​​        อาหาร เป็นการสื่อสารและวัฒนธรรมร่วมกันของมนุษยชาติที่ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะความอร่อยนั้น เป็นการส่งต่อความสุขให้กันอย่างเป็นสากล แม้จะต่างชาติต่างภาษา แต่ความอร่อยของอาหารสามารถข้ามผ่านทุกกำแพงความแตกต่างได้เสมอ Ultimate Leisure จะพาทุกท่านไปเพลิดเพลินและเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารที่แตกต่างกันไปในเอเชีย กับ 5 เทศกาลอาหารที่จะถูกจัดขึ้นตลอดเดือนตุลาคม 2023 นี้

        เมืองทาคายามะ เป็นเมืองขนาดเล็กและเก่าแก่สมัยเอโดะ จนหลายคนเรียกว่าเป็นเมืองเกียวโตน้อย บางคนอาจมองว่านี่เป็นเมืองผ่านสำหรับการไปท่องเที่ยวยังหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะ แต่ที่ทาคายามะก็มีความสวยงามของบ้านเมืองและวัฒนธรรมแบบฮิดะโบราณที่ควรค่าแก่การแวะมาเยือน เช่น

• บ้านเรือนเก่าสมัยเอโดะที่ย่านถนนซันมาจิ
• ชมหมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ
• สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดฮิดะโคะคุบุนจิ วัดประจำเมืองที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน และ มีต้นแปะก๊วยขนาดใหญ่อายุพันกว่าปีอยู่ภายในวัด

        นอกจากเป็นเมืองเก่าแก่แล้ว ยังเป็นเมืองที่ทำการเกษตรได้ดี โดยเฉพาะพืชเมืองหนาว เพราะมีธรรมชาติกับน้ำที่อุดมสมบูรณ์ โดยผักที่ปลูกในเมืองทาคายามะนั้นมีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศที่มีรสหวานราวผลไม้ หรือ ผักโขมไร้สารเคมี รวมไปถึงผลไม้ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ ลูกท้อ แอปเปิล หรือ เมลอนก็มีรสชาติที่ดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว 

        อีกทั้งยังมีของดีขึ้นชื่ออย่าง เนื้อวัวฮิดะ หรือ ฮิดะกิว สุดยอดเนื้อวัวที่ไม่แพ้เนื้อชื่อดังอย่างเนื้อโกเบ โดยเนื้อวัวฮิดะนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ลายหินอ่อนจากไจมันที่แทรกอยู่ในเนื้อซึ่งผ่านการประเมินให้เป็นเนื้อวัวชั้นสุดยอด ตามเงื่อนไขคุณภาพโดยสมาคมจัดเกรดเนื้อวัวของญี่ปุ่น

        ดังนั้นหากจะกล่าวถึงอาหารประจำเมืองทาคายามะ ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักชิม ก็คือ ฮิดะกิว นี่เอง โดยสามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบบปิ้งย่างยากินิคุ หรือ จะเป็นซูชิฮิดะกิว นอกจากนี้ อีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นจานเด่นก็คือ ทาคายามะราเมน ซึ่งมีเอกลักษณ์ คือ เส้นราเมนที่เล็กและบางกว่าเส้นราเมนทั่วไป สำหรับท่านที่ชอบของว่างแบบญี่ปุ่น ไม่ควรพลาด มิตะระชิดังโงะ ขนมเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ความพิเศษของมิตะระชิดังโงะที่ทาคายามะคือ จะใช้เฉพาะโชยุแล้วนำไปปิ้งให้มีกลิ่นหอมแตกต่างออกไปจากที่อื่น ที่จะใช้เป็นน้ำราดโชยุที่มีรสหวานจากน้ำตาล

​การเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรม         เมืองทาคายาม่า ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ บริเวณตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น การเดินทางจากโตเกียวไปทาคายาม่า สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็น (ประมาณ 4 ชั่วโมง) หรือนั่งรถบัสด่วนจากสถานีรถบัสชินจุกุ (ประมาณ 5 ชั่วโมง) โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมงานเทศกาลทาคายาม่าได้โดยไม่เสียค่าเข้าชม

Gangneung Coffee Festival

Gangneung - South Korea (12 - 15 ตุลาคม 2023)

        เกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรบริโภคกาแฟกันเป็นจำนวนมาก ธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟและร้านคาเฟ่ต่าง ๆ ได้ค่อย ๆ สร้างองค์ความรู้และวัฒนธรรมกาแฟในรูปแบบของตัวเองขึ้นมาอย่างชัดเจน จนอาจเรียกได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของประเทศไปแล้ว 

