เพื่อนๆ ที่กำลังจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้าน คงมีหลายคนที่สนใจในศาสตร์ด้าน ฮวงจุ้ย ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆ มาสู่ชีวิต ในวันนี้แอดมิน Home Buyers ก็เลยมีความรู้ในเรื่องของ 10 ข้อบัญญัติเกี่ยวกับประตูบ้านตามหลักฮวงจุ่ย จากผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ฮวงจุ้ยอย่าง อ.มาโนช ประภาษนนท์ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ลองนำไปสังเกตเวลาเลือกซื้อบ้าน หรือออกแบบสร้างบ้านกันดูค่ะ เพราะฮวงจุ้ยบ้านที่ดี เริ่มต้นกันตั้งแต่ประตูบ้านเลยนั่นเอง

การจัดวางตำแหน่งประตูบ้าน เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะตำแหน่งประตูบ้านที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยเสริมหลักฮวงจุ้ยของบ้านเราได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่มีความเชื่อในด้านนี้ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 10 ข้อบัญญัติเกี่ยวกับประตูบ้านตามหลักฮวงจุ้ย นั้นมีอะไรบ้าง เพื่อป้องกันความผิดพลาดแล้วต้องกลับมายุ่งยากแก้ไขย้ายตำแหน่งในภายหลัง ซึ่งทั้งเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาวุ่นวายน่าดูเลยล่ะ!

1. วางประตูรั้วบ้านรับกระแสวิ่งเข้า

การกำหนดตำแหน่งของประตูรั้วตามกระแสชี่ที่วิ่งเข้าสู่ตัวบ้าน จะต้องดูกระแสวิ่งเข้าเป็นหลัก โดยในตำราฮวงจุ้ยจะระบุเอาไว้ว่า "กระแสวิ่งซ้าย ให้เปิดประตูด้านขวา กระแสวิ่งขวา ให้เปิดประตูด้านซ้าย"  หลักการพิจารณากระแสวิ่งเข้าก็ไม่ยาก ให้นึกถึงเวลาขับรถ กระแสที่วิ่งเข้าก็คือ กระแสที่รถวิ่งเข้าสู่ตัวบ้านนั่นเอง

2. ประตูรั้วบ้านควรอยู่ตำแหน่งมังกร

ถ้านำหลักเสือขาว - มังกรเขียว มาพิจารณา ตำแหน่งประตูรั้วบ้านจะต้องอยู่ด้านซ้ายของบ้านเสมอ เพราะตำราฮวงจุ้ยถือว่า ตำแหน่งมังกรเป็นตำแหน่งใหญ่ การทำเป็นประตูรั้วทางเข้าถือเป็นมงคล จะดีกว่าเปิดประตูทางเข้าในตำแหน่งเสือขาว หรือด้านขวาของบ้าน แต่หลักนี้ไม่ใช่หลักตายตัว ยังต้องดูกระแสวิ่งเข้าประกอบด้วย ทางที่ดีควรปรึกษาผู้รู้ก่อนตัดสินใจ

3. ประตูเข้าบ้านอยู่ตรงกลางบ้าน

การวางตำแหน่งประตูทางเข้าบ้านไว้ตรงกลางจะเหมาะกับบ้านหลังใหญ่ซึ่งมีเนื้อที่เพียงพอเท่านั้น เพราะหลักฮวงจุ้ยห้ามเอาไว้ว่า กระแสที่วิ่งมาจากประตูรั้งทางเข้านั้นห้ามชนตัวบ้าน ดังนั้นถ้าบ้านมีพื้นที่น้อย แล้ววางประตูอยู่ตรงกลางบ้าน โอกาสที่จะกระแสจะวิ่งชนตัวบ้านก็มีสูง เพราะประตูที่จอดรถอาจจะตรงกับประตูเข้าบ้านนั่นเอง

4. ประตูรั้วห้ามตรงกับประตูบ้าน

ขยายความจากข้อที่แล้ว เมื่อได้ตำแหน่งของประตูรั้ว การพิจารณาประตูเข้าสู่ตัวบ้านจะต้องเลือกวางประตูไม่ให้ตรงกับประตูรั้ว เพราะเป็นกฎข้อห้ามในทางฮวงจุ้ย เนื่องจากกระแสจะวิ่งเป็นเส้นตรงเข้าสู่ตัวบ้าน ถือเป็นกระแสที่ร้าย ห้ามวางอย่างเด็ดขาด ตำแหน่งที่ดีก็คือ ประตูเข้าบ้านจะต้องอยู่เฉียงกับประตูรั้ว

