-
K WEALTH ชื่นชอบหุ้น Mid Cap ที่มีคุณภาพสูงมากกว่าหุ้น Small Cap เนื่องจากดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงแม้ว่ามีการลดลงมาบ้างแล้ว โดยเรามองว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง ประกอบกับการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ของหลายบริษัทในกลุ่ม Mid Cap จะเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนโมเมนตัมราคาหุ้นต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว
-
แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงมากทยอยสะสม SCBUSAA ที่มีกองทุนหลัก คือ Morgan Stanley US Growth Fund ซึ่งเฟ้นหาหุ้นเติบโต ซึ่งปัจจุบันหลักๆ เป็นหุ้นขนาดกลางที่มีความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน มีแนวโน้มเติบโตเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในอนาคต แนะนำสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 30% ของพอร์ตการลงทุน* ขณะที่ Core Portfolio แนะนำลงทุนใน K-WP series ได้แก่ K-WPBALANCED / K-WPSPEEDUP / K-WPULTIMATE ตามความเสี่ยงและความผันผวนที่ลูกค้ารับได้
หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เริ่มผันผวนสินทรัพย์ไหนมีโอกาสเฉิดฉายแทนในปี 2025?
สินทรัพย์ในตลาดการเงินโลกเริ่มผันผวนมากขึ้นในครึ่งหลังของปี 2024 ทำให้นักลงทุนเริ่มกระจายความเสี่ยงออกจากหุ้นเทคโนโลยีเพียงไม่กี่ตัวไปยังหุ้นมูลค่า (Value) หุ้นขนาดเล็ก รวมไปถึงหุ้นจีนที่จะฟื้นจริงหรือหลอกต้องติดตามกันต่อไปในปีนี้หลังรัฐบาลจีนอัดมาตรการกระตุ้นมาอย่างหนัก สำหรับมุมมองการลงทุนในปี 2025 นี้ทาง K WEALTH เรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แต่เนื่องจากดอกเบี้ยที่ขึ้นมาจากระดับ 0% ในทศวรรษที่แล้วปัจจุบันยังคงอยู่เหนือระดับ 4.5% และจากถ้อยแถลงล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขตลาดแรงงานเดือนธันวาคม 2024 ทำให้นักลงทุนมองว่าดอกเบี้ยจะปรับตัวลงเพียง 1-2 ครั้งหรือไม่เกิน 0.5% (ภาพที่ 2) ทำให้เรายังคงระมัดระวังการลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างกำไรสุทธิในอนาคตอันใกล้ได้ แม้ในครึ่งหลังของปี 2024 หุ้นขนาดเล็กทำผลตอบแทนได้โดดเด่น แต่ก็มีความผันผวนสูงไปตามข่าวที่เกี่ยวเนื่องกับอัตราดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้าม เราสนใจกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง มีอัตราการเติบโตชัดเจนโดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง หากดูผลตอบแทนของ S&P 400 Mid Cap Index ตามกราฟด้านล่าง (ภาพที่ 1) จะเห็นว่าผลตอบแทนในครึ่งปีหลัง 2024 ทำได้ +7.30% ซึ่งทำได้ดีกว่าดัชนี Nasdaq 100 ที่ทำได้ +7.16% เล็กน้อย แต่มองไปข้างหน้าเราเชื่อว่าหุ้นขนาดกลางคุณภาพสูงโมเมนตัมจะดีต่ออย่างน้อยในครึ่งแรกของปี 2025 จาก 1.ตลาดเริ่มลงทุนแบบกระจายตัวออกจากหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น 2.แม้ดอกเบี้ยยังอยู่ระดับสูงแต่ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว ขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งสนับสนุนการใช้จ่ายในภาคบริการ และ 3.บริษัทต่างๆ นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและมีแนวโน้มช่วยเพิ่มผลกำไรสุทธิ
ภาพที่ 1 ผลตอบแทนรวมแต่ละสินทรัพย์ทั่วโลกในครึ่งหลังของปี 2024 (%)
ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2024
ภาพที่ 2 คาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยนักลงทุนชี้ให้เห็นว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจจะยังอยู่สูงกว่า 4% ตลอดทั้งปี 2025
ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 13 ม.ค. 2025
กองทุนค่ายไหนบนแอพพลิเคชัน K PLUS ทำผลตอบแทนโดดเด่นในปี 2024 แล้ว K WEALTH ชอบกองไหน?
รีวิวตลาดกันแล้วมาต่อกันด้วยรีวิวกองทุน…ปัจจุบันนักลงทุนสามารถซื้อกองทุนจากบลจ.ชั้นนำบน K PLUS ได้กว่า 15 บลจ. และในปีที่แล้วกองทุน Passive ที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นไปราว 20% ก็ว่ามากแล้ว แต่ก็มีกองทุนของอีกหลายค่ายที่ทำผลตอบแทนได้โดดเด่นหลายกองทุนปรับตัวขึ้นไปมากกว่า 20% หมายความว่านักลงทุนสามารถคว้าโอกาสลงทุนเพิ่มเติมจากกองทุนคุณภาพหลากหลายธีมตามความชอบส่วนตัว หากเราดูกราฟด้านล่าง (ภาพที่ 3) จะเห็นว่ากองทุนธีมอินเตอร์เน็ตมาแรง รวมไปถึง K-ICT กองทุนหุ้นไทยที่เน้นหุ้นกลุ่มสื่อสารบวกเหนือตลาดหุ้นไทยหลายเท่าตัว หากมองลึกลงไปจะเห็นว่ากองทุนที่ทำผลตอบแทนดีปีที่แล้วกระจุกอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีถึง 7 กองทุนตามกราฟด้านล่าง และผลตอบแทนบางกองทุนขับเคลื่อนด้วยหุ้นเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น เราจึงแนะนำให้ “นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดของแต่ละกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะผลตอบแทนที่ดีในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต…” คุ้นๆกันใช่ไหมครับประโยคนี้ แต่ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะในกรณีที่ผลประกอบการจริงออกมาแย่กว่าที่คาด ราคาหุ้นที่ขึ้นมาด้วยความคาดหวังอาจลดลงอย่างรวดเร็วได้เช่นกันและกระทบต่อผลตอบแทนของกองทุน
อย่างไรก็ตาม K WEALTH ได้ทำการบ้านมาให้ 1 กองทุนสำหรับนักลงทุนสายซิ่งซึ่งก็คือ SCBUSAA กองทุนนี้ไม่เพียงตอบโจทย์มุมมองการลงทุนภาพใหญ่ของเราที่ชื่นชอบหุ้นขนาดกลาง แต่ SCBUSAA ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และลงทุนหลากหลายอุตสาหกรรม จึงเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงออกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว โดยจุดเด่นของกองทุนนี้ คือ ลงทุนผ่าน Morgan Stanley Investment Fund ที่มีผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์ เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลางที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในอนาคต ยกตัวอย่างในอดีต เช่น Amazon.com และ Tesla ในอดีตก็เคยเป็นหุ้นขนาดกลาง ก่อนที่ปัจจุบันจะก้าวขึ้นเป็นหุ้นขนาดใหญ่มากใน Magnificent 7 นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความก่อนหน้าที่ K WEALTH ได้ออกไป “ต้อนรับทรัมป์ 2.0 ด้วย SCBUSAA! และ K-USA ” ตามลิงก์นี้เลยครับ
ภาพที่ 3 ผลตอบแทนกองทุน (%) ที่เสนอขายบน K PLUS สูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2024 เปรียบเทียบกับกองทุนที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 (ขวาสุด)
ที่มา Morningstar ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2024
รีวิวหุ้นเด่นในกองทุน SCBUSAA เพิ่มความมั่นใจ!
- Cloudflare บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับระบบคลาวด์ ช่วยให้การโหลดเว็บไซต์รวดเร็วขึ้นและช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity ที่ทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทให้บริการในกว่า 120 ประเทศ โดยบริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ประกาศกำไรสุทธิออกมาเหนือความคาดหมายของตลาด 8 ไตรมาสล่าสุดติดต่อกัน (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2024 กองทุนถือลงทุนเป็นอันดับ 1 ที่สัดส่วน 7.94%)
- Shopify ออนไลน์แพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ E-Commerce สร้างร้านค้าออนไลน์แบบสำเร็จรูป มีระบบการจัดการทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน Shopify สร้างรายได้ผ่าน subscription model โดยมีให้เลือกตั้งแต่แบบ basic ไปจนถึงระดับ advanced ที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ Shopify เรียกเก็บต่อรายการจะลดลงตามแพคเกจการ subscription ที่สูงขึ้น ในไตรมาสล่าสุดบริษัทประกาศกำไรสุทธิออกมาเหนือความคาดหมายของตลาดและนักวิเคราะห์ต่างประเทศหลายเจ้าปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภายในองค์กรและลูกค้า (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2024 กองทุนถือลงทุนที่สัดส่วน 6.82%)
- Roblox ออนไลน์แพลตฟอร์มที่เป็นระบบสร้างเกม โดยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและเล่นเกมที่สร้างโดยผู้ใช้อื่นได้ฟรี แต่มีการซื้อไอเทมต่างๆในเกมผ่านสกุลเงินเสมือนที่เรียกว่า Robux แม้บริษัทยังไม่สามารถทำกำไรได้แต่แนวโน้มการขาดทุนลดลง เริ่มมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก และรายได้ในต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น อาทิ ยุโรปที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 15% เอเชียแปซิฟิกประมาณ 9% (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2024 กองทุนถือลงทุนที่ 4.62%)
ภาพที่ 4 พอร์ตการลงทุนปัจจุบันของ Morgan Stanley US Growth Fund
ที่มา Morgan Stanley Investment Fund ณ วันที่ 30 พ.ย. 2024
คำแนะนำการลงทุน
เรามีมุมมองเชิงบวกกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่นเฉพาะตัว และมองว่าการเลือกหุ้นลงทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการลงทุนบนดัชนีในช่วงนี้ จึงแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงมากทยอยซื้อ SCBUSAA เมื่อตลาดย่อตัวลง โดยลงทุนไม่เกิน 30% ของพอร์ตการลงทุน* เพิ่มเติมจาก Core Portfolio ที่ K WEALTH แนะนำใน K-WP series ได้แก่ K-WPBALANCED / K-WPSPEEDUP / K-WPULTIMATE ตามความเสี่ยงและความผันผวนที่ลูกค้ารับได้