เชื่อหรือไม่ว่า โรคภัยไข้เจ็บ บางทีก็เกิดจาก ฮวงจุ้ยบ้านทึบตัน และบางทีก็ส่งผลระยะยาวด้วย เพราะบางครั้งเรามักพลาดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป อย่างเช่นบ้านที่นิ่งสนิทไม่มีลมไหลผ่าน มืดไม่มีแสงจากภายนอกเข้ามาได้เลย ทำให้ต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน ลักษณะแบบนี้ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นบ้านทึบตัน (บ้านหยิน) ส่งผลเสียต่อคนในบ้านได้! แถมอารมณ์ยังหม่นหมองตามอีก แต่สำหรับใครที่สนใจอยากลองปรับแก้การจัดใหม่ภายในบ้าน Home Buyers ได้รวบรวมมาให้แล้ว!

ความทึบตันส่งผลเสียเรื่องอะไร ?

บ้านที่ลมไม่ไหลผ่าน แสงแดดส่องไม่ถึงก็จะก่อสภาพของความอับชื้น เนื่องจากลมทำหน้าที่ระบายอากาศภายในบ้านได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีก ถ้าขาด 2 สิ่งนี้ไปก็อาจทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยง่ายขึ้น คนในบ้านจึงต้องรู้จักจัดบ้านให้มีลมพัดและแสงแดดส่องเข้าถึงง่าย ๆ โดยเฉพาะบ้านทาวน์เฮ้าส์ต้องดู 2 สิ่งนี้ด้วยนะคะ แนะนำว่าบ้านควรหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้จะดีที่สุด เพราะเป็นทิศทางลมใหญ่ที่มีลมเกือบทั้งปียกเว้นแค่หน้าหนาวเท่านั้น แต่ถ้าบ้านหันไปทางทิศอื่นล่ะจะเป็นไง เรามาดูกัน

• บ้านหันทิศเหนือ ลมจะเข้าหลังบ้านแทน ทั้งยังมีบ้านหลังอื่นมาปิดบังลมจนมิดเข้าไปอีก
• บ้านหันทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก ยิ่งไม่ดีใหญ่ เพราะ 2 ทิศนี้มักไม่มีลมเข้าบ้านเลย แถมเป็นทิศทางของแดดให้สาดแสงส่องเข้าบ้านทั้งวันด้วย
• บ้านหันทิศใต้ ลมสามารถพัดเข้าทางหน้าบ้านได้เสมอ แม้จะมีบ้านอยู่ตรงข้ามแต่ก็มีถนนคั่นกลางทำให้เกิดช่องว่างให้ลมไหลผ่านมาได้บ้าง

เวลาอยู่บ้านเราควรเปิดประตูหน้าต่างทุกห้อง แม้แต่ประตูห้องน้ำก็ควรเปิดเพื่อให้ลมไหลจากหน้าบ้านไปหลังบ้านได้ ถือเป็นการไล่ความอับชื้นออกไป ดังนั้นการจัดบ้านควรจัดแบบเปิดโล่งไม่มีการกั้นห้องและหน้าบ้านมากเกินไป แม้จะมีการต่อหลังคาโรงรถก็ควรทำหลังคายกสูงด้วย พร้อมเจาะช่องแสงบนหลังคาโรงรถกันไม่ให้บ้านมืด และลมพัดผ่านได้ดีไม่แพ้ส่วนอื่นของบ้าน

ลักษณะของบ้านแต่ละแบบที่ควรระมัดระวัง

บ้านเดี่ยว

อย่าคิดว่าจะไม่ทึบตัน เพราะบางบ้านแม้มีประตูหน้าต่างรอบบ้านก็จริงแต่ก็ไม่ค่อยเปิดเลย บางบ้านไม่เคยเปิดเลยก็มี และหากทิศนั้นเป็นทิศทางลมด้วยแล้ว ยิ่งกลายเป็นไปอุดช่องลมเข้าไปอีก หรือบ้านที่มีการกั้นห้องภายในบ้านหลายห้องทำให้บ้านทึบทั้งลมและแสง เวลาเดินเข้าบ้านมีแต่ความทึบตันไม่น่าอยู่ ดังนั้นบ้านที่มีลักษณะทึบตันตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของคนในบ้าน เพราะลมกับแสงแดดไม่สามารถเข้าบ้านได้ บ้านก็จะเกิดความอับชื้นส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาได้ง่ายนั่นเอง ยิ่งใครเป็นโรคภูมิแพ้ด้วยแล้วยิ่งต้องระวัง

