นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์ สำนักงานบริหารแบรนด์ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด
เปิดเผยว่า ปีนี้คอตโต้บุกตลาดกระเบื้องแบบจัดเต็ม โดยจับมือกับพันธมิตรระดับโลกคือ ฟลอริม กรุ๊ป (Florim
Group) ที่เอสซีจีร่วมถือหุ้นอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์กระเบื้องชื่อดังอย่างฟลอเกรส (Floorgres) และเร็กซ์ (Rex)
รวมทั้งพันธมิตรอื่นๆ เช่น มูติน่า (Mutina) และลามินั่ม (Laminam) เพื่อสร้างสรรค์กระเบื้องในคอลเลกชัน คอต
โต้ อิตาเลีย ที่มีการวางคอนเซ็ปต์ร่วมกันระหว่างดีไซเนอร์ของคอตโต้และพันธมิตร ผสมผสานกับขีด
ความสามารถระดับมาตรฐานโลกในการผลิตกระเบื้องขนาดใหญ่ เพื่อขยายศักยภาพรองรับความต้องการสินค้า
ระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ คอตโต้มีแผนที่จะโปรโมต คอตโต้ อิตาเลีย ไปในตลาดโลก ภายใต้แบรนด์คอตโต้อีก
ด้วย

ทั้งนี้ ความต้องการกระเบื้องขนาดใหญ่ระดับไฮเอนด์ในไทยมีมูลค่าประมาณ 1,000-4,000 ล้านบาท คิดเป็น
สัดส่วนไม่ถึง 10% ของตลาดกระเบื้อง แต่ที่ผ่านมายังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว
เป็นตลาดที่ค่อนข้างเฉพาะหรือนิช ดังนั้นต้องให้ข้อมูลกับตลาดเพื่อให้รับรู้ว่ามีสินค้าในตลาด สำหรับช่วงแรกจะ
ผลิตจากอิตาลีและนำเข้ามาทำตลาดในไทย โดยตั้งเป้ายอดขายกระเบื้องคอลเลกชันคอตโต้ อิตาเลีย ประมาณ 200
ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมการตลาดเพื่อเปิดตัวคอตโต้ อิตาเลีย จะมีภาพยนตร์โฆษณา และการนำคอตโต้ อิตาเลียไปใช้
ตกแต่งในโครงการที่สำคัญ เช่น ห้องน้ำในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้เห็นถึงคุณสมบัติเด่นของคอตโต้ อิตาเลีย
ในด้านความแข็งแรงทนทาน สวยงามสมจริง เหมือนไม้และหินธรรมชาติ

นายอนุวัตรกล่าวถึงตลาดกระเบื้องของไทยปีนี้แนวโน้มเติบโตดี ขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อน เติบโตตามสภาพ
เศรษฐกิจใกล้เคียงกับจีดีพี โดยปีที่ผ่านตลาดเติบโตประมาณ 10% หรือ 170 ล้าน ตร.ม. สำหรับปีนี้คาดการณ์
ขยายตัวประมาณ 5% ในส่วนกระเบื้องภายใต้เอสซีจี ทั้ง 4 บริษัทมีกำลังการผลิตรวมกัน 108 ล้าน ตร.ม. ส่วนฐาน
ผลิตในต่างประเทศ อินโดนีเซีย 27 ล้าน ตร.ม. ฟิลิปปินส์ 12 ล้าน ตร.ม. เวียดนาม 75 ล้าน ตร.ม. จัดเป็นผู้ผลิต
กระเบื้องรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของเอสซีจีที่จะเป็นฐานการผลิตใหญ่ระดับโลก
และเป็นบริษัทชั้นนำ 1 ใน 5 อันดับแรกของโลกด้านยอดขายภายใน 5 ปี คาดว่าน่าจะทำได้ตามเป้าหมายภายในปี
นี้

สำหรับการโปรโมตแบรนด์คอตโต้เพื่อสร้างแบรนด์สู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน ในงานมิลานแฟร์นั้นคอตโต้จะ
ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง รวมทั้งนำเสนอกระเบื้องมา
โมแกรนิโต้คอลเลกชันใหม่ในงานนี้ด้วย

อนึ่ง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย เข้าถือหุ้นในบริษัทผู้ผลิตกระเบื้องในเครือรวม 4 บริษัท ประกอบด้วย 1) บริษัท โสสุ
โก้ เซรามิค จำกัด 2) บริษัท เดอะ สยามเซรามิคกรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (เอสจีไอ) และ 3) บมจ.ไทย-เยอรมัน
เซรามิค อินดัสทรี่ รวมถึงบริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด บริษัทลูกของปูนซิเมนต์ไทย นอกจากนี้ยังมี
เครือข่ายฐานการผลิตในต่างประเทศ ด้วยการเข้าซื้อกิจการโรงงานในธุรกิจเซรามิก และจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
ในประเทศอินโดนีเซีย จากบริษัท PT Keramika Indonesia Assosiasi Tbk หรือ KIA ผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกราย
ใหญ่ของอินโดฯ ถือหุ้นในธุรกิจกระเบื้องเซรามิก ของ Mariwasa (Mariwasa-Siam Ceramics, Inc) ในประเทศ
ฟิลิปปินส์ และล่าสุดเมื่อปี 2555 เข้าถือหุ้นสัดส่วน 85% ในไพร์ม กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจโรงงานกระเบื้องเซรามิกใน
ประเทศเวียดนามซึ่งมี 6 โรงงาน ทำให้ปัจจุบัน เอสซีจี กลายเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในด้านกำลังการผลิต