        ทุก ๆ เดือนตุลาคม ที่เมืองคังนึง เมืองท่องเที่ยวชายทะเลสุดฮิตของชาวเกาหลีจะจัดงาน Coffee Festival ขึ้นเป็นประจำตั้งแต่ปี 2009 ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองในฐานะ Coffee City ของเกาหลีใต้ มีธุรกิจร้านกาแฟรวมไปจนถึงผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวผู้รักกาแฟเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยงานจะจัดขึ้นที่ในพื้นที่หลักที่คังนึงอารีน่า

*ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก เทศกาลกาแฟคังนึง 강릉커피축제 

        ที่เทศกาลกาแฟคังนึง คนรักกาแฟทั้งหลายสามารถพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟจากทั่วเกาหลี ทั้งจากงานแสดงนิทรรศกาลบอกเล่าความเป็นมาของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การแสดงเทคนิคต่าง ๆ ของการชงกาแฟ การคั่วเมล็ดกาแฟ หรือ จะไปดื่มกาแฟหรือซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจจากบููธของธุรกิจกาแฟและร้านคาเฟ่ รวมไปจนถึง food truck ภายในงาน นอกจากนี้ก็จะมีการแสดงบทเวทีจากศิลปินไอดอลเพื่อสร้างความบันเทิงภายในงานด้วย

* ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.coffeefestival.net และ english.visitkorea.or.kr

*ขอบคุณภาพจาก visitkorea.co.kr

english.visitkorea.or.kr/svc/whereToGo/locIntrdn 

        ที่ถนนหน้าหาดอันมกในตัวเมืองคังนึง จังหวัดคังวอนโด ถูกเรียกว่าเป็น Coffee Street จากการที่ตลอดถนนเลียบหาดความยาวกว่า 500 เมตร ได้เรียงรายไปด้วยคาเฟ่กว่า 30 ร้านที่นำเสนอวัฒนธรรมกาแฟในแบบเกาหลี หันหน้าออกไปยังชายหาด ให้ความรื่นรมย์กับการมาพักผ่อน จิบกาแฟชิมวิวในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

ชั้นดาดฟ้าของร้าน Kikrus Coffee และ กาแฟกับวิวทะเลจากร้าน Bossa Nova

*ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ร้าน Kikrus Coffee Shop และ เว็บไซต์ร้าน Bossa Nova Coffee Roaster 

        สถานที่แนะนำ เช่น Bossa Nova Coffee Roaster ร้านกาแฟชั้นนำของเกาหลี มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ รวมถึงที่เมืองคังนึงด้วย ร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์เรียบเท่ มีหน้าต่างกระจกสูงให้ชมวิวทะเลสวย ๆ รวมทั้งชั้นดาดฟ้า ที่สามารถขึ้นไปจิบกาแฟชมวิวทะเลพาโนรามา หรือจะแวะไปที่ Kikrus Coffee Shop ร้านกาแฟอีกแห่งที่มีชื่อเสียงของถนนสายนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องขนมเบเกอรีและมีจุดชมวิวที่ดี

ศาลาคยองโพแด และ สะพานกันคลื่นหาดจูมุนจิน

       การมาเที่ยวที่คังนึงส่วนใหญ่จะเป็นการมาตากอากาศชายทะเล สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจะเป็นสถาปัตยกรรมเก่า เช่น ศาลาคยองโพแด ที่สร้างสมัยโชซอน เป็นจุดชมวิวตั้งอยู่บนยอดเขา หรือ บ้านซอนกโยจัง บ้านของขุนนางเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีรีย์เกาหลีที่เมืองคังนึงนี้ท่านสามารถตามรอยซีรีย์เรื่องดังอย่าง Goblin ด้วยการไปถ่ายรูปที่ สะพานหินกันคลื่นหาดจูมุนจิน ได้อีกด้วย

        นอกเหนือไปจากการนั่งชิลกับกาแฟคุณภาพดีริมชายหาดอันมก ที่เมืองคังนึงยังมีอาหารมากมายให้เหล่านักชิมต้องไปลิ้มลองความอร่อย ถ้าคุณชอบอาหารทะเลสไตล์เกาหลี อาจจะแวะไปที่ย่านจูมุนจินฮามึล ซึ่งมีร้านอาหารจำนวนมากเสิร์ฟเมนูซีฟู้ดเกาหลี เช่น ซุปปลาไหลทะเล สตูซีฟู้ดแบบเผ็ด หรือซาชิมิต่าง ๆ  หรือจะไปเยือนตลาดคังนึงจังกัง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสตรีทฟู้ดแบบเกาหลี

​การเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรม         นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถบัสขนาดใหญ่จากสนามบินอินชอนจากกรุงโซลไปยังเมืองคังนึงได้ในเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยจะมีวันละ 4 รอบ หรือจะนั่งรถไฟความเร็วสูง KTX จากโซลไปคังนึง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมใน Gangneung Coffee Festival นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม

KITA Food Festival

Penang, Kuala Lumpur, Singapore (13 - 30 ต.ค. 2023)

*ขอบคุณภาพจาก Kita Food Festival 

        เทศกาลอาหารงานนี้เกิดขึ้นจากความพยามในการยกระดับอาหารของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นมาในมาตรฐานสากล โดยจัดมา 3 ปีติดต่อกันแล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งจากในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เหล่าเชฟผู้มีชื่อเสียง ผู้ประกอบการธุรกิจไวน์และเครื่องดื่มชั้นนำ 

        โดยคำว่า ‘คีตา’ เป็นภาษามลายู แปลว่า ‘เรา’ จากความตั้งใจของกลุ่มผู้จัดงานให้เทศกาลนี้เป็นงานที่จะส่งผ่านวัฒนธรรมอาหาร โดยไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบทางด้านเชื้อชาติหรือสถานะทางสังคมใด

*ขอบคุณภาพจาก Kita Food Festival 

        ภายในงานเทศกาลอาหารคีตา จะมีกิจกรรมค่อนข้างหลากหลาย จัดขึ้นสถานที่จัดงานถึง 3 เมืองใหญ่ โดยจัดเป็นอีเวนต์ย่อยตามร้านอาหารต่าง ๆ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่เมืองกูชิง มาเลเซีย ก่อนจะเริ่มอีกครั้งในวันที่ 13 - 16 ตุลาคม ที่เมืองปีนัง 19 - 23 ตุลาคม ที่สิงคโปร์ และ 26 - 30 ตุลาคม ที่กัวลาลัมเปอร์

*ขอบคุณภาพจาก Kita Food Festival 

        นำเสนอรูปแบบการทำอาหารแบบ Four-Hand Dinner และ Six-Hand Dinner ซึ่งจะเป็นการทำอาหารจากเชฟ 2 หรือ 3 คนทำงานร่วมกัน โดยที่ต่างคนจะไม่ได้เตรียมการกันมาก่อน เป็นการโชว์ทักษะการทำอาหารแบบฉบับของตัวเองแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยผู้เข้าร่วมจะได้ชิมความอร่อยของเมนูต่าง ๆ ที่รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟชื่อดัง รวมทั้งการเสวนาพูดคุยสไตล์ TED’s Talk ว่าด้วยเรื่องอาหารในแง่มุมต่าง ๆ โดยสามารถเข้าไปดูตารางกิจกรรมการจัดงานทั้งหมด รวมทั้งซื้อตั๋วเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ของ Kita Food Festival

        เทศกาลอาหารคีตาในช่วงเดือนตุลาคมนี้ จัดขึ้นใน 3 เมืองใหญ่ ทั้งปีนัง กัวลาลัมเปอร์ และ สิงคโปร์ รูปแบบการท่องเที่ยวเยี่ยมชมเมืองทั้งสามนี้ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามเสน่ห์และไลฟ์สไตล์ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นเมืองทางวัฒนธรรมเก่าแก่อย่างปีนัง เมืองหลวงที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมอย่างกัวลาลัมเปอร์ และ เมืองที่ทันสมัยอย่างสิงคโปร์

​การเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรม         การเข้าร่วมกิจกรรมสำหรับเทศการอาหารคีตา ผู้สนใจจะต้องซื้อตั๋วเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ของเทศกาลล่วงหน้า โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา         สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมว่ามีกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารอะไรบ้าง และ จะถูกจัดขึ้นที่ใด เมื่อไรได้ในเว็บไซต์ kitafoodfestival.com

Tokyo Ramen Festa

Tokyo - Japan (26 ต.ค. – 5 พ.ย. 2023)

        เทศกาลราเมนนี้ จัดขึ้นที่โตเกียวเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ ค.ศ. 2009 โดยในสมัยเริ่มต้นใช้ชื่อว่า Tokyo Ramen Show ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Tokyo Ramen Festa ในภายหลัง รวบรวมราเมนร้านดังจากทั่วประเทศมาเสิร์ฟความอร่อยที่สนามกีฬาโคมาซาวะ โอลิมปิค พาร์ค โดยแต่ละร้านจะมีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคและสูตรลับต้นตำรับของทางร้าน เป็นเทศกาลอาหารที่คนที่รักราเมน อาหารเส้น และนักชิมจะต้องมาเยือนเพื่อลิ้มลองความอร่อยอันหลากหลายของราเมนแบบญี่ปุ่นให้ได้ซักครั้ง