บ้านทาวน์เฮ้าส์

แนะนำให้เลือกห้องมุมจะดีที่สุด แต่ถ้ากำลังทรัพย์ไม่พอจำเป็นต้องเลือกห้องอื่น สามารถแก้ไขที่หน้าบ้านกับหลังบ้านก่อน โดยด้านหน้าบ้านให้ทำหลังคาแบบใสแทน จะทั้งหมดหรือเจาะหลังคาเป็นช่วงก็ได้เพื่อดึงแสงให้ส่องเข้าบ้าน ส่วนด้านหลังที่เป็นครัวทึบให้เจาะหลังคาติดเครื่องดูดอากาศแล้วทำหลังคาใส เพื่อให้อากาศถ่ายเทพร้อมเพิ่มแสงสว่างให้กับบ้านเพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้ควรเปิดประตูห้องที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไว้ตลอดเวลา อากาศจะได้ไหลเวียนตลอดวัน ไม่อับแถมยังน่าอยู่ยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีหลายห้องก็ให้ปิดไว้ซัก 1-2 ประตูก็ได้ เช่น มี 3 ห้องควรเปิดซัก 2 แล้วปิดแค่ 1 ก็พอแล้ว ที่สำคัญประตูห้องน้ำควรเปิดแง้มไว้บ้างก็ดี

แนะนำเพิ่มเติม 

• ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้บ้าง คือไม่ควรเข้าใจผิดว่าไม่ควรเปิดเลย กลิ่นไม่ดีก็ให้อยู่ห้องน้ำแบบนั้นล่ะอะไรแบบนี้ ในทางตรงกันข้ามมันต้องเปิดบ้าง ยิ่งเป็นห้องที่มีมลภาวะที่เสียก็ยิ่งต้องเอาออกไปให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประตูหรือช่องระบายอากาศก็ต้องเปิดบ้าง อาจมีข้อยกเว้นเพียงกรณีเดียวคือ ประตูห้องน้ำดันอยู่ในห้องนอนด้วย ถ้ามีคนนอนอยู่ในห้องก็ควรจะปิดเอาไว้ แต่ถ้าตื่นแล้วไม่มีใครอยู่ในห้องก็ควรเปิดเช่นเดียวกัน
• จำนวนสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์มีส่วนทำให้บ้านทึบตันได้เหมือนกัน หมายถึง จำนวนสิ่งของที่มากอาจไปแย่งพื้นที่ภายในบ้านแทน ทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นควรเปิดโล่งหรือมีแสงส่องถึง เช่น เอาสิ่งของไปไว้ตรงหน้าต่างจนล้นสูงปิดบังหน้าต่างจนเปิดไม่ได้ ซึ่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างพวกตู้ ชั้นโชว์ ชั้นวางหนังสือ หรือเตียงนอนที่มีหัวเตียงสูงเลยขอบหน้าต่างจนไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้

เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้หลายคนอาจมองข้ามและมักพูดว่า "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย" คำพูดแบบนี้ล่ะที่มักจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ โรคภัยไข้เจ็บ บางทีก็เกิดจาก ฮวงจุ้ยบ้านทึบตัน ได้เช่นเดียวกับสาเหตุสำคัญอื่น ๆ ถือเป็นการดูตั้งแต่ต้นเหตุนั่นคือลมและแสงแดดที่ควรจะเข้าบ้านได้ก็ต้องได้เข้า ถือเป็นฮวงจุ้ยดีต่อบ้านเราอย่างแท้จริง 

ติดตามไอเดียตกแต่งบ้าน คอนโดฯ เกร็ดความรู้คู่บ้าน www.home.co.th/hometips/decoration 

อ่านบทความอื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/hometips

ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage