31/10/2552

SCG เร่งขยายตลาดส่งออกบุกตะวันออกกลาง-แอฟริกา

SCG เบนเข็มเน้นส่งออก หลังความต้องการใช้ปูนในประเทศลด เล็งบุกตลาดตะวันออกกลางอินเดีย บังกะลาเทศ แอฟริกาใต้ เหตุความต้องการในตลาดโลกเพิ่ม ตั้งครึ่งปีหลังยอดขายแตะ 10,000 ล้านบาท ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความวุ่นวายทางการเมือง รวมถึงความไม่จริงจังผลักดันโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐให้เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ปูนซิเมนต์ในประเทศน้อยลง ผู้ผลิตปูนซีเมนต์จึงต้องหาแนวทางการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ซึ่งทาง ออกของผู้ผลิตช่องทางหนึ่ง คือ การมองหาตลาดใหม่ๆโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังมีความต้องกาใช้ปูนซีเมนต์อย่างต่อ เนื่อง ธุรกิจซีเมนต์ในเครือซีเมนต์ไทย (SCG Cement) ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ ภายใต้แบรนด์ ปูนช้างและปูนเสือ ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับ สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยเริ่มขยายตลาดส่งออกมากขึ้นหลังจากความต้องการใช้ในประเทศน้อยลง ไพโรจน์ อานามวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจซีเมนต์ เครือซีเมนต์ไทย กล่าวถึงแผนด้านการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯจะขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ ทดแทนยอดขายในประเทศที่ลดลง ขณะที่ตลาดต่างประเทศกลับมีแนวโน้มต้องการใช้ปูน ซีเมนต์เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าตลาดในแถบยุโรปจะมีการชะลอตัวลงบ้างก็ตาม แต่ในประเทศฝั่งตะวันออก เช่น รัสเซีย ตะวันออกลาง อินเดีย บังกะลาเทศ รวมถึงประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ยังมีความต้องการปูนซีเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอินเดียที่ปัจจุบัน รัฐบาลอินเดียสั่งห้ามการส่งออกปูนซีเมนต์ เนื่องจากความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีค่อนข้างสูง จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทฯ จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ปีนี้บริษัทฯมีแผนจะส่งออกปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นอีก 400,000-500,000 ตันจากเดิมที่ส่งออก 7-8 ล้านตัน ส่งผลให้ปีนี้จะส่งออก ปูนซีเมนต์เพิ่มเป็นกว่า 8 ล้านตัน และจะเพิ่มรายได้เข้าบริษัทฯมากขึ้น เพราะราคาส่งออกมากกว่าขายในประเทศ 10% สำหรับยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าจะมียอดขายที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท>