18/09/2556

วัสดุแต่งบ้านแข่งเดือดงัดจุดขายเด่นชิงลูกค้าปลายปี

จากแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะโครงการ
คอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการแยกครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจต่อเนื่อง
อย่างสินค้าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การแข่งขันของธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์นับวันจะมีความรุนแรง และจากการมี
น้องใหม่รายใหญ่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ คงจะทำให้ภาพรวมตลาดมีการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้นอีก

สำหรับแบรนด์น้องใหม่ที่โดดเข้ามาทำตลาดสินค้าตกแต่งบ้านรายล่าสุดนั้นก็คือ บ้าน แอนด์ บียอนด์ ของกลุ่มบริษัท
บ้าน แอนด์ บียอนด์ โฮมเวิร์ค ไทวัสดุ และพาวเวอร์บาย บริษัท ซีอาร์ซีไทวัสดุ ในเครือบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น
หรือซีอาร์ซี

สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บ้าน แอนด์ บียอนด์ โฮมเวิร์ค ไทวัสดุและพาวเวอร์บาย
บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ กล่าวว่าการเปิดตัวแบรนด์ บ้าน แอนด์ บียอนด์ หรือดีพาร์ตเมนต์สโตร์สำหรับบ้านเข้ามาทำตลาด
ในครั้งนี้ถือเป็นการเติมเต็มให้กับธุรกิจ จากเดิมมีแบรนด์ไทวัสดุเน้นจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และแบรนด์โฮมเวิร์ค เน้น
จำหน่ายอุปกรณ์ต่อเนื่องจากการสร้างบ้านขณะที่แบรนด์บ้าน แอนด์ บียอนด์ จะเน้นจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน

ในด้านของจุดเด่นการทำตลาดของ บ้าน แอนด์ บียอนด์คือจะเน้นไปที่การจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ครบวงจร ด้วย
การรวบรวมสินค้าแบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ร้านค้ามาให้บริการ ซึ่งในส่วนของสินค้าที่นำมาจำหน่ายก็จะเน้นไปที่ฟังก์ชัน
การใช้งาน มีดีไซน์ที่สวยงาม และราคาซื้อง่าย

เบื้องต้น ซีอาร์ซี ขอทดลองทำตลาดแบรนด์ บ้าน แอนด์บียอนด์ จำนวน 2 สาขาในปลายปีนี้ ภายใต้งบลงทุน 1,500
ล้านบาท เริ่มด้วยสาขาเชียงใหม่ เปิดให้บริการประมาณเดือนพ.ย. และตามด้วยสาขาขอนแก่น เปิดให้บริการประมาณเดือน
ธ.ค. หากภายใน 6 เดือนหลังจากเปิดให้บริการได้ผลการตอบรับที่ดีก็จะทำการเปิดสาขาต่อไปทั้งในกรุงเทพฯ และ
ต่างจังหวัด เพื่อให้สิ้นปี2557 มีจำนวนสาขาครบ 5-6 สาขา

นอกจากนี้ ซีอาร์ซี ยังมีแผนที่จะนำแบรนด์ บ้าน แอนด์บียอนด์ เข้ามาแทนที่แบรนด์โฮมเวิร์ค หากทดลองเปิด
ให้บริการในบริเวณใกล้เคียงกันแล้ว แบรนด์ บ้าน แอนด์บียอนด์ ได้ผลการตอบรับที่ดีกว่า ซึ่งจากการออกมาเปิดตัวแบรนด์
น้องใหม่ในครั้งนี้ ซีอาร์ซี มั่นใจว่าสิ้นปี 2557 จะมีรายได้จากแบรนด์ดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวม
รายได้ของทั้งสามแบรนด์ สิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท

ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหารฝ่ายงานการตลาด กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่าการที่กลุ่มเซ็นทรัลจะ
หันมารุกตลาดสินค้าของตกแต่งบ้าน ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้ภาพรวมตลาดสินค้าตกแต่งบ้านคึกคักมากขึ้น ซึ่งใน
ส่วนของกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทยังคงเน้นไปที่การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์

ขณะที่ ณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า โฮมโปรเน้น
จำหน่ายทั้งกลุ่มวัสดุก่อสร้างหนัก และสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่ใช้ในชีวิต

ประจำวันเป็นหลัก ไม่เน้นสินค้าตกแต่งบ้านมากนักซึ่งการเข้ามาทำตลาดสินค้าตกแต่งบ้านของกลุ่มเซ็นทรัลจึงไม่น่า
ส่งผลกระทบกับยอดขายของโฮมโปรเพราะปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากถึง59 สาขาทั่วประเทศ

ลาเซีย เชอร์ล็อค ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางนาบริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การทำตลาดของอิเกียยังคงเน้นไป
ที่ 3 กลยุทธ์หลัก คือ คุณภาพ

สินค้า ดีไซน์ และราคาย่อมเยา ซึ่งในส่วนของราคาบริษัทยังคงยึดนโยบายการตั้งราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งภายในประเทศ
มากกว่า 10-20%

ด้าน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 19 สาขา ซึ่งกลยุทธ์ที่นำมาใช้เพื่อดึง
ลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ยังคงเน้นไปที่การนำเสนอสินค้าของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ที่ตรงกับ
ความต้องการของลูกค้า พร้อมเสนอบริการต่างๆ

จากการแข่งขันที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี
2556 น่าจะมีอัตราเติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 15% ถือว่ามากที่สุดในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่เติบโตปีละประมาณ 10%ตราบ
ใดที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เมื่อนั้นตลาดฟอร์นิเจอร์และของ
ตกแต่งบ้านยังคงเติบโตต่อเนื่องตามไปด้วย