นายพิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ เซกิซุย เคมิคอล ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสร้างบ้านในประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ผลิตบ้านระบบโมดูลาร์ (Modular) รายใหญ่ของญี่ปุ่น นำนวัตกรรมบ้านระบบโมดูลาร์ดังกล่าวเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อตอบโจทย์ในด้านการใช้ชีวิตที่ สะดวกสบาย ปลอดภัย ความคุ้มค่าของการอยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตลอดอายุการใช้งานของบ้าน ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ ได้มีการจัดตั้ง 2 บริษัทขึ้นมาดำเนินการ คือ บริษัท เซกิซุย-เอสซีจี อินดัสทรี จำกัด ดูแลการผลิตส่วนประกอบของบ้านที่จะนำมาประกอบเป็นบ้านระบบโมดูลาร์ โดย เซกิซุย เคมิคอล ถือหุ้น 51% เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 49% และบริษัท เอสซีจี-เซกิซุย เซลส์ จำกัด ดูแลการให้บริการสร้างบ้านโดยนำเอา ส่วนประกอบที่ผลิตขึ้น มาประกอบเป็นบ้านและขายให้ลูกค้า โดยเอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างถือหุ้น 51% เซกิซุย เคมิคอล 49% นวัตกรรมบ้านระบบโมดูลาร์นี้ จะถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ภายใต้ชื่อ “SCG-HEIM” ซึ่งการสร้างบ้านในระบบนี้ ส่วนประกอบของบ้านกว่า 80% ถูกผลิตในโรงงาน และประกอบเป็น โมเดลสำเร็จรูป แล้วจึงนำไปติดตั้งที่หน้างาน ใช้เวลา 1-2 วัน แตกต่างจากเทคโนโลยีการสร้างบ้านแบบอื่นๆ ใน ปัจจุบัน นอกจากนี้ บ้านยังได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายตลอดอายุของบ้าน ทางด้าน นายวชิระชัย คูนำวัฒนา ผู้บริหารโครงการบ้านระบบโมดูลาร์ กล่าวเสริมว่า ในช่วงแรกของ การเปิดตัวบ้านระบบโมดูลาร์ จะมุ่งทำตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง มี กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้า End User รวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทรับสร้างบ้าน สำหรับการร่วม ลงทุนในครั้งนี้ มีกำลังการผลิต 220 หลังต่อปี และจะเริ่มทำตลาดต้นปีหน้า โดยตั้งเป้ายอดขาย 100 หลัง ภายใน สิ้นปี 2553>