        ไฮไลท์ของการไปเทศกาลราเมน คือ การที่เราจะได้สนุกไปกับประสบการณ์ความอร่อยที่หลากหลายของราเมนทั่วญี่ปุ่น ได้เห็นความแตกต่างกันออกไปในแต่ละเมนู ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เส้นราเมน และเครื่องเคียง ซึ่งสร้างสรรค์เมนูราเมนในแบบของตัวเองตามวัตถุดิบหรือลักษณะเด่นทางวัฒนธรรมอาหารที่มีในภูมิภาคของตน เช่น 

        มิโซะ บัตเตอร์ ราเมน จากเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เดิมทีฮอกไกโดนั้นขึ้นขึ้นชื่อในเรื่องของมิโซะราเมน (ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูใส่เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น มีรสจัดค่อนไปทางเค็ม) ใช้เส้นราเมนแบบหยักเหนียวนุ่ม สำหรับมิโซะ บัตเตอร์ ราเมนแบบฉบับซัปโปโรจะเพิ่มความอร่อยด้วยการนำผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของฮอกไกโดอย่างเนย และข้าวโพดมาใส่เป็นเครื่องเคียง ทำให้มีรสชาติหวานมันยิ่งขึ้น กลายเป็นราเมนขึ้นชื่อที่สะท้อนเอกลักษณ์ของฮอกไดโด

        ฮาคาตะ ทงคัตสึ ราเมน ราเมนจากเมืองฮาคาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ เกาะคิวชู ต้นตำรับซุปทงคัตสึ ที่น้ำซุปกระดูกหมูจะถูกเคี่ยวจนมีความเข้มข้นเป็นสีขาวน้ำนม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร โดยจะเสิร์ฟกับเส้นราเมนเส้นเล็ก ท็อปด้วยหมูชาชู เห็ดหูหนูหั่นฝอย ไข่ต้ม ต้นหอมและขิงดอง เป็นเมนูที่ทำขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930’s ปรับปรุงมาจากสูตรราเมนแบบจีนกับแบบท้องถิ่นเข้าด้วยกัน

        โตเกียว ราเมน ราเมนแบบโตเกียวที่เรียบง่ายและคุ้นเคยกันดี น้ำซุปโชยุสีดำหวานเค็มกลมกล่อม เส้นราเมนเล็กเหนียวนุ่ม ท็อปปิงเครื่องเคียงด้วยเนื้อไก่หรือหมูชาชู หน่อไม้ดองญี่ปุ่น ไข่ต้ม โรยต้นหอมสับ  เป็นราเมนแบบคลาสสิคที่ทุกคนรู้จักและชื่นชอบ

* ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก Tokyo Ramen Festa 2023 東京ラーメンフェスタ2023 

        นอกจากราเมนจะแตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ทางภูมิภาคแล้ว ในแต่ละร้านดังเจ้าเด็ดต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น ต่างก็มีการสร้างสรรค์เมนูราเมนของตัวเองให้มีความเฉพาะตัวด้วยสูตรลับของตนเองเช่นกัน ในงานเทศกาลราเมนนี้ มีราเมนให้เลือกมากมายสำหรับคนชอบเมนูเส้น โดยมีจานเด่นที่ไม่อยากให้นักชิมราเมนต้องพลาดพลาด เช่น

• ราเมนหมูย่างมิโซะ จากร้านซัปโปโรมิโซโนะ ร้านราเมนที่เปิดขายมายาวนานกว่า 130 ปี
• ราเมนเนื้อวัวโอซาก้า จากร่วมมือกันระหว่างร้านเซตากายะและร้านโยชิโนยะ
• ราเมนเมนูพิเศษจากร้านคาดาวาริราเมน ร้านราเมนจากปารีสที่ได้อันดับมิชลินสตาร์ นำเสนอเมนู ราเมนเนื้อโฟมเอสพูม่า จากซุปกระดูกหมูและล็อบสเตอร์ฝรั่งเศส

        การเที่ยวในเมืองโตเกียวในช่วงเดือนตุลาคม อากาศกำลังสบายอยู่ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียสในช่วงเวลากลางวัน แต่กลางคืนอาจจะหนาวขึ้นมาพอสมควร 

