เชฟชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ทำงานด้านอาหารมาหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยอาหารทุกจานอาจจะมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานอยู่ กลายเป็นอาหารที่บอกเล่าความเป็นนานาชาติซึ่งมีความละเมียดละไมและลึกซึ้งในมุมมองของการทำอาหารแบบญี่ปุ่นที่อยู่ในทุกจานที่เสิร์ฟ
เรโซแนนซ์ ตั้งอยู่ในย่านเอกมัย โซนที่ร้านอาหารต่าง ๆ เต็มไปด้วยสีสันที่แตกต่างหลากสไตล์ ที่นี่จะทำการเสิร์ฟอาหาร Testing Menu ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทำให้คุณจะได้รับประสบการณ์ทางอาหารที่แปลกใหม่อยู่เสมอ และที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์ Tea Pairing จับคู่ชาที่เข้ากับอาหาร โดยจะให้บริการสำหรับการแจ้งล่วงหน้า 1 - 2 วันขึ้นไปเท่านั้น เป็นการเปิดประสบการณ์ทางรสชาติเฉพาะแบบเรโซแนนซ์
ในปีนี้ เมนูปลาทรายของเรโซแนนซ์ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 จานโปรดของผู้ตรวจสอบมิชลิน ปลาทรายทอดกรอบ ทานคู่กับซอสที่ทำจากบ๊วยและตะลิงปลิง ใช้ใบงาห่อรับประทานคู่กันสไตล์เกาหลี เมนูซุปปูและเห็ด หรือ อาหารอีกประเภทที่น่าสนใจ เช่น อาหารตะวันตก จะเป็นวัตถุดิบจากสเปน อย่างเมนูหมูไอเบริโกย่าง ที่มีเครื่องเคียงอย่างหน่อไม้ฝรั่งย่าง ราดซอสต้นกระเทียมและพิวเร่มะม่วง ฯลฯ ซึ่งถือเป็นหลากหลายเมนูอาหารที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และมาจากประสบการณ์ของเชฟจากนานาประเทศ
- Testing Menu 12 Courses ราคา 4,500 บาท++ ต่อท่าน
- Testing Menu 14 Courses ราคา 6,500 บาท++ ต่อท่าน
- Tea Pairing ราคา 1,200 บาท++ ต่อท่าน
Reservation : https://line.me/R/ti/p/@609bvxlj
|
*เครดิตภาพจาก J'aime by Jean-Michel Lorain
J'aime by Jean-Michel Lorain
Address : 105/1 U Sathorn Bangkok ซอย งามคูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพฯ 10120
Open : วันพุธ - จันทร์ เวลา 12.00 – 14.30 และ 18.00 – 20.30 น.
J'aime by Jean-Michel Lorain ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยในย่านสาทรซึ่งบริหารจัดการโดยลูกศิษย์ของเชฟ ฌอง-มิเชล โลรองต์ เชฟคนดังระดับปรมาจารย์ของแวดวงอาหารฝรั่งเศสชั้นสูง ในปี 2024 นี้ร้าน แฌม บาย ฌอง-มิเชล โลรองต์ ร้านใหม่ที่ได้รางวัลพิเศษ Michelin Green Star หรือดาวมิชลินรักษ์โลก จากการสร้างสรรค์อาหารฝรั่งเศสโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืน จากการเลือกใช้วัตถุดิบจากผู้ผลิตภายในประเทศ และมีแนวทางปฏิบัติในการบริหารครัวที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการลดจำนวนการเกิดขยะ ลดการเกิดคาร์บอนจากการประกอบอาหาร
โดยเชฟ อเมริโก เซสติ ได้รังสรรค์เมนู Memoirs และ Wonder อาหารฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบจากไทยทั้งหมด เพื่อแสดงถึงจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนแนวคิดเรื่องอาหารยั่งยืนที่เกิดขึ้นได้จริง เป็นความอร่อยของไฟน์ไดน์นิงเพื่อสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นอกเหนือไปจากดาวมิชลินรักษ์โลกที่การันตีการบริหารจัดการของร้านอาหารที่สนับสนุนหลักการอาหารยั่งยืนแล้ว ร้านยังการันตีในเรื่องของความน่าประทับใจของประสบการณ์ทางอาหารในสไตล์อาหารฝรั่งเศสไฟน์ไดน์นิงด้วยศาสตร์การทำอาหารแบบฝรั่งเศส จากเชฟที่มากด้วยประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ เช่น เมนูเนื้อไหล่แกะกงฟีรับประทานคู่กับแมคาเดเมีย ถั่วและสมุนไพร เมนูอกนกพิราบกับชัตนีย์สับปะรดและข้าวพิลาฟทอด หรือ เมนูของหวานที่ทำจากโกโก้ของเชียงใหม่รับประทานคู่กับใบแมงลัก ฯลฯ ซึ่งสามารถสะท้อนถึงการไปด้วยกันได้ดีของการบริหารร้านอาหารให้ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับโลกได้
- Memoirs Menu ราคา 2,900 บาท ต่อท่าน
- Wonder Menu ราคา 3,500 บาท ต่อท่าน
|