5. บริเวณหน้าประตูต้องโล่ง

หน้าประตูทางเข้าบ้าน ถ้าเป็น สนามหญ้า สวนหย่อม หรือมีที่โล่ง จะถือว่าดีมาก เพราะบริเวณที่โล่งหน้าประตูบ้านก็คือ เหม่งตึ้ง หรือลานรับพลังนั่นเอง ตำราฮวงจุ้ยเขียนไว้ชัดว่า หน้าประตูห้ามอุดตัน หรือมีสิ่งปิดบัง เช่น ต้นไม้ใหญ่ บริเวณหน้าประตูที่ดีจะต้องมีแสงแดดส่องถึง มีลมพัดผ่านได้ดี เพื่อให้บ้านนั้นได้รับแต่สิ่งดีๆเข้าบ้าน

6. หลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งประตูอยู่ข้างบ้าน

ปกติแล้วแบบบ้านส่วนใหญ่ มักวางตำแหน่งประตูเข้าบ้านให้หันไปทางหน้าบ้าน มากกว่าจะวางประตูเข้าไว้ทางด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งข้อดีของประตูที่หันหน้าไปสู่ถนนหน้าบ้านนั้นจะรับกระแสเข้าได้ดีกว่า

7. ประตูเข้าบ้านห้ามมี 2 ประตู

เป็นกฎข้อห้ามอีกอย่างหนึ่ง เพราะในทางฮวงจุ้ยถือว่า การมีประตูทางเข้าบ้าน 2 ประตู เท่ากับมี 2 ปาก จะเก็บทรัพย์ไม่อยู่

8. ขนาดของประตูต้องสมดุลกับตัวบ้าน

ประตูจะใหญ่จะเล็ก ต้องขึ้นอยู่กับตัวบ้านเป็นหลัก ประตูถ้าเล็กเกินไป ทำให้กระแสชี่ไหลเข้าไม่สะดวก ถ้าประตูใหญ่เกินไป กระแสชี่ก็จะกระจายออก เก็บรักษาชี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทำให้พอดีกับขนาดของบ้านก็แล้วกัน แต่ส่วนใหญ่ประตูเข้าบ้านถ้ามีขนาดใหญ่จะดีกว่าเล็ก และผู้ที่เชื่อในด้านฮวงจุ้ยมักทำเป็นประตูเปิดแบบสองบานมากกว่าประตูบานเดียว

9. การกำหนดทิศของประตู

การที่ประตูจะหันไปทิศทางไหนดีนั้น ในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า ให้พิจารณาชัยภูมิให้ถูกต้องเสียก่อน ไม่ใช่เอาทิศมาเป็นตัวกำหนด ทิศของประตูที่ดีในตำราบอกว่า ทิศใต้ดีที่สุด เพราะทิศใต้เป็นทิศของทรัพย์หรือโชคลาภ นอกจากนี้ยังเป็นทิศทางลมที่ดีอีกด้วย รองลงมาก็เป็นทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศของมังกร เป็นทิศที่แสงจะส่องตอนเช้า ส่วนทิศไม่ดีก็คือทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่นำโรคภัยมาให้ เพราะเป็นทิศอับลม ฤดูหนาวก็นำลมแห้งแล้งมาสู่บ้าน มีแต่เรื่องเจ็บป่วยตลอดปี ส่วนทิศตะวันตก แดดส่องเข้าประตูในตอนบ่าย ทำให้บ้านร้อน (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)

10. ประตูควรเปิดเข้า

การเปิดประตูในลักษณะเปิดเข้าย่อมดีที่สุด เพราะกระแสจะไหลอย่างราบรื่นตามธรรมชาติ 

นี่คือ 10 ข้อบัญญัติเกี่ยวกับประตูบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ที่เรานำมาฝากกันค่ะ ใครที่กำลังจะเลือกซื้อบ้านหรือออกแบบสร้างบ้าน ก็ลองนำความรู้นี้ไปใช้กันดูนะคะ หลายๆ ข้อนอกจากจะอิงจากหลักฮวงจุ้ยแล้ว ถ้าคิดดูดีๆ จะเห็นว่ามีความสมเหตุสมผลตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วยล่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : อ.มาโนช ประภาษานนท์ (www.homedd.co.th)