22/03/2566

10 แลนมาร์คน่าเที่ยว ประเทศอาเซียน

อาเซียน (ASEAN) หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (The Association of South East Asian Nations) นั้นมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได่แก่ พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา บรูไน และประเทศไทย ของเรานี่เอง ซึ่งแต่ละประเทศมีความน่าสนใจหลายด้านทั้งภาษา อาหาร วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม แต่เรายังไม่รู้เลยว่าแลนด์มาร์คสวย ๆ ตระการตาของแต่ละประเทศสมาชิกอยู่ที่ไหน วันนี้ Home Buyers จึงขอพา 10 แลนมาร์คน่าเที่ยว ประเทศอาเซียน มาแนะนำ บอกเลยว่าน่าเที่ยวทุกที่เลย งั้นอย่ารอช้าไปดูกันดีกว่าค่ะ Let’s Go!

1. เจดีย์ชเวดากอง, ประเทศพม่า 

เจดีย์ชเวดากอง คือมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญสูงสุดของประเทศพม่า ในนั้นบรรจุพระเกศาธาตุทั้ง 8 เส้นของพระพุทธเจ้าเอาไว้ โดยเจดีย์นี้มีความเก่าแก่และยาวนานกว่า 2,500 ปี ตั้งตระหง่าน ณ บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ซึ่งคำว่า ‘ชเว’ หมายถึงทองคำและ ‘ดากอง’ คือชื่อเมืองย่างกุ้งในอดีต ที่สำคัญ Guinness Book of Records ได้จัดให้พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก นับเป็นแลนมาร์คที่ชาวพม่าและนักท่องเที่ยวนิยมไปสักการะและขอพรไม่เคยขาดสาย อีกทั้งคนไทยสามารถเที่ยวพม่าได้ไม่เกิน 14 วันแบบไม่ต้องขอวีซ่าด้วยนะคะ

2. นครวัด, ประเทศกัมพูชา  

ถ้าพูดถึงประเทสกัมพูชาแล้วไม่พูดถึง ‘นครวัด’ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะปราสาทแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลก ภายใต้ชื่อ ‘เมืองพระนคร’ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความยิ่งใหญ่ จนได้รับยอมรับด้านสถาปัตยกรรมให้ติด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของอาเซียนด้วย โดย ตั้งอยู่ที่เมือง เมืองพระนคร จังหวัดเสียมราฐ ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ให้เป็นศาสนสถานประจำพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่เหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน

3. มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน,ประเทศบรูไนดารุสซาลาม


มัสยิดเก่าแก่ที่สุดของประเทศบรูไน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบันดาร์เสรีเบกาวัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ สุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 28 ของบรูไน โดยมัสยิดหลังนี้ได้รับการออกแบบและดำเนินการสร้างโดยสุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงนับเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวบรูไนทั้งประเทศ ที่สำคัญความงดงามของมัสยิดแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘มินิทัชมาฮาล’ ด้วยค่ะ

4. ประตูชัย,ประเทศลาว 


ประตูชัย หรือปะตูไซ นับเป็นอนุสรณ์สถานใจกลางเมืองหลวงเวียงจันทน์ เพื่อระลึกถึงประชาชน และทหารชาวลาวที่เสียสละชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามการกอบกู้​เอกราช​จากฝรั่งเศส สร้างเสร็จในปี พ.ศ 2512 ปะตูชัยถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง และมีกลิ่นอายของความเป็นประเทศลาวอยู่ในนั้นด้วย เช่น พระพุทธรูปศิลปะ ภาพมหากาพย์รามายะณะ เป็นต้น บวกกับการนำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธอย่าง กินรี พญานาค และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง ทำให้ทีนี้น่ามองและน่ามาเยี่ยมชมอย่างยิ่ง ที่สำคัญค่าชมถูกมากประมาณ 2,000 กลีบเท่านั้นเอง แบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้ว

5. ตึกแฝดเปโตรนาสทาวเวอร์, ประเทศมาเลเซีย


ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) เป็นอาคาร 88 ชั้น ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของย่านธุรกิจ อยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย หรือที่รู้จักกันดีในนาม KLCC ได้ชื่อว่าเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงอยู่ที่ 451.9 เมตร และมีทางเชื่อมระหว่างตึกเป็นสะพานลอยฟ้า ซึ่งมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์มากื มองจากที่ไกล ๆ รู้ทันทีว่าที่นี้คือที่ไหน ดังนั้นถ้ามาประเทศมาเลเซียแล้วไม่ได้มาที่แห่งนี้คือมาไม่ถึงจริง ๆ แถมยังถ่ายภาพได้สวยทั้งเวลากลางวันและกลางคืนด้วยนะคะ

