31/10/2552 SCGเจ้าตลาดกระเบื้องโลก รวบ4บริษัทตั้งโสสุโก้&กรุ๊ป ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ภายหลังจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ "SCG" ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ "ทีจีซีไอ" เมื่อปีที่ผ่านมา และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ส่งผลให้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทยกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกระเบื้องปูพื้นและบุ ผนังรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก เพราะเมื่อนับรวมกำลังการผลิตกระเบื้องของปูนซิเมนต์ไทยและบริษัท ต่างๆ ที่เข้าถือหุ้นผ่านบริษัทในเครือรวม 4 บริษัท ประกอบด้วย 1) บริษัท โสสุโก้ เซรามิค จำกัด 2) บริษัท เดอะ สยามเซรามิคกรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (เอสจีไอ) และ 3) บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสท รี่ รวมถึงบริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด บริษัทลูกของปูนซิเมนต์ไทยจะมีกำลังผลิตกระเบื้อง สูงสุดรวมกันถึงปีละกว่า 120 ล้านตารางเมตร สำหรับการซื้อหุ้นใน "ทีจีซีไอ" ที่ผ่านมาถือเป็นดีลใหญ่ในวงการกระเบื้องเซรามิกที่เกิดขึ้นอีกครั้งในยุค ของ "กานต์ ตระกูลฮุน" ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หลังจาก ในช่วงวิกฤตฟองสบู่ปี 2540 "กานต์" ถือเป็นคนสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้ปูนซิเมนต์ไทยเข้าซื้อหุ้นใน บริษัทโสสุโก้ เซรามิค และบริษัทเดอะ สยามเซรามิคกรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ และยังเป็นคีย์แมนที่ปรับนโยบาย การผลิตกระเบื้อง "คอตโต้" ใหม่ จากสินค้าที่มีลวด ลายธรรมดามาสู่สินค้าที่เป็น "นวัตกรรม" จนสามารถ ส่งออกไปทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ ล่าสุด บมจ.ปูนซิเมนต์ไทยกำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการรวมการ บริหารงานด้านการตลาดและการขายของทั้ง 3 บริษัทที่ถือหุ้นผ่านบริษัทในเครือเข้าด้วยกัน ได้แก่ โสสุ โก้ เซรามิค เดอะ สยามเซรามิคกรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ และไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ นายกิตติชัย ไกรก่อกิจ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ เซรามิค จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทโสสุโก้เซรามิค, เอสจีไอ และทีจีซีไอ ได้ตั้ง บริษัทใหม่ในเครือภายใต้ชื่อ "โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008)" เพื่อรองรับการรวมงานบริการด้านการตลาด และการขายสินค้าเซรามิกของ 3 บริษัทเข้าด้วยกัน วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด การ ขาย และอำนวยความสะดวกการติดต่อให้กับร้านผู้แทนจำหน่ายในฐานะคู่ค้า "ถ้านับแบรนด์กระเบื้องเซรามิกของทั้ง 3 บริษัทที่มีอยู่ตอนนี้ถือว่ามีหลากหลายมาก เท่าที่ทราบนโยบาย ของปูนซิเมนต์ไทยยังคงต้องการรักษาทุกแบรนด์เอาไว้ การจัดตั้งบริษัทโสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ปฯขึ้นมาจึงช่วย ให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และตัวผมเองได้ควบตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในบริษัทใหม่ด้วย" สำหรับการผลิตสินค้าอาจมีกระเบื้องบางรุ่นที่จับตลาดทับซ้อนกันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ทาง บมจ.