30/09/2554

กระจก"อาซาฮี"เพิ่มมูลค่าสินค้าเน้นหนักเพิ่มแชร์กลุ่มแปรรูปเจาะตลาดที่อยู่อาศัย-อาคารสูง

นายทรงพล บำเพ็ญสันติ ผู้จัดการกองการตลาด บริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า
ตลาดกระจกพื้นฐานในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะตลาดส่งออกเนื่องจากเป็นสินค้าที่เหลือจากการแปรรูป
และจำหน่ายในประเทศ โดยบริษัทมีกำลังการผลิตกระจกพื้นฐาน600 ตันต่อวัน ซึ่งสามารถรองรับการขายใน
ประเทศและแปรรูปเป็นสินค้าอื่นๆ ประมาณ 60-70% ของกำลังผลิตทำให้กำลังผลิตส่วนที่เหลือ 30-40% ต้อง
ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ

สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศ ทางบริษัทฯ เน้นขายสินค้าเข้าสู่โครงการผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่70
รายทั่วประเทศ และเพื่อรองรับการขยายตัวของกำลังซื้อทางด้านที่อยู่อาศัย และโครงการอาคารสูงที่เติบโตอย่าง
ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการหรือที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยและเน้นเรื่องการลดใช้
พลังงาน ทางบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายที่จะให้ความสำคัญต่อการผลิตสินค้าแปรรูปในกลุ่มกระจกลามิแทคเพื่อ
เพิ่มมูลค่า ที่มีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนให้แก่ที่อยู่อาศัยและอาคารสูง ขยายฐานผู้ใช้โดยตรงให้เพิ่มมากขึ้น

ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ ลามิแทค-อี ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยแบบซอฟต์โคตโลว์อี เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภค พร้อม
ทั้งทุ่มงบการทำตลาดและประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 30% ในการสร้างความเข้าใจและเพิ่มการรับรู้
ในกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดกระจกลามิแทคมีอัตราการขยายตัวต่อปี 5-10% มีมูลค่าตลาดรวม 1,200 ล้านบาท โดยบริษัทมี
ส่วนแบ่งตลาดกระจกลามิแทครวมอยู่20% ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราเติบโต
เพิ่มขึ้น20% ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 25% ภายในปีนี้

"ปัจจุบันตลาดรวมกระจกในกลุ่มก่อสร้างมีมูลค่ารวมประมาณ12,000 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถคุมส่วน
แบ่งตลาด 40% หรือมียอดขายอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายรวมจากกลุ่มตลาดรถยนต์ ส่งออก และ
ก่อสร้าง อยู่ที่ 8,000 ล้านบาทต่อปีคาดว่าตลาดรวมในปี 54 จะขยายตัวอยู่ที่ 5%"