กรุงเทพมหานครนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายนานับร้อยพัน ต่างสัญชาติ ต่างสไตล์ และต่างระดับ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการที่คุณมองหา แต่ในบรรดามหาสมุทรแห่งร้านอาหารเหล่านี้ ร้านใดกันที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือธงของอาหารประเภทนั้น ๆ วันนี้ The Explorer จึงขอพาทุกท่านไปพบกับ 5 ร้านอาหารระดับแนวหน้า ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาลี และฝรั่งเศส แบบครบถ้วนทุกความนิยมกันค่ะ
สัมผัสกลิ่นอายแบบไทย
กับ SRA BUA by KIIN KIIN
Address : ชั้น G โรงแรม Siam Kempinski Hotel Bangkok, ถนนพระราม 1, แขวงปทุมวัน, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Open : เปิดทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 12.00 น. – 15.00 น. และ มื้อเย็น เวลา 18.00 น. – 24.00 น.
Booking | Price : เริ่มต้น 2,000+ บาท / ท่าน
ห้องอาหาร สระบัว บาย กิน กิน ภายในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ย่านปทุมวัน พร้อมให้คุณได้ลิ้มลอง เมนูพื้นบ้านทั่วไทยที่นำมาประยุกต์และพัฒนาให้มีความล้ำสมัยและรสชาติที่ถูกปากมากยิ่งขึ้น การันตีคุณภาพด้วยรางวัลจาก มิชลิน ไกด์ ตั้งแต่ปี 2018 – 2023
สระบัว บาย กิน กิน นั้นก่อตั้งโดย เฮนริก อูล-แอนเดอร์เซน เชฟชาวเดนมาร์ก โดยนำแรงบันดาลใจจากร้านอาหารไทยในเครือเดียวกันอย่าง กิน กิน ที่เมืองโคเปนเฮเกนมาต่อยอดแนวคิด จนเกิดเป็นห้องอาหารที่อยู่คู่โรงแรมหรูแห่งนี้มาได้อย่างยาวนาน บรรยากาศภายในร้านนั้นตกแต่งด้วยไม้และลวดลายแบบไทยแท้ พร้อมทั้งยังมีสระบัวขนาดย่อมเพื่อให้สอดคล้องกับชื่อร้านอีกด้วย
ในส่วนของเมนูอาหารนั้นทางร้านมุ่งเน้นการนำเสนอสไตล์ Thai Fine Dining ที่ให้รสชาติแบบไทยได้อย่างครบถ้วน ซึ่งมีทั้งคอร์สแบบมื้อกลางวันและมื้อเย็นตามช่วงเวลา เมนูที่น่าสนใจภายในคอร์สนั้นมีตั้งแต่ไก่หมักขมิ้น ซึ่งเสิร์ฟคู่กับหอมดอง ถั่วลิสง และขิงได้อย่างลงตัว หรือจะเป็นเมนูเส้นอย่างผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ที่นำแครอทมาเป็นส่วนผสมหลักในการปั้นเส้น ไปจนถึงเมนูผักอย่างสลัดแตงกวาย่างปลาหมึก เสริมรสด้วยอะโวคาโดจากเชียงใหม่
เมนูของหวานอย่างเค้กกล้วยไส้คาราเมลนั้นก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นเมนูที่เสิร์ฟผ่านใบตองเผา ให้ความรู้สึกเหมือนได้รับประทานขนมไทยในแบบคลาสสิก พร้อมด้วยไอศกรีมกะทิที่ควบรสน้ำตาลมะพร้าวและเกลือ นอกจากของหวานและของคาวต่าง ๆ แล้ว ทางร้านยังมีบริการไวน์ทั้งแบบไวน์ขาวและไวน์แดงให้คุณได้เลือกอีกด้วย
ครบเครื่องเมืองมะกะโรนี ที่ Ms. Jigger
Address : ชั้น L โรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok, ซอยต้นสน, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Open : ทุกวัน วันจันทร์ – วันศุกร์เวลา 11.30 น. – 13.30 และ 17.30 น. – 24.00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 24.00 น.
