/th/promotion/pages/debenture-true3-67.aspx

วันนี้ - 27 พ.ค. 2567

หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 คาดว่าจะเสนอขายวันที่ 23-24 และ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 นี้

ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และ ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (เฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี)

จุดเด่น

  • บริษัท TRUE ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 30 ปี ในการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจร ทั้งเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ “ทรูมูฟ เอช” บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตภายใต้แบรนด์ “ทรูออนไลน์” โทรทัศน์ภายใต้แบรนด์ “ทรูวิชั่นส์” รวมถึงคอนเทนต์และบริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคมอื่นๆ
  • ณ สิ้นปี 2566 TRUE มีจำนวนลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 51.9 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 1% และมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G 10.5 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 12%
  • TRUE ถือหุ้นหลักโดยกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ร้อยละ 26.32, กลุ่มบริษัท Telenor ร้อยละ 26.32, กลุ่มซิทริน ร้อยละ 7.96 และ China Mobile ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะช่วยสนับสนุนบริษัทในด้านเทคโนโลยี 5G และอุปกรณ์สื่อสาร ร้อยละ 7.81
  • หลังการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC TRIS Rating ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มของ TRUE เป็น “A+” จากเดิม BBB+ สำหรับอันดับเครดิตองค์กร เนื่องจากสถานะทางการเงินของบริษัทหลังการควบรวมมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้นจากธุรกิจที่มีการขยายขนาด ส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันมีมากขึ้น ปัจจุบันเป็นเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมแบบไร้สายของไทย
  • ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทใหม่ที่ดีกว่าเดิม คาดว่าจะมีดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงเมื่อหนี้สินเดิมครบกำหนดชำระและต้องทำการ refinance
  • TRUE เคยออกหุ้นกู้มาแล้ว 149 ชุด ตั้งแต่ปี 2545** และมีประวัติชำระหนี้ที่ดีมาโดยตลอด
    *ข้อมูลจาก https://www.true.th/true-corporation/site/home
    **ข้อมูลจาก https://www.thaibma.or.th/ ณ วันที่ 25 มีนาคม 2567

วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้

[เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหนี้คงค้าง ภายในกรกฎาคม พ.ศ. 2567 และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท ภายในปี พ.ศ. 2567]

คำเตือนและความเสียงที่สำคัญ

  • ณ วันที่ 29 ก.พ. 67 กลุ่มบริษัทฯ ยังมีข้อพิพาทหลายคดีที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องและคดียังไม่สิ้นสุด โดยมูลค่าความเสียหายจากคดีความที่สำคัญตามที่ผู้ฟ้องคดีเรียกร้องคิดเป็นประมาณร้อยละ 149 ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 66 ซึ่งผลที่สุดของข้อพิพาททางกฎหมายดังกล่าวยังไม่สามารถคาดการณ์ได้กลุ่มบริษัทฯ จึงไม่ได้ตั้งสำรองทางบัญชีสำหรับรายการค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากรายการนี้ไว้ในงบการเงิน จากข้อพิพาทต่างๆ หากผลที่สุดไม่เป็นคุณกับบริษัทฯ อาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง และความสามารถในการชำระหนี้อย่างมีนัยสำคัญได้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีความคืบหน้าในการพิจารณาคดี ตามที่บริษัทฯ ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้ 1. ศาลปกครองสูงสุดได้มีคําสั่งให้ศาลปกครองกลางรับคําฟ้องที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ยื่นฟ้อง กสทช. เพื่อขอเพิกถอนมติ กสทช. ที่รับทราบการควบรวมธุรกิจระหว่างทรู และดีแทค ศาลปกครองกลางยังจะต้องพิจารณาประเด็นของคดีดังกล่าวต่อไปว่ามติรับทราบการควบรวมธุรกิจของกสทช. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และ 2. คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคําชี้ขาดให้บริษัทฯ ชําระผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่มจากรายได้ค่า IC (ส่วนต่างของผลประโยชน์ตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม หรือ Net IC) พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มและเบี้ยปรับ เป็นจํานวนเงิน 7,066.96 ล้านบาท และเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากเงินจำนวน 4,136.87 ล้านบาท (Net IC ไม่รวมเบี้ยปรับและภาษีมูลค่าเพิ่ม) นับถัดจากวันยื่นคำเสนอข้อพิพาท (22 ตุลาคม 2562) จนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน) (“เอ็นที”) ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วไม่เห็นพ้องกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และบริษัทฯ จะยื่นคำร้องขอเพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองกลางต่อไป รายละเอียดข่าวที่เกี่ยวข้อง / ความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทของบริษัท
    https://weblink.set.or.th/dat/news/202310
    /1756NWS301020232231290062T.pdf
    ,
    https://weblink.set.or.th/dat/news/202310
    /1756NWS311020232055210777T.pdf
  • ณ 31 ธ.ค. 66 กลุ่มบริษัทฯ มีเงินกู้ยืมจำนวน 365.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 353.7 พันล้านบาท จากสิ้นปี 2565 นอกจากนี้ บริษัทฯ ไม่มีข้อกำหนดในการดำรงอัตราส่วนทางการเงินแต่อย่างใด ซึ่งอาจทำให้บริษัทฯ ก่อหนี้ได้อย่างไม่จำกัด
  • กลุ่มบริษัทฯ มีสภาพคล่องต่ำ โดยสามารถชำระดอกเบี้ยได้แต่อาจไม่เพียงต่อการชำระเงินต้นกับภาระผูกพัน หากไม่สามารถจัดหาเงินมาให้เพียงพอ และในปัจจุบันแหล่งเงินทุนมาจากการออกหุ้นกู้เป็นหลัก
  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจได้รับดอกเบี้ยหรือเงินต้นไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย
  • หากลูกค้าต้องการขายก่อนครบกำหนด ให้ติดต่อธนาคารพาณิชย์/บริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้หาผู้ซื้อให้ (ธนาคาร/บล.อาจมิได้รับซื้อไว้เอง) แต่ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และ/หรือ อาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการโดยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและความต้องการของตลาดในขณะนั้น หรืออาจจะไม่สามารถหาผู้ซื้อได้เลยก็ได้ กรณีขายได้กำไร กำไรที่ได้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ตามหลักเกณฑ์กรมสรรพากร
“A+”  

อันดับความน่าเชื่อถือของ
หุ้นกู้และบริษัท “A+”

แนวโน้มเครดิต “Stable”  

แนวโน้มเครดิต
“Stable”

ระดับความเสี่ยง 3  

จากความเสี่ยง 8 ระดับ เทียบกับ
หุ้นกู้อื่นๆ โดยทั่วไปที่ระดับความเสี่ยง
อยู่ระหว่าง 1-5

จัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567
จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป

ช่องทางการจองซื้อ

เปิดจองซื้อผ่านเว็บไซด์ K-My Invest เปิดจองซื้อผ่านเว็บไซด์ K-My Invest  

หมายเหตุ

การจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest สามารถจองซื้อได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ถึงเวลา 23.30 น. ของวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 และตั้งแต่เวลา 8.30 ถึงเวลา 15.30 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 หรือตามดุลยพินิจของธนาคารฯ (ไม่เปิดจองซื้อวันเสาร์ - อาทิตย์)

การจองซื้อผ่านเว็บไซด์ K-My Invest

สามารถจ่ายด้วย K PLUS โดยชำระได้ 30 ล้านบาทต่อวัน (ไม่กินวงเงิน Bill Payment) หากต้องการจองซื้อมากกว่านี้ สามารถมาทำรายการในวันต่อไปในช่วงการจองซื้อ

เงื่อนไขการจองซื้อ

จะต้องเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่มีสัญชาติไทย และได้ลงทะเบียนฺพิสูจน์ตัวตนที่ระดับ IAL 2.3 แล้ว เช่น การลงทะเบียน NDID, การเปิดบัญชี K-eSaving, การสมัคร Line BK, และการทำแบบประเมิน CRR โดยมีข้อตกลง เงื่อนไข และข้อกำหนดซึ่งเป็นไปตามดุลยพินิจของ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย

สอบถามเพิ่มเติมที่

K-contact Center:
tel 02-8888888 กด 819

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

69-pricing : https://market.sec.or.th/IPOS/Debenture/GetQR.aspx?TransID=603460

69-BASE : https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=527817

คำเตือน

ทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

หมายเหตุ

บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

คำถามที่พบบ่อย

ใครซื้อหุ้นกู้นี้ได้บ้าง

ประชาชนทั่วไป ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้เยาว์ (ผู้เยาว์ คือ คนที่อายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ในวันจองซื้อ)

จองซื้อหุ้นกู้ผ่าน ช่องทางออนไลน์ K-My Invest และ ชำระเงินผ่าน K PLUS มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
  • จะต้องเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่มีสัญชาติไทย และที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 80 ปี
  • ได้ลงทะเบียนพิสูจน์ตัวตนที่ระดับ IAL 2.3 แล้ว เช่น การลงทะเบียน NDID, การเปิดบัญชี K-eSaving, การสมัคร Line BK, และการทำแบบประเมิน CRR
  • การจ่ายชำระผ่าน K PLUS ทำรายการได้สูงสุด 30 ล้านบาทต่อวัน (รวมธุรกรรมจองซื้ออื่นๆ ที่ผ่าน K-My Invest (ถ้ามี) แต่ไม่นับรวมวงเงิน Bill Payment) และต้องชำระเงินผ่าน KPLUS ภายใน 10 นาที หลังยืนยันรายการจองซื้อ มิเช่นนั้นรายการจะยกเลิกอัตโนมัติ
  • รับดอกเบี้ยเข้าบัญชี KBank ที่ผูกกับ K PLUS เท่านั้น
  • ผู้จองซื้อหุ้นกู้จะได้รับหลักฐานยืนยันการจองซื้อทันทีหลังจากทำรายการเสร็จสิ้น
ไม่ได้เป็นลูกค้าของ KBank ถ้าจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ K-My Invest ต้องทำอย่างไร

ในกรณีที่ยังไม่ใช่ลูกค้า KBank สามารถเป็นลูกค้า KBank ได้โดยการเปิดบัญชี e-saving ที่ https://kbank.co/2AdhTHz และไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM หรือตัวแทนธนาคารโดยไม่ต้องไปสาขา (เช่น ถ้าเปิดบัญชีช่วง 20:00 ของวันที่ 1 ถึง 6:00 ของวันที่ 2 จะใช้ได้หลัง 6:00 ของวันที่ 2)

กรณีจองซื้อผ่านสาขาสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการจองซื้อแทนได้ หรือไม่

ผู้จองซื้อสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการจองซื้อแทนได้ เฉพาะกรณีเป็นลูกค้า KBank ที่เคยทำ KYC / CDD และ suitability test (กับ KBank และอายุไม่เกิน 2 ปี) โดยต้องมีเอกสารมอบอำนาจอย่างถูกต้อง โดยผู้จองซื้อจะต้องแนบเอกสารประกอบการจองซื้อเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจยื่นต่อตัวแทนจำหน่ายหุ้นดังต่อไปนี้

  1. หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง ที่ลงนามถูกต้องครบถ้วนพร้อมปิดอากรแสตมป์ 30 บาท
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ (แล้วแต่กรณี) ของผู้มอบอำนาจ พร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง โดยลายมือชื่อนั้นจะต้องตรงกับลายมือชื่อที่ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจองซื้อทุกฉบับ
  3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง
เมื่อจองซื้อหุ้นกู้เรียบร้อยแล้วแสดงว่าได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอจัดสรรอีกหรือไม่

รายการจองซื้อจะสำเร็จเมื่อผู้จองซื้อหุ้นกู้ทำการจองและชำระเงินค่าจองซื้อครั้งเดียวเต็มจำนวนที่จองซื้อ

  • หากจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ K-My invest การจองซื้อสำเร็จจะได้ SMS/Email ยืนยันจากระบบ
  • หากจองซื้อผ่านสาขา สามารถตรวจสอบได้จากสาขาที่ท่านจองซื้อไว้
ผู้เยาว์ ซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ได้หรือไม่

ไม่ได้ บุคคลที่จะจองซื้อต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่จะทำรายการจองซื้อ

ชาวต่างชาติซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ได้หรือไม่

ได้ ให้แนบสำเนาใบต่างด้าวหรือสำเนาหนังสือเดินทางแทนบัตรประชาชนเวลามาจองซื้อ (และต้องมี Tax ID มิฉะนั้นอาจมีปัญหาตอนต้องการ claim ภาษีที่ถูกหักจากดอกเบี้ยไว้)

วิธีเลือกรับหลักทรัพย์ของหุ้นกู้ TRUE สามารถเลือกรับหลักทรัพย์ได้กี่แบบ

สามารถเลือกรับหลักทรัพย์ได้ 2 วิธี คือ 1. รับเป็นใบ 2. รับเข้าหลักทรัพย์ของลูกค้า เท่านั้น

จะได้หุ้นกู้เมื่อใด
  1. รับเป็นใบหุ้นกู้ : นายทะเบียนจะจัดส่งใบหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 15 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้
  2. รับเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า : นายทะเบียนจะฝากหุ้นกู้ให้ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้

กรณียังไม่ได้รับใบหุ้นกู้ หรือต้องการสอบถามสถานะการจัดส่งใบหุ้นกู้ ให้ติดต่อสอบถามที่นายทะเบียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เบอร์ติดต่อ 02-296-5999

หุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ จ่ายดอกเบี้ยทุกกี่เดือน และจ่ายดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อไหร่

ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ทุก ๆ 3 เดือน ในวันที่ [28 กุมภาพันธ์] วันที่ [28 พฤษภาคม] วันที่ [28 สิงหาคม] และวันที่ [28 พฤศจิกายน] ของทุกปีตลอดอายุของหุ้นกู้ ทั้งนี้ ผู้ออกหุ้นกู้จะทำการชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ [28 สิงหาคม] พ.ศ. 2567 และจะทำการชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละชุด (หรือในวันที่ผู้ออกหุ้นกู้มีการไถ่ถอนก่อนกำหนดสำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 5)

วันครบกำหนดที่จะได้รับเงินต้นคืนของหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ คือเมื่อใด
อายุหุ้นกู้ 1 ปี 3 เดือน2 ปี 6 เดือน3 ปี 3 เดือน5 ปี 3 เดือน10 ปี*
วันครบกำหนดวันที่ [28 สิงหาคม] พ.ศ. 2568วันที่ [28 พฤศจิกายน] พ.ศ. 2569วันที่ [28 สิงหาคม] พ.ศ. 2570วันที่ [28 สิงหาคม] พ.ศ. 2572วันที่ [28 พฤษภาคม] พ.ศ. 2577

*ทั้งนี้ หุ้นกู้อายุ 10 ปี เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนทั้งจำนวนหรือบางส่วน (ไม่ว่าคราวเดียวหรือหลายคราว) ในวันใด ๆ ก็ได้ ตั้งแต่วันครบกำหนด 5 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ ซึ่งคือวันที่ [28 พฤษภาคม] พ.ศ. 2572 โดยมีค่าธรรมเนียมสำหรับการไถ่ถอน 0.15% ของเงินต้นของหุ้นกู้ที่ผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด

touch  
 
หุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้มีความเสี่ยงอยู่ที่
ระดับใด

หุ้นกู้มีระดับความเสี่ยงดังนี้

อายุหุ้นกู้ 1 ปี 3 เดือน2 ปี 6 เดือน3 ปี 3 เดือน5 ปี 3 เดือน10 ปี
ระดับความเสี่ยงของหุ้นกู้33333

ทั้งนี้หุ้นกู้ทั่วไปโดยปกติระดับความเสี่ยงจะอยู่ที่ 1 - 5 จากความเสี่ยงทั้งหมด 8 ระดับ

touch  
 
สามารถขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้หรือไม่

สามารถทำได้ โดยติดต่อธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้ลองหาผู้ซื้อให้ได้ (ธนาคาร/บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ อาจไม่ได้รับซื้อไว้เอง) อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และอาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการ

เมื่อครบกำหนดแล้วอยากถือต่อ สามารถขอต่ออายุได้หรือไม่

ไม่ได้ แต่ KBank สามารถแนะนำโอกาสการลงทุนอื่นให้ได้

ใครคือนายทะเบียนของหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เบอร์ติดต่อ 02-296-5999