มีหลายคนที่จัดน้ำพุไว้ในบ้านเพราะเชื่อตามหลักของ ฮวงจุ้ยบ้าน ว่าถ้าสร้างน้ำพุจะเสริมเรื่องโชคชะตา เเต่ความจริงเเล้วเราจำเป็นจะต้องมีน้ำพุไว้ที่บ้านมั้ย? เเล้วถ้าคิดจะเสริมโชคลาภด้วยน้ำพุแบบที่ถูกต้องควรจัดยังไง?

ในทางฮวงจุ้ยบ้านนั้นน้ำพุคือสิ่งจำลองทางพลังงานที่เราสร้างขึ้นเอง ให้มีสภาพของการกระตุ้นโชคได้ตลอดเวลา 

ที่มาของ “น้ำพุจำลอง”

หลักการอย่างหนึ่งในการจัดฮวงจุ้ยบ้าน คือทำให้พลังงานลมนำกระแสพลังพัดไหลเข้าสู่ตัวบ้าน แต่ลมก็มีโอกาสหยุดนิ่งและเปลี่ยนทิศทางได้ในบางเวลา ในสมัยก่อนจึงใช้พลังงานน้ำไหลมาทดแทนพลังงานของลม
สมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าเพื่อมาต่อกับน้ำพุให้เกิดความเคลื่อนไหว เขาก็จะใช้วิธีเลี้ยงปลาตัวใหญ่ๆ เช่น ปลาคาร์ป ให้ว่ายกวนแหล่งน้ำบริเวณนั้นให้กระจายพลังงานมายังช่องประตูที่เป็นองศาโชคลาภของบ้าน

“การเลี้ยงปลาไม่ใช่เพื่อให้คนร่ำรวย แต่เราเลี้ยงปลาเพื่อให้มันช่วยสร้างความเคลื่อนไหวในตำแหน่งโชคลาภ ให้มันส่งพลังงานเข้ามายังประตูโชคลาภแทน”

ในปัจจุบันนี้เมื่อมีไฟฟ้าเราก็สามารถกำหนดให้โชคลาภกระจายตัวได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพึ่งการว่ายน้ำของปลา ก็คือการสร้างน้ำพุและเปิดใช้งานนั่นเอง

หลักการที่ถูกต้องของ “น้ำพุจำลอง”

เงื่อนไขสำคัญของการจัดสร้างน้ำพุจำลองคือองศาทิศทางของน้ำพุที่สัมพันธ์กับตัวอาคารและจะต้องมีสภาพที่เคลื่อนไหว นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับพลังงานในวันสร้างและการเริ่มเปิดใช้พลังงานจากน้ำพุว่าเป็นฤกษ์ยามในธาตุอะไร
น้ำพุที่จะก่อเกิดโชคลาภต้องสร้างแล้วเปิดให้น้ำเคลื่อนไหว คึกคัก ขนาดความกว้างควรจะให้ใหญ่กว่าความกว้างของประตูบ้าน มีทิศทางไปยังปากประตูบ้าน และจะต้องสร้างในฤกษ์ที่ดีด้วย 

ถ้ามีน้ำแล้วไม่เคลื่อนไหวเราก็จะมองสิ่งนั้นว่าเป็นธาตุน้ำจริงๆ ตามสภาพของธรรมชาติแทน ซึ่งในบางทิศนั้นถือว่าเป็นข้อห้าม ทิศที่ไม่ควรมีน้ำมากเกินไปคือทิศใต้ ทิศนี้ในทางฮวงจุ้ยบ้าน ถือว่าเป็นทิศธาตุไฟ การที่น้ำไม่เคลื่อนไหวก็จะกลายเป็นพลังงานธาตุน้ำจริงๆ ที่มาข่มกับทิศทาง เเต่ถ้าสร้างน้ำพุไปแล้วในทิศใต้ ทางแก้ไขก็คือหาฤกษ์ในธาตุที่ส่งเสริมดวงชะตาของบุคคลสำคัญในอาคารนั้นๆ และให้เปิดน้ำพุนี้ตลอดเวลา 
สำหรับในทิศทางอื่นๆ นั้นน้ำพุไม่ถือว่ามีสภาพการข่มทิศทาง แต่หากจะให้เกิดความเฮงก็ควรจะตกแต่งบรรยากาศและสีสันเพิ่มเข้าไป เช่น เสริมสีสันของไฟใต้น้ำให้เข้ากับธาตุพลังประจำทิศ และกำหนดหัวน้ำพุให้มีองศาที่ดี สัมพันธ์กับองศาโชคลาภของบ้าน มีทิศทางที่น้ำตกลงมาแล้วมุ่งเข้าสู่ตัวอาคารด้วย ก็จะเพิ่มความเป็นมงคลให้รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น

รูปแบบของน้ำพุก็สำคัญ

แนะนำว่าควรเป็นรูปแบบที่ขุดลงไปในดิน ยกขอบบ่อพ้นจากพื้นเล็กน้อยพอที่ดินหรือโคลนไม่ไหลเข้าไปในบ่อ น้ำพุแบบขอบบ่อเตี้ยนี้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำเป็นน้ำตกสูงใหญ่ เพราะหากทำสูงใหญ่และทำไม่ดีก็จะขวางกระแสทางลมและสร้างสภาพที่เป็น “สั่วะ” หรือมุมแหลมที่มีการทิ่มแทงเข้าหาประตูบ้านด้วย
ถ้าบ้านมีบริเวณกว้างและอยากจัดสวนไปด้วยขอแนะนำให้ปรึกษาซินแสผู้เชี่ยวชาญจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด ถ้าสามารถทำน้ำพุที่ถูกต้องได้ขอยืนยันเลยว่าท่านจะโชคดีกว่าบ้านที่ไม่ได้ทำน้ำพุอย่างแน่นอน เเต่ต้องทำอย่างถูกต้องเท่านั้น ถ้าทำอย่างสะเปะสะปะอาจเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี และอาจจะเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ง่ายด้วย 
หากสนใจคำปรึกษาด้านฮวงจุ้ยติดต่อสอบถามได้ที่สถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย หรือตามข่าวสารได้ทาง Facebook อ.มาศ ซินแสฮวงจุ้ย

สามารถติดตามต่อได้ในนิตยสาร Home Buyers Guide ฉบับตุลาคม 2560 สนใจสั่งซื้อนิตยสารได้ที่   www.home.co.th/home/bookclub

ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage

หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่  www.home.co.th/vdo  , www.youtube.com/tvhomebuyer