Booking | Price : เริ่มต้น 1,500+ บาท / ท่าน
ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนนั้นกระจายตัวกันอยู่อย่างคับคั่งภายในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์พาสตา พิซซา เมดิเตอร์เรเนียนซีฟูด หรือรูปแบบอื่น ๆ อีกมาก แต่หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารที่พร้อมมอบเมนูหลากหลายสไตล์ในแบบฉบับเมืองมะกะโรนีขนานแท้ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความหรูหราและประสบการณ์ที่ใช่แล้ว มิส จิกเกอร์ พร้อมมอบสิ่งเหล่านั้นได้อย่างครบถ้วน
ห้องอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในชั้น L ของคิมป์ตัน มาลัย โรงแรมหรูระดับไฮลักชัวรีในย่านหลังสวน บรรยากาศภายในร้านนั้นโล่งโปร่งสบายตา ด้วยกระจกขนาดใหญ่ที่ให้แสงจากภายนอกนั้นพาดผ่านเข้ามาภายในร้าน พร้อมตกแต่งด้วยสีโทนอ่อนอันน่าค้นหา และเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ดูทันสมัย แต่ยังคงไปด้วยความหรูหราที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ทางห้องอาหารยังมีโซนเอาท์ดอร์ ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศภายนอกได้อย่างเป็นกันเองกับธรรมชาติ
หากพูดถึงอาหารอิตาเลียนคงขาดเมนูพาสตาไปไม่ได้ โดยที่ห้องอาหารแห่งนี้นั้นมีทั้ง Al Ragu di Agnello ที่นำเส้น Paccheri มาคลุกเคล้ากับซอสรากูเนื้อแกะ มะเขือเทศเชอร์รี และชีสนมแพะ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุน ไปจนถึงการใช้เส้น Linguine มาผัดเข้ากับกุ้งมังกรและยี่หร่าจนเกิดเป็นเมนูอย่าง All’ Astice
หรือจะเป็นเมนูประเภทพิซซาที่ก็มีให้คุณได้เลือกหลากหลายหน้า ไม่ว่าจะเป็นแบบคลาสสิกอย่าง Margherita ที่แน่นไปด้วยชีสบัฟฟาโล มอซซาเรลลา หรือแบบ Prosciutto e Burrata ที่แนมด้วยปาร์มาแฮมซึ่งผ่านการถนอมอาหารมากว่า 24 เดือน อีกทั้งยังมีแบบ Calzone Ricotta e Spinaci ซึ่งใช้ผักโขมเป็นวัตถุดิบหลัก
นอกจากพาสตาและพิซซาที่มีความโดดเด่นแล้ว ที่ มิส จิกเกอร์ ยังมีเมนูอิตาเลียนประเภทอื่น ๆ ให้คุณได้ลิ้มลองเช่นกัน ทั้ง Antipasti หรือเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Selezione di Salumi e Formaggi ตามแบบฉบับของเชฟ Davide Caló ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อและชีส Cold Cut แบบพรีเมียม เช่นเดียวกับสลัด สเต็ก และของหวานรูปแบบต่าง ๆ อีกมาก นอกจากนี้ ทางห้องอาหารยังมีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับผู้ที่รักการดื่มในช่วงค่ำอีกด้วย ช่วยให้คุณได้สนุกสนานและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของมื้ออาหารได้อย่างน่าจดจำ
พิเศษสำหรับลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทย รับส่วนลด 20% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ที่ห้องอาหาร Ms.Jigger เพียงสำรองสิทธิ์ล่วงหน้าผ่านหมายเลข 02-0569999
|
ลิ้มรสอาหารสไตล์จีนแผ่นดินใหญ่ ที่ Bai Yun
Address : ชั้น 59 โรงแรม Banyan Tree Bangkok, 21/100 ถนนสาทร, แขวงทุ่งมหาเมฆ, เขตสาทร, กรุงเทพฯ 10120
Open : ทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 11.30 น. – 14.30 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00 น. – 22.30 น.
