วัตถุประสงค์ของมาตรการพักชำระหนี้
เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจของธนาคาร ที่ทำงานในสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการ จาก มาตรการของทางการให้มีภาระค่าใช้จ่ายลดลง โดยพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน นับจากเดือนที่ลงทะเบียน
เข้าร่วมมาตรการ
คุณสมบัติลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการ
*พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามคำสั่งของ ศบค.ที่ 9/2564 ลว.10 ก.ค. 64 และ 10/2564 ลว.18 ก.ค.64 และที่จะประกาศเพิ่มเติมระหว่างการลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ
หมายเหตุ
การพักชำระหนี้ ภายใต้มาตรการนี้เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับลูกค้าที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ ควรชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินที่ควรดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืน
การคิดดอกเบี้ยในระหว่างพักชำระหนี้
- ในระหว่างการพักชำระหนี้ธนาคารยังคงมีการคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติตามสัญญาเดิม
- เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาพักชำระหนี้ ลูกค้ายังคงต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยค้างชำระที่เกิดขึ้นในภายหลัง
ระยะเวลาลงทะเบียน
ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2564
กรอกข้อมูล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
คำถามที่พบบ่อย
- ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการในพื้นที่ควบคุมฯ* (13 จังหวัด) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา
- ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุม* เช่น ร้านนวด-สปา ร้านเสริมความงาม ร้านขายของในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
- ไม่มีสถานะเป็นหนี้ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนหน้าเดือนที่ลงทะเบียน
*พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามประกาศคำสั่งของ ศบค.ที่ 9/2564 ลว.10 ก.ค. 64 และ 10/2564 ลว.18 ก.ค.64 และที่จะประกาศเพิ่มเติมระหว่างการลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ
บัตรเครดิต, บัตรเงินด่วน Xpress Cash, สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan, สินเชื่อเงินด่วนแบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ Xpress Loan-Long term loan, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
พักชำระหนี้ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งนี้ ดอกเบี้ยยังคงคำนวณอยู่ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับลูกค้าที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ ควรชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินที่ควรดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืน
ทุกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์
- ลูกค้าธุรกิจ : ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ
K-BIZ Contact Center 02-8888822 - ลูกค้าบุคคล : โดยพิมพ์ @help ผ่านช่องทาง LINE: @KBankLive
19 กรกฎาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2564
ลูกค้าสามารถเข้ามาตรการนี้ได้และให้ใช้มาตรการนี้ก่อน ตามตัวอย่างดังนี้
กดที่รูปเพื่อขยายตาราง
- ลูกค้าบัตรเครดิต, บัตรเงินด่วน Xpress Cash และสินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan ที่เข้ามาตรการพักต้นชำระดอก สามารถเข้ามาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือนได้ โดยวันสิ้นสุดมาตรการพักต้นชำระดอกยังคงเดิม
- ลูกค้าบัตรเครดิต, บัตรเงินด่วน Xpress Cash ที่เข้ามาตรการแปลงหนี้ 48 งวดแล้ว สามารถเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้
2 เดือนได้ - สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ถ้าเข้ามาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย หรือ มาตรการลดค่างวด 50% สามารถเข้ามาตรการพักชำระหนี้
2 เดือนได้ - แต่หากลูกค้าได้รับมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือนอยู่แล้ว หลังจากสิ้นสุดมาตรการ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนต่อมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือนต่อได้
มีผลในเดือนที่ลงทะเบียน ยกเว้นผลิตภัณฑ์ใดที่มีวันครบกำหนดก่อนวันที่ลงทะเบียน ให้มีผลในรอบเดือนถัดไป
- สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan ลูกค้าจะเริ่มชำระตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือฯ ในรอบบัญชีนี้ เมื่อลูกค้าได้ลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันก่อนวันครบกำหนดชำระ
- บัตรเครดิต, บัตรเงินด่วน Xpress Cash กรณีลงทะเบียนภายใน 5 วันทำการก่อนวันสรุปยอดบัญชี มีผลในรอบบัญชีปัจจุบัน
หากลงทะเบียนหลังจากนั้นจะมีผลในรอบบัญชีถัดไป