        โดยในเดือนตุลาคมนี้ มีงานสนุก ๆ ให้ไปเที่ยวชมอย่างกิจกรรมฉลองฮัลโลวีนที่ชิบูย่า ซึ่งจะมีการรวมตัวกันของเหล่าผู้นิยมคอสเพลย์ รวมทั้งการแต่งตัวแฟนซีแบบต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 29 - 31 ตุลาคม หรือ จะไปงานเทศกาลหนังสือมือสองคันดะ ในย่านจินโบโจของเขตคันดะ ซึ่งเป็นเทศกาลหนังสือมือสองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นปีละครั้งมากว่า 60 ปีแล้ว โดยภายในงานจะมีทั้งหนังสือมือสองลดราคาพิเศษและหนังสือหายาก จากหนังสือกว่าล้านเล่มที่เข้าร่วม

​การเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรม         งานเทศกาลราเมนโตเกียว จัดขึ้นที่สนามกีฬาโคมาซาวะ โอลิมปิค พาร์ค เดินจากสถานีรถไฟโคมาซาวะไดกากุเพียง 10 นาที โดยงานจะเริ่มตั้งแต่ 10:00 - 20:30 น.         การเข้าร่วมกิจกรรมแสนอร่อยของเทศกาลราเมนโตเกียวนั้น ไม่สามารถซื้อราเมนได้จากบูธขายโดยตรง แต่จะต้องทำการซื้อตั๋วที่บริเวณหน้างานก่อน หรืออาจจะซื้อผ่านทางเว็บไซต์ของกิจกรรมได้เลยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 850 เยน (ประมาณ 206 บาท) * รายละเอียดเพิ่มเติมในการจัดงานเข้าไปดูได้ที่ ra-fes.com/index.html และ tokyocheapo.com/events/tokyo-ramen-show

Thai Vegetarian Festival

Phuket - Thailand (15 - 24 ต.ค. 2023)

        เทศกาลกินเจ หรือ ‘เจี๊ยะฉ่าย’ จะถูกจัดขึ้นในทุกเดือนตุลาคมของทุกปีเพื่อเป็นการถือชำระล้างบาป และ ถือศีลภาวนาเพื่อบูชาเซียนและส่งผลบุญไปถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของชาวจีนฮกเกี้ยนในจังหวัดภูเก็ต โดยงานจะจัดขึ้นเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งนอกเหนือไปจากการกินเจ ถือศีลภาวนาแล้ว ก็จะมีประเพณีต่าง ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจรวมทั้งการจุดประทัดเล่นไฟกันอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงความเคารพถึงบรรพบุรุษ ในช่วงเวลานี้ในตัวเมืองภูเก็ตจะเต็มไปด้วยผู้คนที่แต่งชุดขาว และ ตกแต่งด้วยธงสีเหลือง 

        แม้ว่าวัฒนธรรมจีนจะมีการกินเจในเหล่านักบวชและผู้ถือศีล แต่เทศกาลการกินเจในกลุ่มคนทั่วไปนั้น ปัจจุบันจะสามารถพบได้แค่ในลูกหลานจีนในไทยเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มวัฒนธรรมจีนฝูเจี้ยน มีกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนและชาวจีนแต้จิ๋วเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นชาวจีนสองกลุ่มที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นจำนวนมากที่สุด 

        ในอดีต งานจะถูกจัดเป็นเวลา 9 วันแรกของเดือน 9 โดยเชื่อกันว่าเป็นเวลาที่กิ๊วอ๋องไต่เต่ หรือเทพพระราชาธิราชทั้ง 9 พระองค์ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า ได้เสด็จเดินทางมาเยี่ยมโลกมนุษย์ โดยคาดเดาว่าประเพณีนี้เริ่มเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ชาวจีนฝูเจี้ยนได้อพยพมาทำงานที่จังหวัดภูเก็ตในสมัยรัชกาลที่ 5

        นอกจากการกินอาหารเจ ละเว้นชีวิตแล้ว สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศเข้าร่วมกับงานเทศกาลกินเจภูเก็ตมาจากพิธีแห่พระรอบตัวเมือง (อิ้วเก้ง) โดยมีม้าทรง หรือ ทรงเจ้าเข้าร่วมพิธีพร้อมทรมานตนด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสียบเหล็กแหลมไปตามใบหน้าและร่างกาย หมายถึงการทนรับเอาความเจ็บปวดต่าง ๆ จากผู้เข้าร่วมพิธีเอาไว้กับตัวเอง นอกจากนี้ก็จะมีประเพณีอื่น ๆ ที่น่าหวาดเสียว อย่างพิธีปีนบันไดมีด (โต้ทุ้ย) พิธีลุยไฟ (โก้ยโห้ย) ส่วนพิธีที่จะทำในวันสุดท้ายของเทศกาลคือการข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ (โก้ยห่าน) เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

​