Booking | Price : เริ่มต้น 2,000+ บาท / ท่าน
ส่งตรงรสชาติดั้งเดิมแบบกวางตุ้งแท้ ๆ จากแดนมังกรสู่มหานครของไทย ผ่านห้องอาหารไบยุน บนชั้น 59 ของโรงแรมบันยันทรีย่านสาทร ที่ให้คุณได้ลิ้มรสเมนูสไตล์จีนในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสจากที่ใดมาก่อน รังสรรค์โดยเชฟไซม่อน คิน แมน กว๊อก ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการอาหารจีนมากว่าสามทศวรรษ
บรรยากาศของร้านนั้นพร้อมให้คุณได้สัมผัสขอบฟ้าและทิวทัศน์แบบพาโนรามาของกรุงเทพฯ ได้ในเวลาเดียวกัน โดยมีทั้งฝั่งมุมเมืองและฝั่งบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งภายในยังตกแต่งในสไตล์จีนประยุกต์ ที่เน้นการใช้สีเงินและสีทึบเป็นหลัก ให้ความรู้สึกโอ่อ่า แต่ยังคงอบอวลไปด้วยความเป็นจีน ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับมื้ออาหารสุดหรูตรงหน้าได้อย่างเต็มเปี่ยมเมื่อผนวกทุกอย่างรวมกัน
จุดชูโรงของห้องอาหารแห่งนี้คือเมนูประเภทติ่มซำแบบพรีเมียมซึ่งมีให้เลือกกว่าหลายสิบเมนู โดยคัดสรรวัตถุดิบและประกอบอาหารอย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นฮะเก๋ากุ้งทรัฟเฟิล เกี๊ยวกุ้งซอสเสฉวน ขนมจีบกุ้งไข่ปลาคาเวียร์ เกี๋ยวปูบีทรูท สแกลลอปนึ่งซอสกระเทียม ซี่โครงหมูนึ่งเต้าเจี้ยวสูตรฮ่องกง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เรียกได้ว่าแค่เพียงได้ยินชื่อก็มั่นใจได้ทันทีถึงคุณภาพของติ่มซำเหล่านี้
ไม่ใช่แค่เพียงติ่มซำเท่านั้นที่น่าประทับใจ แต่เมนูอื่น ๆ ภายในห้องอาหารก็ยังอยู่ในระดับชั้นยอดไม่ต่างกัน ตั้งแต่เมนูรับประทานง่ายอย่างปูนิ่มผัดพริกเกลือ เนื้อเป็ดหมักเครื่องเทศม้วน หรือกระเพาะปลาน้ำแดง ไปจนถึงเมนูจานหลักที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งสเต็กหอยเป๋าฮื้อ กุ้งล็อบสเตอร์ตุ๋นยอดซุป ปลาเก๋านึ่งเปลือกส้มจีน ข้าวต้มปลาบู่หม้อดิน ไปจนถึงเป็ดปักกิ่งที่เปิดโอกาสให้คุณเลือกนำเป็ดไปปรุงอาหารเพิ่มเติมได้อีกหนึ่งเมนู จะเป็นผัดพริกไทยดำ ทอดกระเทียม หรือผัดเปรี้ยวหวานแบบจีนก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีเมนูอีกมากมายที่รอให้คุณได้ลิ้มลอง
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทย รับส่วนลด 30% สำหรับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ* มื้อกลางวัน ในวันจันทร์ – วันอาทิตย์ และ รับส่วนลด 20% สำหรับเมนู A La Carte (เฉพาะค่าอาหาร) ที่ห้องอาหารจีน Bai Yun เพียงสำรองสิทธิ์ล่วงหน้าผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-6791200* สูงสุด 10 ท่านต่อบัตร ต่อโต๊ะ เท่านั้น และ ไม่สามารถใช้ในวันเทศกาล หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ได้ |
อีกขั้นของอาหารญี่ปุ่น
ณ Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey
Address : อาคาร Athenee Tower, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Open : วันพุธ - วันจันทร์ มื้อกลางวัน เวลา 11.30 น. – 14.30 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00 น. – 22.00 น.
Booking | Price : เริ่มต้น 2,500+ บาท / ท่าน
อาหารญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในเมนูที่ถูกปากชาวไทยมาอย่างช้านาน ทั้งการใช้วัตถุดิบอันแปลกใหม่ คุณภาพในการปรุง และการสอดแทรกวัฒนธรรมไว้ในแต่ละจานได้อย่างแนบเนียนและเป็นมิตร เช่นเดียวกับที่ Kintsugi Bangkok ที่เชฟ Jeff Ramsey ได้นำวิถีแบบไคเซกิมาปรับใช้กับร้านแห่งนี้ได้อย่างลงตัว รับประกันคุณภาพด้วยรางวัล TripAdvisor Travellers’ Choice ประจำปี 2023
หากคุณก้าวเท้าเข้าไปภายในร้านแห่งนี้แล้วรู้สึกว่ากำลังอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ไม่แปลกใจใด ๆ เนื่องจากการตกแต่งภายในร้านนั้นให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้อยู่ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างแท้จริง ด้วยการนำไม้มาจัดเรียงในแบบงานช่างดั้งเดิม ผสมผสานกับวัสดุและการจัดแสงในแบบสากล ก่อเกิดเป็นแนวคิดแบบญี่ปุ่นประยุกต์ ช่วยให้อารมณ์และรสชาติของอาหารนั้นยิ่งน่าค้นหา
ในมุมของอาหารนั้นก็น่าหลงใหลไม่แพ้กัน เนื่องจากทางร้านได้นำเมนูญี่ปุ่นต้นตำรับมาผสมผสานกับไอเดียแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัวและกลมกล่อม อย่างเมนู Signature Crab & Truffle Chawanmushi ที่นำเนื้อปูอลาสกาและเห็ดทรัฟเฟิลมานึ่งจนเกิดเป็นไข่ตุ๋นรูปแบบใหม่ที่เนื้อเนียนเรียบ หรือจะเป็น Signature Wagyu Donabe Gohan ข้าวอบหม้อดินที่ใช้เนื้อวากิวระดับ A5 รับประทานคู่กับไข่และผักดองในแบบฉบับของญี่ปุ่น ไปจนถึง Watari Crab Korokke ซึ่งนำปูวาตาริมาทอดในแบบของโคร็อกเกะ พร้อมด้วยข้าวโพดอ่อนย่างและซอสคานิมิโซะ
สำหรับของหวานนั้น ที่ร้านแห่งนี้มีทั้งเมนู KinKat ซึ่งมาในแพคเกจของขนมแบรนด์ดังที่เราคุ้นตากันดี หากแต่เพียงไส้ด้านในนั้นคือไอศกรีมแซนด์วิชรสช็อกโกแลตสไตล์โมนากะสูตรเฉพาะ หรือจะเป็น Matcha & Yuzu Entremet เค้กมูสรสส้มยูซุผสมกับมัตฉะและวานิลลา อีกทั้งยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายนอกเหนือจากเมนูหลักและของหวานดังกล่าว ทั้งซาชิมิ บะหมี่ และซุปต่าง ๆ อีกด้วย
ดื่มด่ำความฝรั่งเศส
กับ Le Normandie by Alain Roux
Address : ชั้น 5 โรงแรม Mandarin Oriental Bangkok, ซอยเจริญกรุง 40, ถนนเจริญกรุง, แขวงบางรัก, เขตบางรัก, กรุงเทพฯ 10500
Open : วันพุธ – วันอาทิตย์ มื้อกลางวัน เวลา 13.30 น. – 15.30 น. และมื้อเย็น เวลา 18.30 น. – 23.30 น.
Booking | Price : เริ่มต้น 4,473++ บาท / ท่าน
รางวัลจากมิชลินอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าทำไมห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี บาย อลัง รูซ์ ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล นั้นถึงได้รับความนิยมและคำชื่นชมจากหลากหลายลูกค้าและสถาบันต่าง ๆ ด้วยการนำอาหารฝรั่งเศสมายกระดับผ่านแนวคิดแบบ Fine Dining ที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความประณีต พร้อมด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ให้แขกผู้มาเยือน
ความสง่างามถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมแบบฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน ซึ่งสิ่งนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบภายในร้านที่เน้นความหรูหราเป็นหลัก ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ตั้งพื้นอย่างเก้าอี้ ไปจนถึงด้านบนอย่างโคมไฟแชนเดอเลียร์ พร้อมให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อมองออกไปด้านนอก ร่วมสรรค์สร้างมื้อที่น่าจดจำผ่านความอลังการตรงหน้า
เมนูของห้องอาหารแห่งนี้ได้นำเสนอด้วยกรรมวิธีการปรุงและรสชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติในแบบของฝรั่งเศสขนานแท้ ไม่ว่าจะเป็น Wagyu Beef Fillet with Red Wine Jus ที่นำเนื้อวากิวชั้นดีราดด้วยซอสไวน์แดงสูตรเข้ม หรือจะเป็น Frogs’ Legs with Basil Agnolotti ในแบบฝรั่งเศส ซึ่งปรุงรสขากบด้วยพาร์เมซานชีลและโหระพา ไปจนถึงเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Pan-Fried Lobster Medallion ที่นำล็อบสเตอร์มาปรุงกับผักซอยที่ให้รสขิงอ่อน ๆ เสิร์ฟร่วมกับซอสไวน์ขาวอันนุ่มละมุน
เพื่อปิดท้ายมื้อที่น่าจดจำ ทางห้องอาหารยังมีของหวานอันน่าสนใจให้เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน อาทิ Warm Raspberry Souffle ให้คุณได้ราดซอสราสป์เบอร์รีอุ่น ๆ ลงบนซูเฟลรสเลิศ หรือจะเป็นเซ็ตรวมขนมหวานคำน้อย ๆ ทั้ง Dark Chocolate Saint-Honoré, Caramel Choux และ Mango and Banana Sorbet ก็มีให้ได้เลือกเติมความหวานด้วยเช่นกัน
เพราะมื้ออาหารนั้นสามารถยกระดับไปสู่เมนูชั้นยอดได้ ด้วยการรังสรรค์ รสชาติ และความหรูหราที่ประสานกันอย่างลงตัว ฉะนั้นแล้ว The Explorer ขอเป็นส่วนหนึ่งที่มอบสุดยอดร้านอาหารเหล่านี้ไว้ให้คุณได้พิจารณาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์มื้ออาหารชั้นยอดกันนะคะ
บทความอื่น ๆ ประจำเดือน
| SPECIAL REPORT
|
| ULTIMATE LEISURE
|
SPECIAL PRIVILEGE : สิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำประจำเดือนกรกฎาคม