นายจิตตะกอน สุกสมบูน ผู้อำนวยการกลุ่มบริษัท สุกสมบูน เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอ
ยู) กับบริษัทปูนซีเมนต์ของไทยแห่งหนึ่ง เพื่อเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทของกลุ่ม แต่ไม่สามารถเปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้น
และเม็ดเงินในการลงทุนได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการเจรจาอยู่

"เราเลือกบริษัทแห่งนี้ เพราะมีประวัติในการทำธุรกิจมายาวนาน และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ส่วนเหตุผลที่สนใจร่วม
ทุนเพราะเราเพิ่งได้รับอนุมัติจากรัฐบาลลาวให้ขุดดิน วัตถุดิบ หินปูน ดินเหนียว ให้โรงงานซีเมนต์ ลาวพัฒนา ของบริษัท
อุตสาหกรรมซีเมนต์ลาดพัดทะนา ที่มีกำลังการผลิต 5,000 ตันต่อปี ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี และสามารถต่อได้อีก 50 ปี
โดยแหล่งวัตถุดิบนี้ เป็นแหล่งหินปูนที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งอยู่ในที่ดินของบริษัทด้วย บนเนื้อที่มากกว่า
6,000 ไร่"นายจิตตะกอน กล่าว นางมาลิสา สุกสมบูน รองผู้อำนวยการกลุ่มบริษัท สุกสมบูน กล่าวว่า บริษัทปูนของไทยที่
จะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทในกลุ่ม ส่วนหนึ่งเกิดจากแหล่งวัตถุดิบที่จ.สระบุรี ใกล้จะหมดแล้ว คาดว่าจะรองรับกับการผลิต
ได้อีกไม่เกิน 15 ปี

นอกจากนั้น การลงทุนในโรงงานที่ใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว ตั้งอยู่ในแขวงคำม่วน อยู่ในทำเลที่ดีมาก สามารถส่งออก
ไปขายในหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว และประเทศใกล้เคียง

"ธุรกิจปูนแหล่งวัตถุดิบนับเป็นหัวใจสำคัญ และโรงปูนที่คำม่วนจะก่อสร้างเสร็จในปี 2558 รองรับการเปิดเออีซีได้
พอดี"นางมาลิสา กล่าว

ปัจจุบันธุรกิจปูนซีเมนต์สร้างรายได้ให้กับกลุ่มประมาณ 700-800 ล้านบาท หากโรงปูนแห่งนี้เสร็จจะสร้างรายได้ให้
สัดส่วนถึง 70 % ขณะเดียวกันความต้องการใช้สูงมาก เพราะอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและไอเอ็มเอฟคาด
เศรษฐกิจในปี 2556-2557 จะเติบโตปีละ 8 %ทั้งนี้ กลุ่มได้แต่งตั้ง บล.เอพีเอ็มลาวเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และจัด
โครงสร้างธุรกิจเพื่อนำธุรกิจปูนซีเมนต์เข้าตลาดหลักทรัพย์ลาวในปี 2557 และบริษัทได้ว่าจ้างบริษัท ไพร์ชวอเตอร์เฮ้าส์
(ลาว)เป็นผู้สอบบัญชี