6. เมอร์ไลออน, ประเทศสิงคโปร์


แม้ประเทศสิงคโปร์จะมีที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนสู้ ‘เมอร์ไลออน’ (Merlion) หรือรูปปั้นสิงโตทะเลได้เลย โดยเมอร์ไลออนมีความสูงมากกว่า 8.6 เมตร น้ำหนักมากกว่า 70 ตัน ทำจากซีเมนต์ ได้รับการออกแบบโดยนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ และถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ชื่อ ลิม นัง เส็ง (Lim Nang Seng) และเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 15 กันยายน ใน ปี 1972 บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ นับตั้งแต่เวลานั้นเมอร์ไลออนก็คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด ที่สำคัญเมอร์ไลออนไม่ได้มีแค่ 1 ตัว แต่มีถึง 5 ด้วยกัน ไปถึงแล้วอย่าลืมเช็คอินให้ครบทั้ง 5 ตัวนะคะ

7. บุโรพุทโธประเทศอินโดนีเซีย

ว่ากันว่าหนึ่งในศาสนสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนาก็คือ ‘บุโรพุทโธ’ (Borobudur Temple Compounds ประเทศอินโดนีเซียนี้นี่เอง โดยตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของเกาะชวา เมืองมาเกอลัง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.750-850 โดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ที่นับถือศาสนาพุทธ ทำให้มีการสร้างบุโรพุทโธมีรูปแบบมหายาน ที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของอินโดนีเชีย มีพื้นที่มากกว่า 55,000 ตร.ม. และได้รับยกย่องว่าให้เป็นมรดกโลกแล้ว

8. อ่าวฮาลอง, ประเทศเวียดนาม

ใครชอบธรรมชาติต้องไม่พลาดที่แห่งนี้ เพราะ ‘ฮาลอง เบย์’ (Halong Bay) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จาก UNESCO แล้ว ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามนัก (เป็นสวนหนึ่งของอ่าวตังเกี่ย) และมีชายแดนติดกับประเทศจีน โดยมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีเกาะหินปูนน้อยใหญ่ขึ้นอยู่ตามอ่าวกว่า 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล และมีน้ำเสาไม้ อีกทั้งในบริเวณแห่งนี้ยังมีชายฝั่งยาวถึง 120 กิโลเมตรอีกด้วย ทำให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามน่าอัศจรรย์ใจสุด ๆ มาแล้วต้องประทับใจกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แน่นอน

9. ป้อมปราการอินทรามูรอส, ประเทศฟิลิปปินส์

แลนด์มาร์คเด่นของมะนิลา ที่ไม่ว่าใครมาประเทศฟิลิปปินส์ก็ต้องมาเยือนที่แห่งนี้ให้ได้ เพราะที่แห่งนี้ถูกจัดเป็นมรดกอารยธรรมทางประวัติศาสตร์ด้วย โดยป้อมปราการมีความเก่าแก่มาก ถูกสร้างขึ้นในยุคล่าอาณานิคม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพาซิก กรุงมะนิลา มีความยาวประมาณ 4 เมตร และมีพื้นที่มากกว่า 395 ไร่  เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับชุมชนขนาดเก่าที่มีผังเมืองแบบตะวันตก ที่สำคัญที่นี่เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช่จ่ายใด ๆ ค่ะ

10. วัดพระแก้ว, ประเทศไทย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว สถานที่สวยงามน่าประทับใจของประเทศไทย โดยประดิษฐานพระแก้วมรกตไว้ด้านใน ได้รับการสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2325 พร้อมกับพระบรมมหาราชวังและกรุงรัตนโกสินทร์ วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกทางทิศตะวันออก มีระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามน่าประทับใจส่งผลให้ได้รับความนิยมมาก ๆ จากนักเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถือเป็นแลนมาร์คของประเทศไทยที่ไม่มาไม่ได้เลยค่ะ

               

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับ 10 แลนมาร์คน่าเที่ยว ประเทศอาเซียน ที่เรานำมาฝากนี้ ทุกสถานที่สวยงามน่าประทับใจมาก ๆ แถมทุกที่ยังไปง่าย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเยอะแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร ได้เวลาเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกัน เซฟบทความนี้ไว้แล้วเช็คอินให้ครบ!