ปูนซิ เมนต์ไทยมีการวางตำแหน่งสินค้าตามเซ็กเมนต์ โดยคาดว่าแบรนด์ "คอตโต้" ที่ผลิตโดย บมจ.ปูนซิเมนต์ ไทยเอง จะวางตำแหน่งเป็นสินค้าจับตลาดระดับกลางถึงบน เน้นผลิตกระเบื้องที่เป็นนวัตกรรม ทั้งในด้าน การออกแบบและกระบวนการผลิต อาทิ กระเบื้องรุ่นพิมายซีรีส์ที่จำลองลวดลายมาจากปราสาทหินพิมาย ฯลฯ ส่วนกระเบื้อง "โสสุโก้-คัมพานา" และแบรนด์อื่นๆ ที่ผลิตโดยบริษัทโสสุโก้เซรามิค เอสจีไอ และทีจีซีไอ จะวางตำแหน่งเป็นสินค้าจับตลาดระดับกลางล่างไปจนถึงกลางบน ทั้งนี้ ตัวสินค้ากระเบื้องแต่ละแบรนด์ จะมีความแตกต่างกันในแง่การออกแบบอยู่แล้ว เช่น "ทีจีซีไอ" จะถนัดการออกแบบกระเบื้องประเภท เลียนแบบหินธรรมชาติ "โสสุโก้" และ "เอสจีไอ" ชำนาญการผลิตกระเบื้องเซรามิก เป็นต้น ดังนั้นการ ส่งออกกระเบื้องของทั้ง 3 บริษัทจะใช้ตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศแยกออกจาก แบรนด์ "คอตโต้" อย่างชัดเจน นายกิตติชัยกล่าวต่อว่า ในอนาคตการกำหนดแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ ทำกิจกรรมการตลาด และวาง โครงสร้างเทรดโปรโมชั่น (ส่วนลดสินค้าจากยอดสั่งซื้อ) กับร้านผู้แทนจำหน่ายจะง่ายขึ้น เพราะงบฯ การตลาดทั้งหมดจะถูกรวมไว้ที่บริษัทเดียวกัน ส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลดลง และ สามารถนำงบฯส่วนนี้ไปใช้ทำกิจกรรมการตลาดได้เพิ่มขึ้น อาทิ การทำแคมเปญ การทำเทรดโปรโมชั่น ฯลฯ ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของการจัดตั้งบริษัทโสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ปฯ ยังรวมถึงการขยายตลาดส่งออก เพราะ ปัจจุบันทั้ง 3 บริษัทมีกำลังผลิตรวมกันกว่า 80 ล้านตารางเมตรต่อปี แยกเป็นโสสุโก้ฯกว่า 40 ล้านตาราง เมตร เอสจีไอ 13 ล้านตารางเมตร และทีจีซีไอกว่า 25 ล้านตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของ ตลาดรวมในประเทศที่ประเมินไว้ว่าปีนี้จะมีความต้องการใช้ 130 ล้านตารางเมตร ถือว่าค่อนข้างสูง ประกอบกับปัจจุบันตลาดกระเบื้องในประเทศไม่ได้มีเพียงคู่แข่งจากประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึง กระเบื้องราคาถูกจากประเทศอินโดนีเซียที่ดีลเลอร์ผู้จำหน่ายวัสดุรายใหญ่มีการนำเข้ามาจำหน่ายเอง เพิ่มขึ้น ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 2553 บริษัทโสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ปฯจะเดินหน้าแผนการตลาดเชิงลึกเพื่อเจาะตลาด ส่งออกเต็มตัว ในเบื้องต้นตั้งเป้าสัดส่วนส่งออก 30% ของกำลังผลิตรวมทั้ง 3 บริษัท หรือกว่า 25 ล้าน ตารางเมตร/ปีไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก ส่วนในอนาคตรูปแบบการทำธุรกิจของ บริษัทโสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ปฯจะหลากหลายมากขึ้น โดยไม่ยึดกับ การขายกระเบื้องปูพื้นและบุผนังเพียงอย่างเดียว แต่สามารถ แตกไลน์ธุรกิจไปสู่การผลิตหรือนำเข้าวัสดุ สำหรับงานพื้นและผนังประเภทอื่นๆ อาทิ สินค้าในกลุ่มไวนิล (ยูพีวีซี) ฯลฯ เพื่อเพิ่มไลน์สินค้าให้ หลากหลายมากขึ้น>