เด็กมีพัฒนาการทางร่างกายตั้งแต่เกิดจนถึงช่วงอายุประมาณ 18 ปี ขณะที่มีพัฒนาการทางสมองสูงสุดที่อายุ 0 - 7 ปี เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้เวลาดังกล่าวผ่านไปอย่างไร้ความหมาย มาออกแบบตกแต่งห้องที่จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกน้อยกันดีกว่า เรามีไอเดียดีๆ มาฝากถึง 8 ข้อ มาเริ่มต่อหัว ข้อที่ 6 พร้อมทั้งคำแนะนำที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก

6. Creativity
เด็กๆ มีพัฒนาทั้งทางร่างกาย และสมองจากการทำงานศิลปะ มาช่วยให้พวกเขาได้แสดงออกด้านความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นตัวของตัวเองด้วยการมีสตูดิโอวาดภาพขนาดย่อม โดยการจัดให้มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับวาดภาพ และงานปั้น อยู่ในมุมสงบของบ้าน ติดราวสำหรับม้วนกระดาษวาดเขียนลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจัดหากระดาษแผ่นใหญ่ไว้ให้พร้อม เตรียมกล่องอุปกรณ์ที่ใหญ่พอจะเก็บอุปกรณ์ และอาจมีกล่องที่เคลื่อนย้ายสะดวกสำหรับศิลปินตัวน้อยนำออกไปวาดรูปในสวนด้วย

tip
ภาพวาดที่น่าภาคภูมิใจของลูกๆ เมื่อนำมาใส่กรอบให้เรียบร้อย แขวนรวมกันไว้หลายๆ ภาพ ก็กลายเป็นของตกแต่งบ้านที่สวยแปลก มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รับรองว่าแขกที่มาเยี่ยมต้องอมยิ้มในความน่ารักของแต่ละผลงานแน่นอน

7. Big storage, big relief
การมีลูก มาพร้อมกับการซื้อของจำนวนมหาศาล ยังไม่รวมของขวัญที่ได้รับมาจากญาติสนิทมิตรสหายทั้งของเล่น เสื้อผ้า หนังสือ หรือของใช้ในแต่ละช่วงวัย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่เก็บของนั้นจำเป็นมาก

ตู้เสื้อผ้า
ไม่ควรเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก หรือมีดีไซน์เฉพาะสำหรับเด็กเพราะพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว และถ้าจะให้ดีควรมีบางชั้นที่ไม่สูงมาก เพื่อให้เด็กๆ สามารถเปิดแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาหัดแต่งตัวเองได้

ที่เก็บของใต้เตียง
ใต้เตียงเป็นพื้นที่ ที่หลายคนลืมไปเลยว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ เตียงบางหลังมีที่เก็บของติดมาด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีก็เพียงหากล่องพลาสติกมีฝาปิดมิดชิด และมีล้อเอาไว้เก็บเครื่องนอน และของใช้ที่นานๆ จะนำออกมาใช้ที

ชั้นเก็บของเล่น
ฝึกให้เด็กๆ รู้จักการเก็บรักษาสิ่งของส่วนตัวโดยการจัดที่เก็บของเล่นที่มีความสูงพอเหมาะ ถ้าใช้กล่องหรือหีบที่มีฝาปิดควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักของฝาที่อาจจะตกลงมาหนีบมือได้

ผนัง และประตู ก็เก็บของได้
ติดชั้นวางหนังสือบนผนัง ในระดับความสูงที่เด็กๆ หยิบเองได้ นำตะขอมาติดบนประตู ใช้แขวนถุงผ้า และกระเป๋า เมื่อโตขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนความสูง หรือติดชั้นเพิ่มเติมบนผนังเป็นการใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

storage for adult
ไม่เพียงแต่ที่เก็บของสำหรับลูกๆ เท่านั้น แต่ตู้ของคุณเองก็ควรได้รับการตรวจตราว่ามีการยึดติดผนังอย่างแข็งแรง ปลอดภัยต่อเด็กๆ ในตู้ หรือชั้นที่มีการเก็บยา เครื่องสำอางค์ น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ควรมีประตูปิดมิดชิด และล็อคให้เรียบร้อย

8. the Outdoor
เด็กๆ ควรได้รับประสบการณ์ การเล่นนอกบ้านด้วยเช่นกัน มีการศึกษาที่พบว่าการเล่นดิน ทราย น้ำ ได้สัมผัสต้นไม้ใบหญ้าอยู่สม่ำเสมอจะทำให้เด็กมีจินตนาการ และภูมิต้านทานสูงขึ้น ช่วยให้ผ่อนคลาย และมีสุขภาพดี

+more idea
สวนเป็นแหล่งทรัพยากรแห่งความสร้างสรรค์ของศิลปินตัวน้อยทุกคน ในวันที่อากาศดีการสร้างงานศิลปะ หรืออ่านหนังสือนอกบ้านก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว ลองจัดลานบ้านให้มีบรรยากาศสบายๆ แล้วพาเด็กๆ ออกมาวาดรูป แล้วดูสิว่าดอกไม้ใบหญ้าโดยรอบจะสร้างแรงบันดาลใจได้มากแค่ไหน

ถ้าคุณมีพื้นที่มาก การสร้างสนามเด็กเล่นขนาดย่อม เช่น สร้างบ้านต้นไม้ ชิงช้า และเครื่องเล่นให้ปีนป่ายเป็นไอเดียน่าสนใจที่จะทำให้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ได้เพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกาย แต่ถ้ามีพื้นที่นอกบ้านเพียงเล็กน้อยคุณก็ยังสามารถสอนให้ลูกๆ สนุกไปกับการเล่นในสวนได้โดยการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อให้เล่นได้อย่างเต็มที่ ปูพื้นด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่ายเพื่อใช้ในการเล่นโคลน ทราย และน้ำ ได้อย่างอิสระแบบกลัวเปื้อน

การเลือกพืชมาปลูกในสวนก็สำคัญ ไม่เพียงแต่ให้ความสดชื่น และออกซิเจนเท่านั้น แต่การเลือกปลูกดอกไม้ ผัก และผลไม้โดยให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมจะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ กลิ่น สี วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Note : อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย เลือกปลูกต้นไม้ที่ไม่เป็นพิษถ้าหากเด็กๆ เผลอกินเข้าไปโดยบังเอิญ และอย่าลืมเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย เช่น กระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ไม่ลื่นเมื่อเปียกน้ำ